เผยแพร่ |
---|
สัมผัสอารมณ์ในทางสังคมต่อกรณีน้อง “เฌอปรางค์” ไปถ่ายรูปเรียงเคียงข้าง กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในทำเนียบรัฐบาลแล้วก็ทั้งเห็นใจและเข้าใจ
เห็นใจทั้งคนที่ “ชมชอบ” เห็นใจทั้งคนที่”หงุดหงิด”
เข้าใจในความอ่อนไหวของบรรดา”โอตะ” หรือแม้กระทั่งคนนอกแวดวง “โอตะ”
เพราะทุกคนล้วนเป็น “ปุถุชน”
ความเป็น”ปุถุชน”นั้นเองทำให้จำเป็นต้องมีการนำน้อง”เฌอ ปรางค์” เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล และความเป็น”ปุถุชน”นั้นเองที่ผลักไสให้น้อง”เฌอปรางค์”จำเป็นต้องปฏิบัติตาม
นี่คือกลไกทาง “การตลาด” นี่คือกลไกของการตลาดอันแอบอิงอยู่กับ “การเมือง”
อย่าไปหงุดหงิดกับกรณีของน้อง”เฌอปรางค์”เลยขอให้นึกถึงบทสรุป 1 อันมาจาก”โกวเล้ง”ก็แล้วกัน
“ยุทธจักรไม่เป็นตัวของตัวเอง”
เป็นบทสรุปจากความจัดเจนของคนที่อยู่ในแวดวงบู๊ลิ้มที่ต้องหลั่งเหงื่อและหลั่งเลือดเลียคมดาบ คมกระบี่
มองไปยังยุทธจักร”การเมือง”ก็เป็นเช่นนี้
ยิ่งมองไปยังยุทธจักร “การตลาด” ที่น้อง”เฌอปรางค์”เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยยิ่งมากด้วยความละเอียดอ่อน
“เฌอปรางค์”เป็นเพียง”องคาพยพ”น้อยๆ
เธอมีสังกัดเหมือนนักการเมืองมีพรรคการเมือง เหมือนจอมยุทธ์มีสำนักที่จะต้องขึ้นต่อ
นั่นจึงขึ้นอยู่กับกฎและวินัยของ”สำนัก”และ”เจ้าสำนัก”
เมื่อเป็นความต้องการของ”ทำเนียบรัฐบาล”มีหรือที่ต้นสังกัดของน้อง”เฌอปรางค์”จะปัดปฏิเสธได้
จำเป็นต้อง”เข้าใจ” จำเป็นต้อง”เห็นใจ”
อย่าลืมเป็นอันขาดว่าน้อง”เฌอปรางค์”อยู่ในพรมแดนแห่งธุรกิจบันเทิง เป็นส่วนหนึ่งของ”ทุนวัฒนธรรม”
ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะหนีไปพ้นจากกรอบของ”การเมือง”
ลองศึกษาตอน”พันธมิตร”กู้ชาติ ลองศึกษาตอน”มวลมหา ประชาชน”ชัตดาวน์ กับการไปปรากฏตัวของดาราและนักร้องถามว่าเป็นไปอย่างอิสระเสรีจริงหรือ
คำตอบจาก 2 กรณีนั้นก็คือคำตอบจาก”เฌอปรางค์”