รหัสยนัยทางการเมือง ไม่ว่าจะมาจากสถานการณ์”โควิด” ไม่ว่าจะมาจากสถานการณ์”วัคซีน” ไม่ว่าจะมาจากสถานการณ์”เงินกู้”และงบประมาณแผ่นดิน

กำลังเป็น “รหัสยนัย” อันเท่ากับเป็นการส่ง “สัญญาณ”แห่งการเปลี่ยนแปลงในทางการเมือง

ปมเงื่อนอยู่ที่ว่าจะนำไปสู่”การตีความ”หรือ”นิยาม”อย่างไร

พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรค ชาติไทยพัฒนา อาจมองตามความเคยชินในทางการเมืองว่าเป็นคุณ อำนวยประโยชน์

เพราะนี่คือ ปัจจัยและ”เครื่องมือ”อันทรงความหมายและกว้างไกลในการสร้างคะแนนและความนิยม

ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังปวงชนไทย มองต่าง

มองเห็นเป็น”จุดเริ่มต้น”ที่จะก้าวไปสู่”การเปลี่ยนแปลง”

เพราะการต่อสู้อันแหลมคม หมัดต่อหมัดจะมีผลสะเทือนอย่างลึกซึ้งต่อผลการเลือกตั้งที่จะตามมาในอีกไม่นาน

ไม่ว่าจะมองจากด้านของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะมองจากด้านของ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ล้วนเรียกร้องต้องการการสำรวจ ศึกษาอย่างจำแนกแยกแยะ วิเคราะห์

ถอดนามธรรมในทางความคิด ออกมาเป็นรูปธรรมเพื่อนำไปสู่การเคลื่อนไหวที่เป็นจริงในทางการเมือง

ความจริงปมรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 แหลมคม อย่างยิ่งและเป็นคำตอบโยงสายยาวไปยังปมรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 อยู่แล้ว

การเข้ามาของไวรัส”โควิด”กลับเป็นบททดสอบอันยิ่งใหญ่และทรงพลังเป็นอย่างสูง ทำให้ความจริงที่ซ่อนเร้นถูกเปิดโปงออกมา

เพียงแต่ว่า”ความจริง”นั้นจะประมวลและสรุปอย่างไรเท่านั้น

การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นครั้งหน้าจึงเป็นการเลือกตั้งที่ท้าทายต่อภูมิ ปัญหาภายในสังคมประเทศไทยอย่างแหลมคมและจริงจังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

แต่ละพรรคการเมือง แต่ละกลุ่มการเมืองต่างดำรงอยู่ในลักษ ณะอันเป็น”ตัวแทน”ในทางความคิด

เข้าปะทะและต่อกรกันอย่างเข้มข้นและไม่ประนีประนอม