เผยแพร่ |
---|
บทบาทของ “ชุดควบคุมฝูงชน” หรือ “คฝ.”ในการสลายการชุมนุมและเคลื่อนไหวทางการเมือง กำลังอยู่ในสายตาและการพิสูจน์ทราบ ของสังคมอย่างเข้มงวดจริงจัง
ไม่ว่าจะเป็นการจ่อปากกระบอกปืนเข้าใส่ “ประชาชน” ไม่ว่าจะเป็นการยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่”ประชาชน”
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)ยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติไปตามหลักการและแนวทางอันเป็น”สากล”นั้นมีความจริงรองรับอยู่อย่างหนักแน่นและจริงจังเพียงใด
ในเมื่อความเป็นจริงทางด้านของผู้ชุมนุมที่เรียกว่าเป็นอาวุธก็ เป็นเพียงหนังสติ๊กกับลูกแก้ว ก็เป็นเพียงสีที่สาดเข้าใส่ในเชิงสัญลักษณ์ ก็เป็นเพียงพลุหรือระเบิดทำเอง
ยิ่งเมื่อการยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่มิได้จำกัดอยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งอันเท่ากับเป็นการเตือน แต่เป็นการยิงเข้าใส่ใบหน้า
กระทั่ง ผู้เข้าร่วมการชุมนุมอาจถึงกับ”ตาบอด”
กระทั่ง ในการเข้าสลายการชุมนุมล่าสุดยังก่อให้เข้าใจได้ว่ามีการใช้กระสุน”จริง”ยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม
ในเบื้องต้นของแนวทางและวิธีปฏิบัติของหน่วยควบคุมฝูงชนอาจยังไม่ปรากฏเป็นข่าวอย่างกว้างขวางเท่าใดนัก
เพราะอยู่แต่เพียง”ออนไลน์”ยังไม่เข้าไปในสื่อ”กระแสหลัก”
แต่สถานการณ์นับแต่ตอนค่ำของวันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นมา สังคมเริ่มได้รับทราบรายละเอียดของปฏิบัติการแห่ง”หน่วยควบคุม ฝูงชน”อย่างใกล้ชิด
ได้เห็นความคึกคะนองเมื่อดำรงอยู่ในสถานะผู้รุกไล่อีกฝ่าย ได้สัมผัสกับคำขอ”ขอพี่ได้สนุกบ้าง”จากปากของหน่วยควบคุมฝูงชนที่สาดกระสุนยางเข้าใส่ผู้ชุมนุมอย่างคึกคัก
และที่สุดความหวั่นวิตกของสังคมก็เริ่มก้าวสู่”กระสุนจริง”
ความขัดแย้งระหว่าง”ตำรวจ” กับ”ผู้ชุมนุม”ก็เริ่มบานปลาย
พลันที่มีการลั่น”กระสุนจริง”เข้าใส่ประชาชน นั่นหมายถึงลักษณะการเผชิญหน้าระหว่างหน่วยควบคุมฝูงชนกับผู้เข้าร่วมในการชุมนุม จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและพิสูจน์ทราบโดยด่วน
ก่อนที่ความขัดแย้งจะบานปลาย และข้อมูลจะกระจายไปอย่างกว้างขวางมากกว่านี้