เผยแพร่ |
---|
หากถือเอาเสียงขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน เป็นรายรับ
รายรับจาก 251 ส.ส. รายรับจาก 249 ส.ว.
อันส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้าดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามความปรารถนา
ก็ปรากฎ “รายจ่าย” ตามมาเป็นลำดับ
เป็นรายจ่ายให้พรรคประชาธิปัตย์ได้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กระทรวงพาณิชย์
เป็นรายจ่ายให้พรรคภูมิใจไทยได้กระทรวงคมนาคม ได้กระทรวง สาธารณสุข
และบัดนี้ “รายจ่าย”ก็เริ่มคิด “บัญชี”
ถามว่าที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังทวงถามประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาหาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
ให้กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เป็นสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐจะต้องยินยอม “จ่าย” ให้หรือไม่
เพราะนี่คือเงื่อนไขของพรรคประชาธิปัตย์ และนี่คือที่บรรจุเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
แถลงต่อที่ประชุมสภาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม
ถามว่ากรณีที่พรรคภูมิใจไทยส่ง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เข้าดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นสิ่งที่พรรค พลังประชารัฐต้องยินยอมตามคำมั่นหรือไม่
แล้วเหตุใดจึงต้องให้ “สื่อ” ในเครือข่ายปฏิบัติการ IO กระทั่ง สร้างความหงุดหงิดให้กับพรรคภูมิใจไทย
มีการเปิดโปงกลับแม้กระทั่งใน”สภาผู้แทนราษฎร”
เมื่อมี “รายรับ” จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐ จำเป็นที่จะต้องมี “รายจ่าย” ตามมา มิใช่หรือ