E-DUANG : เวที ดีเบต ประชัน วิสัยทัศน์ แจ่มชัด เมื่อใกล้ 24 มีนาคม

การต่อสู้การเมืองโดยมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมเป็นหลักในการตัดสิน แท้จริงแล้ว เท่ากับเป็นเงาสะท้อนของการต่อสู้ทาง ความคิด

ระหว่างความคิด “เผด็จการ” กับความคิด “ประชาธิปไตย”

ระหว่างประชาธิปไตยที่ “ล้าหลัง” กับ ประชาธิปไตยที่”พัฒ นา”

ระหว่าง “จารีตนิยม”กับ “เสรีนิยม”

ยิ่งมีการนำเสนอนโยบายไม่ว่าในทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าในทาง การเมือง ไม่ว่าในทางวัฒนธรรม ก็ยิ่งประจักษ์ถึงรากฐานในทาง”ความคิด”

ยิ้มเห็นแก้ม แย้มเห็นไรฟัน ประจักษ์ในสภาพความเป็นจริงของแต่ละพรรคของแต่ละนักการเมือง

 

เมื่อนำเอาคนอย่าง น.ส.พรรณิกา วาณิช มาดีเบตกับคนอย่าง นางมัลลิกา บุญมีตระกูล หรือคนอย่าง นายธนกร วังบุญคงชนะ แต่ละคำพูดที่ออกมาจากปากก็มีคำตอบ

มีคำตอบว่าคนของพรรคพลังประชารัฐคิดอย่างไร คนของ พรรคประชาธิปัตย์คิดอย่างไร

แตกต่างไปจากคนของพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ เพียงใด

ไม่จำเป็นต้องเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาอยู่บนเวทีดีเบต

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล คือเงา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ขณะที่เงาของ น.ส.พรรณิกา วาณิช ทะลุไปยังตัวตนของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้เกือบครบถ้วน

รู้ว่าน้ำเสียงของ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล ดำเนินไปใกล้ชิดกับน้ำเสียงของ นายธนกร วังบุญคงชนะ เพราะว่ามีคู่ต่อกรเดียวกันคือ พรรคเพื่อไทย

ความโน้มเอียงของประชาธิปัตย์จึงเอนไปพลังประชารัฐ

 

การแยกขั้ว ตั้งกลุ่มของแต่ละพรรคการเมือง ของแต่ละนักการเมืองจึงค่อยๆวางแบอยู่ ณ เบื้องหน้าประชาชนอย่างมิอาจ ปิดงำอำพรางได้

เข้าทำนอง ยิ้มเห็นแก้ม แย้มเห็นไรฟัน

ยิ่งใกล้ถึงวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม ยิ่งทำให้ตัวตนของแต่ละนักการเมือง แต่ละพรรคการเมือง มองเห็นได้เด่นชัด

ช่วยให้การตัดสินใจ”เลือก”ของประชาชนง่ายขึ้น เร็วขึ้น