E-DUANG : ​​เงาสะท้อน ของ กรณ์ พรรคกล้า ความกล้าที่จะยืนหยัด “นกหวีด”

ทำไมการ LAUNCH พรรคกล้า ของ นายกรณ์ จาติกวณิช นายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี จึงไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่หวังตั้งไว้ในเบื้องต้น

คำตอบซึ่งสำคัญก็คือ ยัง”ไม่กล้า”อย่างเพียงพอ

หลายร่องรอยบ่งบอกให้สัมผัสได้ว่า เก็บรับเอานวัตกรรมและความสำเร็จจากพรรคอนาคตใหม่

แม้แต่เพียงความพยายามในการสร้างกระแส”ชื่อพรรค”

อาจสรุปได้โดยพื้นฐานว่า ความเย้ายวนใจต่อ นายกรณ์ จาติกวณิช น้อยกว่าความเย้ายวนใจต่อ นายกรณ์ จาติกวณิช

แม้จะเคยเป็น “รัฐมนตรีคลัง” ก็ตาม

 

ขณะเดียวกัน หลายร่องรอยบ่งบอกถึงเส้นสายและแรงสะเทือน จาก “สถาบันทิศทางไทย”

อย่างหลังนี้แหละที่ก่ออาการสะดุด กระทั่งอาจหยุดกึก

ต้องยอมรับว่าภาพของ นายกรณ์ จาติกวณิช ภาพของ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี มิได้เป็นภาพใหม่อย่างชนิดเอี่ยมถอดด้ามในทางการเมือง

มีริ้วรอยของพรรคประชาธิปัตย์ติดมากับเนื้อตัวอย่างชนิดที่จะลอกออกได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งกว่านั้น ไม่ว่า นายกรณ์ จาติกวณิช ไม่ว่า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ภาพอันจำหลักหนักแน่นเป็นอย่างสูง คือ ภาพที่คล้องนกหวีดร่วม”ชัตดาวน์”

นั่นก็คือ เป็นส่วนหนึ่งของมวลมหาประชาชนภายใต้การนำของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จึงไม่แปลกที่เมื่อก่อนเข้าสู่พรรคกล้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จะเป็น”วิทยากร”คนหนึ่งของสถาบันทิศทางไทย

ภาพจึงวนระหว่างพลังประชารัฐ รวมพลังประชาชาติไทย

 

คำถามที่ว่าพรรคล้าจัดตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับกับสถานการณ์ “ผึ้งแตกรัง” ภายหลังมาตรการยุบพรรคอนาคตใหม่ จึงกลายเป็นคำถามอย่าง ชนิดค้างอยู่กลางอากาศ

เพราะส่วนหนึ่งที่เคยเป็น “งูเห่า” ก็แยกไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ แยกไปอยู่พรรคพลังท้องถิ่นไทย

และบางส่วนก็แนบแน่นอยู่กับพรรคภูมิใจไทย

ขณะที่ด้านหลักของพรรคอนาคตใหม่น่าจะพาเหรดไปอยู่พรรคใหม่ที่ตระเตรียมเอาไว้หากว่ามีการยุบพรรคตาพิมพ์เขียวจริง

น้อยอย่างยิ่งที่จะเห็นดีเห็นงามไปตาม”พรรคกล้า”