การออกมายืนยันของอดีตส.ส.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ยืนยันการเป็นสมาชิกครบถ้วน

นับเป็นเรื่องเหลือเชื่อ

เหลือเชื่อเมื่อไปพบข่าวการถอนตัวของสมาชิกพรรคประชาธิ ปัตย์บางคนเพื่อไปดำรงตำแหน่งบางตำแหน่งในกทม.

ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องลาออกก็ได้

เหลือเชื่อเมื่อไปพบข่าวการอาสาเข้าไปร่วมส่วนในโครงการ พัฒนาระเบียงทางเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC ของบาง พรรคการเมือง

เหลือเชื่อเพราะว่า”สภาพ”ของพรรคเพื่อไทยนั้นสะบัดสะบอมอย่างยิ่งในทางการเมือง

 

หากมองจากพื้นฐานความเป็นจริงของพรรคเพื่อไทยที่สืบทอดและต่อเนื่องมาจากพรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทย

ก็ต้องยอมรับ”ชะตากรรม”อันเอน็จอนาถ

นั่นก็คือ รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 มีเป้าหมายเพื่อกำจัดพรรคไทยรักไทย

และสามารถยุบได้สำเร็จในเดือนพฤษภาคม 2550

แม้พรรคไทยรักไทยจะ”อวตาร”มาเป็นพรรคพลังประชาชน แต่ในเดือนพฤศจิกายน 2551 ก็ถูกยุบอีก

แม้พรรคเพื่อไทยซึ่งต่อเนื่องมาจากพรรคพลังประชาชนและพรรคไทยรักไทยจะสามารถกำชัยได้จากการเลือกตั้งในเดือนกรก

ฎาคม 2554

แต่พอถึงเดือนพฤษภาคม 2557 ก็ถูก “รัฐประหาร”ด้วย”คสช.”

นับจากบัดนั้นเป็นต้นมา ภารกิจของ”คสช.”ก็คือ บ่อนเซาะ ตัดแขน ตัดขา พรรคเพื่อไทยโดยเริ่มที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กระทั่งต้องหนีไปเหมือนกับ “พี่ชาย”

ชะตากรรมหนักหนาสาหัสเช่นนี้แล้วยังมี “อดีตส.ส.”ห้อมล้อมอยู่อีกหรือ

 

ไม่เพียงแต่จะยังมีอดีตส.ส.จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ

หากในกทม. ในภาคกลางและภาคใต้ บางส่วนก็ยังอยู่

จึงนับเป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างยิ่งยวดในทางการเมือง ในท่ามกลางการแปรพักตร์และตีจาก