เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของ”ขันแดง”ในยุคหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของการแต่ชัด”ไปรเวต”ในยุคแห่งนักเรียนเลวในเดือนธันวาคม 2563
เด่นชัดอย่างยิ่งว่าเป็นการเคลื่อนไหวเชิง”สัญลักษณ์” สร้างความหวั่นไหวในทางความคิด
เพราะว่าพลันที่ประกาศว่าจะแจก”ขันแดง”เพื่อใช้ในเทศกาลสงกรานต์ ที่ตามมาก็คือเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองต่างเข้าประชิดแหล่งสะสม”ขันแดง”
ไม่ว่าจะปรากฏที่จังหวัดน่าน ไม่ว่าจะปรากฎที่จังหวัดอุบลราชธานี ไม่ว่าจะตระเตรียมที่จังหวัดร้อยเอ็ด ล้วนไม่สามารถนำแจกจ่ายได้โดยสะดวก
กระนั้น หากกล่าวในเชิงปฏิบัติการด้านจิตวิทยา เรื่องราวของ”ขันแดง”ก็ได้รับการเล่าขานปากต่อปาก กลายเป็นพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์รับรู้กันทั้งในและต่างประเทศ
กรณีของ”ขันแดง”เป็นเช่นใด กรณีของการนัดแต่ง”ไปรเวต”ไปโรงเรียนในวัดเปิดเทอมก็เป็นเช่นนั้น
กระบวนการเปิดตัวของข่าวสาร กับ กระบวนการต่อต้านดำเนินไปด้วยความคึกคักเข้มข้น ไม่ว่าจะมาจากด้านของ”นักเรียนเลว” ไม่ว่าจะมาจากด้านของ”โรงเรียน”
เด่นชัดว่า “นักเรียนเลว”มีพันธมิตรในแนวร่วมของตนมากกว่า 20 โรงเรียน
จากจำนวนอาจแลดูน้อยนิดเมื่อเทียบกับทั้งประเทศ
กระนั้น ปฏิกิริยาอันมาจากกระทรวงศึกษาธิการเมื่อประสานเข้ากับปฏิกิริยาอันมาจากแต่ละโรงเรียน สัมผัสได้ในความปั่นป่วน โกลาหลอย่างเด่นชัด
ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนกับเมื่อตอนมีการรณรงค์ในเรื่องชู 3 นิ้วระหว่างเคารพธงชาติ ติดโบขาวเพื่อประท้วง สัมผัสได้ในความไม่ เป็นเอกภาพของกระทรวงศึกษาธิการและโรงเรียนได้เป็นอย่างดี
ทั้งๆที่ยังไม่ถึงวันที่ 1 ธันวาคม ข่าวการแต่งชุด”ไปรเวต”ไปโรงเรียนก็กลายเป็นประเด็น กลายเป็นวาระ
หากมองปรากฏการณ์เหล่านี้เป็นเหมือนกับ”สงคราม” ทั้งหมดนี้มิได้เป็นสงคราม”จริง” หากเสมอเป็นเพียงสงครามทางด้าน”การข่าว” เป็นการปล่อยข่าว”แกง”มากกว่า
เพียงแค่นี้สังคมก็สัมผัสได้ในความเปราะบางอันดำรงอยู่ภายในแวดวงการศึกษาไทย
เพียง”นักเรียนเลว”ขยับก็ติดกับกันทั้งกระบวน