เผยแพร่ |
---|
เริ่มมีความแจ่มชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่า การชู 3 นิ้วไม่ว่าจะมา จาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าจะมาจาก นายปิยบุตร แสง กนกกุล อาจจะมิได้เป็นเช่นเดียวกับ ฮังเกอร์ เกมส์
เช่นเดียวกับที่มีความหวาดเกรงว่าพรรคอนาคตใหม่จะหนุน ให้เกิดการต่อสู้บนท้องถนน
ก็ยิ่งห่างไกลจากเจตนาและความต้องการ
ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า”จินตภาพ”ของสังคมต่อการต่อสู้ทางการเมืองอาจผูกติดกับประสบการณ์อันเป็น”จิตเดิมแท้”บางอย่าง ดำรงอยู่
บางคนอาจนึกถึงเดือนตุลาคม 2516 บางคนอาจนึกถึงเดือน พฤษภาคม 2535 อันนำไปสู่ภาพพันธมิตร นปช.และกปปส.
โดยลืมไปว่านี่คือเดือนมีนาคม 2562
นับแต่พรรคอนาคตใหม่เริ่มปรากฏตัวในเดือนมีนาคม 2561 ได้ก่อให้เกิดความคาดหมายไปต่างๆนานา
เพราะว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เคยอยู่”นิติราษฎร์”
เพราะว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคยอยู่”สนนท.”และเคยร่วมเคลื่อนไหวกับสมัชชาคนจน เคยต่อต้านการวางท่อแก๊สไม่ว่าที่ภาคใต้หรือภาคกลาง
จึงเห็นว่าน่าจะมีความต่อเนื่องจากการเคลื่อนไหวในแบบเดือนตุลาคม 2516 การเคลื่อนไหวในแบบเดือนพฤษภาคม 2535
รวมถึงการเคลื่อนไหวในแบบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในปี 2548-2549 การเคลื่อนไหวในแบบนปช.ในปี 2552-2553 การเคลื่อนไหวในแบบกปปส.ในปี 2556-2557
กระทั่งมองข้ามบทบาทและความหมายในการก่อรูปขึ้นเป็น พรรคอนาคตใหม่ กระทั่งมองข้ามบทบาทและความหมายในการส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง
ด้านหลักของพรรคอนาคตใหม่จึงเป็นการต่อสู้ในหนทางรัฐสภา ไม่ว่าระดับท้องถิ่น ไม่ว่าระดับประเทศ
ไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล ล้วนเข้าสู่บทพิสูจน์ความเป็นไปได้ในการต่อสู้ผ่านหนทางรัฐสภา ผ่านพรรคการเมือง
ด้านหนึ่ง ต้องการพิสูจน์แนวโน้มและความเป็นไปได้
ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง สังคมก็จะต้องร่วมกันตรวจสอบถึงแนวโน้มและความเป็นได้ด้วยว่าจะมีมากน้อยเพียงใด
เพื่อยืนยันว่ากระบวนการ แนวทางนี้ไม่เหลือบ่ากว่าแรง