E-DUANG : จุดเด่น “เปรม-ชวน” ใน”การพูด”

ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ว่าจะเป็น นายชวน หลีกภัย จุดเด่น 1 คือ

พูดไม่มาก พูดไม่บ่อย

ในห้วงที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี สื่อถึงกับตั้งฉายาออกมาว่า “เตมีย์ใบ้”

นั่นก็เนื่องจาก พูดน้อย

เช่นเดียวกับ นายชวน หลีกภัย ฉายาอันเป็นที่รับรู้กันในสังคมก็คือ “มีดโกน”

นั่นก็เนื่องจากพูดทีไร เลือดออกซิบๆ 2 รายทาง

ตัวอย่างล่าสุดก็คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เอ่ยถึง”กอง หนุน” ตัวอย่างล่าสุดก็คือ นายชวน หลีกภัย พูดถึง”เลือกตั้ง”ว่า

หากไม่เป็นไปตาม”โรดแมป” คสช.ต้องรับผิดชอบ

 

หากจับอากัปกิริยาไม่ว่าจะจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ว่าจะจาก นายชวน หลีกภัย

เมื่อพูดออกมาแล้วก็”เงียบ”

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นิ่งสงบอยู่บ้านสี่เสา เทเวศร์ นาย ชวน หลีกภัย นิ่งสงบอยู่พรรคประชาธิปัตย์

แต่”สังคม”ก็ยอมรับในแรงสะเทือน

เพราะการเอ่ยถึง”กองหนุน”ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ สะท้อนสถานะและการดำรงอยู่ของคสช.ได้อย่างเด่นชัด

ยิ่งการเอ่ยถึง”โรดแมป”การเลือกตั้งของ นายชวน หลีกภัย

พลันที่มีการปรับแต่งเนื้อหาร่างพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เพื่อ”เลื่อน”การเลือกตั้งออกไปเป็นปี 2562 แสงแห่งสปอตไลต์ก็ฉายจับไปยัง “คสช.”

เพราะการเลื่อนหรือไม่เลื่อน”การเลือกตั้ง”คนที่รับหน้าเสื่อไปเต็มๆย่อมเป็น “คสช.”

 

หากเปรียบเทียบกับ “นายกรัฐมนตรี”คนอื่นๆบุคลิกในการพูดไม่ว่าของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ว่าของ นายชวน หลีกภัย

ดำรงอยู่อย่างเปี่ยมด้วย”สติ”

ไม่เคยปรากฏ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ออกมาพูดในแบบที่เรียกว่า “พล่าม” น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง

ยิ่ง นายชวน หลีกภัย ยิ่งมากด้วยความระมัดระวัง

การพูดน้อย พูดแต่เรื่องสำคัญ ไม่ว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ว่า นายชวน หลักภัย ทำให้คำพูดมีค่ามีความหมาย

มีค่ามีความหมายยิ่งกว่าตำลึงทอง