E-DUANG : ปฎิบัติการ จากวิทูรย์ นามบุตร ความหวาดระแวง ใน“เพื่อไทย”

พลันที่มีการส่งเสียงจาก นายวิฑูรย์ นามบุตร ในการสื่อผ่าน นาย เกรียง กัลป์ตินันท์ ไปยัง โทนี่ วู้ดซั่ม แสดงความจำนงจะเข้าไปอยู่ในร่มเงาของพรรคเพื่อไทย

ก็ก่อให้เกิดอาการหวาดผวาขึ้นอย่างถ้วนหน้าจากอุบลราชธานีถึงจังหวัดน่านและแม้กระทั่งในมหานครดูไบ

เกิดคำถามตามมาว่าเป้าหมายในการเคลื่อนไหวของ นายวิฑูรย์ นามบุตร คืออะไรกันแน่ ปรารถนาจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพรรคเพื่อไทยอย่างแท้จริง หรือเสมอเป็นเพียง”กับดัก”

ความตื่นตัวอย่างรวดเร็วไม่เพียงแต่จะสัมผัสได้จากท่าทีอันมา จาก นายเกรียง กัลป์ตินันท์ หากแม้กระทั่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ก็มากด้วยความระมัดระวัง

คำถามมิได้อยู่ที่ว่าทำไมต้องเป็น นายวิฑูรย์ นามบุตร ทำไมต้องเป็น นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เหตุผลไม่น่าจะอยู่ที่ทั้ง นายวิฑูรย์   

และ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ ล้วนเป็นคนอุบลราชธานีเหมือนกัน

หากแต่น่าจะเป็นจุดอ่อนไหวอันมี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อยู่ในฐานะ “สายล่อฟ้า”ในทางการเมืองมากกว่า

 

นอกเหนือจาก นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล แล้วรับรู้กันหนักแน่น ว่า นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เป็นอีกคนหนึ่งที่สามารถต่อ”สายตรง”ไป ยัง โทนี่ วู้ดซั่ม ได้

การปรากฏขึ้นของ นายวิฑูรย์ นามเมือง ที่มีสายสัมพันธ์อยู่กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มาอย่างยาวนานจึงก่อความหวาดระแวง

เพราะกระบวนการของ นายวิฑูรย์ นามเมือง ละม้ายเหมือนกับ กระบวนการอันเคยเกิดขึ้นทั้งกับพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนผ่านฝีมือ”นกต่อ”ทางการเมือง

ในเมื่อการให้สัมภาษณ์ของ นายวิฑูรย์ นามเมือง ก็เป็นการเปิดประเด็นผ่านสื่อท้องถิ่นของอุบลราชธานีอย่างเป็นด้านหลัก 

การปัดปฏิเสธจาก นายเกรียง กัลป์ตินันท์ จึงหนักแน่นมั่นคง

 

ข้อไม่ควรมองข้ามก็คือ คล้อยหลังปฏิบัติการ นายวิฑูรย์ นามเมือง ที่อ้างว่าติดต่อผ่าน นายเกรียง กัลป์ตินันท์ ปรากฏขึ้น นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ก็ต่อยอดขึ้นโดยอัตโนมัติ

ดำรงจุดมุ่งหมายเดิมคือหาทางยุบพรรคเพื่อไทยอย่างแน่วแน่

ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของ นายศรีสุวรรณ จรรยา ไม่ว่าจะเป็นของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ หรือ นายสนธิญา สวัสดี

เป้าหมายยังเป็นหาทางยุบพรรคเพื่อไทยไม่พลิกผันแปรเปลี่ยน