E-DUANG : อาตมา รักโยมเดียร์ เว้าวอน เสียงจาก อาราม อันทรงพลัง

การปรากฏขึ้นของบทเพลง”อาตมารักโยมเดียร์”พร้อมกับเสียงกล่าวขวัญถึงแต่ละจังหวะก้าวของภาพยนตร์เรื่อง”สาธุ”

กลายเป็น”บาทก้าว”หนึ่งแห่งการรุกในทาง”วัฒนธรรม”

เพราะกระบวนการแห่ง”อาตมารักโยมเดียร์”มิได้เป็นเรื่องของเพลงๆเดียวในลักษณะแห่ง”ซิงเกิล”

ตรงกันข้าม ปรากฏขึ้นอย่างเป็น”ระบบ”มีลักษณะเด่นชัดว่าเป็น”ขบวนการ” ผ่านการตระเตรียมและวางแผนมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

“สาธุ”มิได้เป็นประดิษฐ์กรรมอย่างที่เรียกว่า”หนังสั้น” หากแต่ดำรงอยู่ในกระบวนการแห่ง”หนังเรื่อง”

ตอนที่ฉายในโรงอาจมีเสียงตอบรับไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบตัวเลขกับ”อาม่า” แต่ก็ถือว่าเป็นการเจาะทะลวงเข้าไปในพรมแดนแห่งศาสนาอย่างแยบยล

เมื่อผ่านจากหนังโรงเข้าไปอยู่ในระบบแห่งเนทฟลิกซ์ ลงลึกเข้าไปในโลกของออนไลน์ ในระดับสากลเป็นอย่างไรไม่มีใครตอบได้ แต่ระดับภายในประเทศไทยต้องยอมรับว่าติดเทรนด์เป็นไวรัล

บทเพลง”อาตมารักโยมเดียร์”นั่นแหละที่ติดหู ยวนเย้าเร้าให้เข้าไปดูเนื้อในของ”สาธุ”อย่างต่อเนื่อง

 

หากนำเอา”อาตมารักโยมเดียร์”ไปเทียบกับเพลงในลักษณาการเดียวกันในอดีตอย่างเช่นเพลง”โยม ค้างกับพระสักคืนไหมโยม”ที่เคยฮิตติดอันดับ

ก็จะสัมผัสและรับรู้ได้ในพัฒนาการไม่ว่าในทาง”เนื้อหา” ไม่ว่า”รูปแบบ”

“โยม ค้างกับพระสักคืนไหมโยม”เป็น”ลูกทุ่ง”

ขณะที่”อาตมารักโยมเดียร์”เป็นเพลงร่วมสมัยลีลาในแบบที่นิยมของคนรุ่นใหม่ จะว่าเป็น”ลูกกรุง”ก็ได้ แต่เป็นลูกกรุงอันแฝงกลิ่นอาจตะวันตก

ขณะเดียวกัน รูปแบบการนำเสนอก็เป็นภาษาสมัยใหม่ “อาตมารักโยมเดียร์ อยากให้รู้ได้ยินไหม อาตมารักโยมเดียร์ อยากจะรู้ ได้ยินไหม”

ทั้งมิได้มาเดี่ยวหากแต่มาพร้อมกับ”ฮักโยมก็กลัวบาป จะตัดขาดก็กลัวเจ็บ” รวมถึง”อยากสึกเมื่อนึกถึงโยม”

 

การปรากฏขึ้นของ”อาตมารักโยมเดียร์” แตกต่างไปจาก”โยม ค้างกับพระสักคืนไหมโยม”อย่างแน่นอน

กรณีโยมเดียร์เสมอเพียงเว้าวอน ต่างไปจากการชวนตาค้าง

แรกที่”โยม ค้างกับพระสักคืนไหมโยม”ก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านแข็งขืน แต่พลันที่”อาตมารักโยมเดียร์”ก็นำไปสู่วัฒนธรรมแห่งการโคฟเวอร์ตามมาอย่างคึกคัก

ในโลกแห่ง”โซเชียล มีเดีย”ขานรับไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า”เดี่ยว สเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์ พาวเวอร์”เลย