ไม่ว่าจะมองผ่านภาพ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ไม่ว่าจะมองผ่านภาพ น.ต.ศิธา ทิวารี มีความเด่นชัด

เด่นชัดในความเป็น”ผู้แพ้”ในสนามเลือกตั้ง”ผู้ว่ฯกทม.”

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ไม่เพียงพ่ายแพ้ต่อ 1.3 ล้านคะแนนอันเป็นของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หากแต่ยังพ่ายแพ้ต่อคะแนนของ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

ขณะที่สถานะแห่งความพ่ายแพ้ของ น.ต.ศิธา ทิวารี ยังอยู่ในปริมาณที่ได้คะแนนน้อยกว่า น.ส.รสนา โตสิตระกูล

ตามความเป็นจริงของการต่อสู้ในสนามเลือกตั้งแห่งอดีต บทบาทของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร น.ต.ศิธา ทิวารี ก็ไม่ควรจะ แตกต่างไปจากบทบาทของ”ผู้แพ้”รายอื่นๆ

ไม่ว่าจะเป็น นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ไม่ว่าจะเป็น นายสกลธี ภัททิยกุล ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ไม่ว่าจะ เป็น นส.รสนา โตสิตระกูล

แต่ภาพที่เราเห็นและเป็นอยู่นับแต่วันที่ 23 พฤษภาคมเป็น

ต้นมาแทบจะไม่ได้สัมผัสใน”อาการ”ของ”ผู้แพ้” ที่เงียบเหงาและเซาซึมอย่างเป็นด้านหลัก

ตรงกันข้าม ทั้ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และ น.ต.ศิธา ทิวารี กลับคึกคัก เดินสายทางการเมืองราวกับเป็น”ผู้ชนะ”

 

ลักษณะ”ร่วม”อันเห็นอย่างเด่นชัดตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม คือการร่วมทางกันระหว่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ นายวิโรจน์ ลัก ขณาอดิศร บนเรือที่แล่นไปในคลองลาดพร้าว

จากนั้น ก็เป็นภาพการทำบุญร่วมกันระหว่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ น.ต.ศิธา ทิวารี ในวัดแห่งหนึ่งของเขตสายไหม

เมื่อทั้ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และ น.ต.ศิธา ทิวารี ได้ร่วมรายการสนทนาของ จอมขวัญ หลาวเพ็ชร บรรยากาศอย่างที่ ได้เห็นในระหว่างการหาเสียงก็ย้อนหวนทวนคืน

อย่าได้แปลกใจหากเสียงเรียกขาน”แด๊ดดี้ศิธา”จะดังกึกก้อง ในโลกแห่งโซเชียลมีเดีย อย่าได้แปลกใจหากเสียงเพลง”วิโรจน์ก้าวไก่”จะกลายเป็นไวรัลที่ดังอยู่แม้ในความนึกคิด

แม้เป็น”ความพ่ายแพ้”แต่ทั้ง”วิโรจน์+ศิธา”ก็แพ้อย่างผู้ชนะ

 

มีความมั่นใจเป็นอย่างสูงว่าบาทก้าวทางการเมืองไม่ว่าจะของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ไม่ว่าจะของ น.ต.ศิธา ทิวารี จะต้องทะ ยานไปข้างหน้าอย่างแน่นอน

เป็นบาทก้าว”พรรคก้าวไกล”และ”พรรคไทยสร้างไทย”

เป็นความกระตือรือร้นที่ทำให้ทั้ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และ น.ต.ศิธา ทิวารี สามารถ”สร้าง”พื้นที่ในทางการเมือง

สะท้อนการเมือง”ใหม่”ของ”นักการเมือง”ได้อย่างสร้างสรรค์