E-DUANG : อ่าน แนวโน้ม การเมืองใหม่ จังหวะก้าวของ อนาคตใหม่

พลันที่การเลือกตั้งเปิดช่องทางให้พรรคอนาคตใหม่ผ่านคะแนนกว่า 6.2 ล้าน อันส่งผลให้ได้ ส.ส.ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีราย ชื่อมากกว่า 80

กระบวนการทางการเมืองก็มาถึงจุดตัด กลายเป็นเส้นแบ่งสำคัญในการต่อสู้ทางการเมือง

เด่นชัดว่าการต่อสู้ในระบบ แม้ว่าจะอยู่ภายใต้กติกาที่บัญญัติไว้อย่างจำกัด และปักธงไว้ล่วงหน้าผ่านความได้เปรียบจาก 250 ส.ว.

แต่ก็มิได้หมายความว่า “โอกาส” จะไม่มีเอาเสียเลย

อย่างน้อยการทะยานมาเป็นพรรคอันดับ 3 ของพรรคอนาคตใหม่ก็เป็นเครื่องยืนยัน

อย่างน้อยคำประกาศ”อนาคตเรากาหนดได้”ก็เป็นจริง

 

แนวโน้มการเมืองอันสะท้อนผ่านความสำเร็จที่พรรคอนาคตใหม่ได้รับ เท่ากับเป็นการชี้ให้เห็นว่าการเมืองก้าวต่อไปยังมีความหวัง ยังมีความเป็นไปได้

มิได้อยู่ในภาวะอับจนเหมือนที่หลายคนในพรรคประชาธิปัตย์เกิดความรู้สึก

หลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548

กระทั่งเข้าไปมีเอี่ยวกับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

มิได้อยู่ในภาวะอับจนเหมือนที่พรรคพลังประชาชนเกิดความรู้สึกจากการถูกยุบพรรคเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 กระทั่งเข้าไปมีเอี่ยวกับการเคลื่อนไหวของนปช.

มิได้อยู่ในภาวะอับจนเหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์เกิดความรู้สึกหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 กระทั่งเดินออกจากพรรค เดินออกจากสภามาประกาศเป็น”กปปส.”

การเมืองหลังเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 แม้จะมีปัญหาแต่ก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไม่จำเป็นต้องออกมาสู่ท้องถนน

 

จับจากการเคลื่อนไหวของพรรคอนาคตใหม่เด่นชัดอย่างยิ่งว่าทุกความเห็นยังอยู่ในกฎกติกา ยังไม่มีเบาะแสอะไรที่จะเป็นเหมือน พรรคประชาธิปัตย์เมื่อปลายปี 2556 ต่อต้นปี 2557

1 พรรคอนาคตใหม่ยังต่อสู้ในเกมตามกฎตามกติกา

ขณะเดียวกัน 1 พรรคอนาคตใหม่ยังสำแดงความพร้อมที่จะรุกเข้าไปในสนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่นอันเป็นเรื่องปรกติธรรมดา

ไม่มีอะไรที่”ซ้ายจัด ดัดจริต”เลยแม้แต่นิดเดียว