E-DUANG : พิมพ์เขียว จตุจักร หลักสี่ เด่น กับสถานการณ์ 22 พฤษภาคม

ในที่สุด สภาพการณ์ของการเลือกตั้งชิงตำแหน่ง”ผู้ว่าฯกทม.”ก็ดำเนินไปเหมือนกับสภาพการณ์ของการเลือกตั้ง”ซ่อม”ในเขตจตุ จักร หลักสี่

ที่เขตจตุจักร หลักสี่ ทุกสายตามองไปยังการต่อสู้ของพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ

เนื่องจากจตุจักร หลักสี่ เป็นพื้นที่เดิมของพรรคพลังประชารัฐ และเนื่องจากจตุจักร หลีกสี่ ชัยชนะของพรรคพลังประชารัฐต่อพรรคเพื่อไทยอยู่ในลักษณะหายใจรดต้นคอกัน

ขณะเดียวกัน การประกาศลงมาของเลขาธิการพรรคกล้าได้ สร้างความคาดหมายสูงอย่างยิ่งทางการเมือง เนื่องจากเป็นอดีต ส.ส.และเคยยึดครองพื้นที่นี้มาก่อนในนามพรรคประชาธิปัตย์

ขณะเดียวกัน การลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคไทยภักดีที่มาพร้อมกับซัพพอร์ทเตอร์อย่างนายพลปูดองย่อมสร้างผลสะ เทือนสูงยิ่งในทางการเมือง

การลงสมัครรับเลือกตั้งของ นายกรุณพล เพชรสุวรรณ ใน

นามพรรคก้าวไกลจึงแทบเป็น”ม้านอกสายตา”ไม่ว่ามองผ่านพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคกล้า

แต่เมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏขึ้น นายกรุณพล เพชรสุวรรณ กลับมาเป็นอันดับ 2 จะเป็นรองก็เพียงพรรคเพื่อไทย

 

บรรยากาศการเลือกตั้ง”ผู้ว่าฯกทม.”แสงแห่งสปอตไลต์ฉายจับไปยัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง และ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นตัวขิงสำคัญ

บทบาทของ นายสกลธี ภัททิยกุล บทบาทของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร แทบมิได้อยู่ในสายตา

ผลโพลที่นำโด่งของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เหมือนกับจะชี้ผลการเลือกตั้งแล้วล่วงหน้า แต่รากฐานของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ก็มิอาจประมาทและมองข้ามได้อย่างเด็ดขาด

แต่แล้วเมื่อการหาเสียงงวดเข้า งวดเข้า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญ เมือง ก็เริ่มหลุดไปจากเฟรมและมีภาพของ นายสกลธี ภัททิยกุล เข้ามาแทนที่

และที่ตามมาอย่างเร็วคือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร

 

คะแนนและความนิยมของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และของ นายสกลธี ภัททิยกุล ที่เพิ่มขึ้น น้อยคนยิ่งนักที่จะคาดหมายว่าจะ ชนะคะแนนและความนิยมของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้

แต่จุดที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาดคือคะแนนที่ 2

ระหว่าง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง นายสกลธี ภัททิยกุล และ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จะเป็นของใคร

สภาพการณ์ในแบบเดียวกับจตุจักร หลักสี่ จึงโดดเด่น