เผยแพร่ |
---|
เหตุใดการตัดสินใจเข้าไปเป็น”นายประกัน” น.ส.เบญจา อะปันน์ ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงในสังคม
ไม่เพียงเพราะสถานะของ น.ส.เบญจา อะปันน์ อยู่ในฐานะผู้ต้องหาจากประมวลกฎหมายอาญามาตรา 111 เท่านั้น
หากที่สำคัญ ตัวของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เองก็ตกเป็นเป้าของคนจากรัฐบาล นับแต่เสนอวลีเด็ดต่อนโยบายวัคซีนผ่านกระบวนการ”แทงม้าตัวเดียว”เมื่อเดือนมกราคม 2564
อันทำให้กลายเป็นผู้ต้องหาโดยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถึง 2 คดีเท่านั้น
หาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังถูกมองจากปฏิบัติการไอโอด้านการข่าวอย่างต่อเนื่องว่าอาจมีส่วนพัวพันกับการเคลื่อนไหวของ บรรดา”เยาวชน คนรุ่นใหม่”อีกด้วย
การออกโรงของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงเหมือนกับเข้าทาง
ทุกอย่างเป็นไปตาม”บทสรุป”จากรัฐบาลโดยเฉพาะด้านความมั่นคงว่าอาจสัมพันธ์กับ”แฟล็ชม็อบ”ของเหล่าคนรุ่นใหม่
หากมองสภาพการณ์ทางการเมืองตามความเป็นจริงก็ต้องยอมรับว่า การลุกขึ้นมาของ”เยาวชน คนรุ่นใหม่”ไม่ว่าในตอนต้นปีหรือในตอนกลางปี 2563 มีความสัมพันธ์กับพรรคอนาคตใหม่
นั่นก็คือ ในตอนต้นปีมีเหตุผลหนึ่งมาจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563
เนื่องจากความเด่นชัดของพรรคอนาคตใหม่ คือ พรรคที่คนรุ่นใหม่อันถือได้ว่าเป็น”นิวโหวตเตอร์”ให้ความเชื่อมั่นและพาเหรดกันไปลงคะแนนเสียงให้อย่างคึกคัก
คึกคักกระทั่งทะยานขึ้นมาเป็นพรรคอันดับ 3 เหนือพรรคประชาธิปัตย์พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา
จะเป็นรองก็เพียงพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐเท่านั้น
แม้จะมีเสียงกระแหนะกระแหนจากปฏิบัติการไอโอด้านการข่าวหนักหนาสาหัส แต่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ยังรักษาบรรทัดฐานทางการเมืองของตนอย่างมีสมาธิ
จะมีก็แต่เพียง ส.ส.พรรคก้าวไกลเท่านั้นที่เข้าไปแสดงบทบาท
การออกโรงของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในบท”นายประกัน”ต่อกรณีของ น.ส.เบญจา อะปันน์ จึงถือเป็นก้าวแรก ก้าวสำคัญ
ก่อให้เกิดการคาดหมายถึง”แนวโน้ม”ที่จะตามมาในอีกก้าว