การปล่อยข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าไปมีบทบาทในการผลัก ดัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ให้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย

ก็เหมือนกับการปล่อยข่าวในเรื่องที่หากมิใช่ “ลูก” ก็”ลูกเขย” หรือ “หลาน”จะเข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ก็เหมือนกับการปล่อยข่าวในเรื่อง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หนี ในเรื่อง นายพานทองแท้ ชินวัตร หนีและไปกบดานอยู่ต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว

ก็เหมือนกับการปล่อยข่าวในเรื่องชะตากรรมหนังสือเดินทาง ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการข่าว หรือที่เรียกว่า IO

 

หากพรรคเพื่อไทยหรือพรรคไทยรักษาชาติหรือพรรคประชาชาติติดตามเส้นทางสายข่าวอย่างเกาะติด ต่อเนื่อง ก็จะเข้าใจได้แต่ละก้าวย่างได้

ตามปกติจะเริ่มปล่อยผ่านเส้นสายของ”โซเชียล มีเดีย”ไม่ว่า เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ไลน์

จากนั้น “สื่อ”อันเป็นเครือข่ายก็จะนำไปประโคมโหมแห่

บางครั้งอาจทะลุทะลวงไปถึงระดับพาดหัวตัวไม้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ตามคอลัมน์

เหมือนกรณี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หลบหนีไปกัมพูชา

เหมือนกรณี นายพานทองแท้ ชินวัตร หลบหนีผ่านกัมพูชาไปอีหรอบเดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เมื่อเจ้าตัวยืนยันว่ามิได้ไปไหน เรื่องก็ค่อยเงียบหาย ซาลง

แต่หากสถานการณ์การต่อสู้เข้มข้นก็ปล่อยออกมาอีกอย่าง เช่นในกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถึงกับต่อสายโทรศัพท์เข้าไปในพรรคเพื่อไทย แม้จะมีการปฏิเสธจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้จะมีการปฏิเสธจากพรรคเพื่อไทย แต่ก็จะยังมีการลือต่อไป

เพื่อยืนยันการครอบงำของ”ชินวัตร”ต่อพรรคเพื่อไทย

 

ทั้งหมดนี้มิได้เป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็นเรื่องอุบัติเหตุ หากแต่ดำ เนินไปอย่างเป็น “ยุทธการ” อย่างที่เรียกเป็นศัพท์แสงออกมาว่า เป็น”ปฏิบัติการข่าว” หรือ “IO”

ชี้ให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า มิได้เป็นการการต่อสู้กันอย่างปกติ หากแต่ดำเนินไปอย่างเป็น “การยุทธ”

ดำเนินไปตามอนุสาสน์ “การศึกมิหน่ายเล่ห์” ทุกประการ