เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ : สเริงรุมซุ้มช่อชฎาฉัตร

ไปเขียนแผ่นดินพม่าเที่ยวแรกระหว่างวันที่ 6-11 ตุลาคม 2559 และจะไปอีกประมาณสองเที่ยว ภายในปีนี้ ก็จะหมดกำหนด “เขียนแผ่นดินพม่า” ซึ่งจะเผยแพร่ออกอากาศทางโทรทัศน์ไทยพีบีเอสต่อไป ต่อจาก “เขียนแผ่นดินมาเลเซีย” ซึ่งขณะนี้กำลังออกอากาศอยู่

เคยไปพม่าเมื่อครั้งท่านเอกอัครราชทูตไทย “พี่เส” ของพวกเราชาวนักเขียนคือ ท่านเสนีย์ เสาวพงศ์ นามจริง คือ ศักดิชัย บำรุงพงศ์

นั่นเป็นครั้งแรก ครั้งต่อมาเมื่อเปิดเที่ยวบินแอร์เอเชียเที่ยวแรกปี พ.ศ.2555 บินไปมัณฑะเลย์

 

หนนี้เริ่มเขียนแผ่นดินเที่ยวแรกที่มัณฑะเลย์ โดยบริการสายการบินไทยแอร์เอเชีย บริการดีเยี่ยมเช่นเคย

มัณฑะเลย์เป็นเมืองหลวงสุดท้ายก่อนจะเป็นย่างกุ้ง แล้วเนปิดอว์ในปัจจุบัน

จากมัณฑะเลย์ คณะเราก็ยกขบวนไปพุกาม จากนั้นกลับมัณฑะเลย์ ผ่านอมรปุระ

แต่ละชื่อละเมืองล้วนคุ้นหูคุ้นใจคนไทยนัก ด้วยชื่อเหล่านี้มีเรื่องราวสัมพันธ์กับคนไทยแทบจะควบคู่มากับประวัติศาสตร์ไทยนั่นเลย ทั้งตำราแบบเรียนและวรรณกรรมเก่าใหม่ เช่น เรื่องราชาธิราช และผู้ชนะสิบทิศ รวมทั้งละคร หนัง เช่น เลือดสุพรรณ และบางระจัน จนถึงเพลงยอดนิยมจากเรื่องผู้ชนะสิบทิศ เป็นต้น

ยิ่งอ่านประวัติศาสตร์พม่ายิ่งเห็นความรุ่งเรืองและล่มสลายของอาณาจักรแห่งราชวงศ์ต่างๆ ดูจะควบคู่กันมากับราชอาณาจักรไทยทั้งสามยุคสามกรุง คือ มอญ พุกาม อังวะ อมรปุระ มัณฑะเลย์ ของไทยเราก็ สุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์

มัณฑะเลย์สลายราวสมัยรัชกาลที่สี่ของเรานี่เอง จากนั้นจึงมาเริ่มยุคใหม่ที่ย่างกุ้งจนมาเนปิดอว์วันนี้

 

สิ่งหนึ่งที่ดูจะไม่เปลี่ยนเลยของพม่าวันนี้ไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็คือ ความศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา

แทบว่า ทุกสารทิศที่ทอดตาไปจะเห็นองค์เจดีย์เรืองอร่ามเสียดแซมยอดไม้ตลอดจนชุมชนหย่อมย่านบ้านเรือนอันดารดาษ ที่ใดก็จะมียอดพระเจดีย์อร่ามลอยอยู่เสมอไป โดยเฉพาะเจดีย์ทองที่ยอดแหลมส่งประกายเรืองรองอร่ามตา

ที่ยอดเจดีย์มีซุ้มชฎาฉัตรงามนัก เชิงชุมฉัตรจะพัดไหวยามต้องลมสเริงรุม นี่แหละคือ

สเริงรุมซุ้มช่อชฎาฉัตร

บ้านเราจะเห็นซุ้มช่อชฎายอดเจดีย์แบบนี้ได้ที่เมืองเหนือ หรือเจดีย์มอญโดยทั่วไป ซึ่งงามนักหนา

โดยเฉพาะฝั่งเมืองสะกายหรือที่เรารู้จักในชื่อเมืองสะแคง ถ้าอยู่อีกฟากฝั่งน้ำอิรวดีจะเห็นองค์เจดีย์ทองระดารดาษดังโคลงนิราศนรินทร์ที่ว่า

 

เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น พันแสง

รินรสพระธรรมแสดง ค่ำเช้า

เจดีย์ระดะแซง เสียดยอด

ยลยิ่งแสงแก้วเก้า แก่นหล้าหลากสวรรค์

“เจดีย์ระดะแซง เสียดยอด” นี่แหละใช่เลย

กระนั้นพระเจ้าประดุง กษัตริย์ผู้สร้างอมรปุระยังจะสร้างมหาเจดีย์ใหญ่ โดยประมาณว่าจะให้ใหญ่กว่าเจดีย์ใดในโลก ถึงกับทรงย้ายมาประทับที่เกาะกลางน้ำอิรวดี เพื่อบัญชาการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ทรงประทับอยู่ถึงเจ็ดปีก็สิ้นพระชนม์ องค์เจดีย์เพิ่งก่อฐานตระหง่านไปได้แค่ส่วนเดียว

ทุกวันนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ต้องนั่งเรือขนาดสองชั้นข้ามน้ำอิรวดีไปดู พร้อมมีบริการทั้งเกวียนและรถม้าให้นั่งต่อไปชม

ระฆังยักษ์ที่ว่าใหญ่ที่สุดในโลกอีกเช่นกัน

 

ที่พุกาม คือทุ่งเจดีย์ใหญ่ที่สุดในโลกจริงว่ามีถึงสี่พันองค์ ถ้าขึ้นไปดูบนระเบียงเจดีย์สักองค์แล้วมองรอบสี่ทิศก็จะสุดอัศจรรย์ยิ่ง ด้วยทุกทิศมีแต่เจดีย์ระดาษพื้นไปจนจรดขอบฟ้า และแทบทุกองค์เจดีย์ซึ่งใหญ่โตเหมือนจะเท่าๆ กันนั้นก็จะมีองค์เจดีย์ประกอบอยู่รายรอบ และบางทีก็ลดหลั่นรายเรียงอยู่ทุกมุมระเบียงจากล่างสู่บน

เที่ยวนี้ได้ชมพิธีล้างหน้าพระมหามัยมุนี ซึ่งเป็นพระใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ของพม่าที่พระเจ้าประดุงอัญเชิญมาจากยะไข่

เราต้องไปแต่ตีสี่ ซึ่งมีผู้คนนั่งรอกันอยู่แล้ว มีผู้เชิญดอกไม้ น้ำสรงพักตร์ เครื่องหอมพร้อมสรรพ ส่งให้พระภิกษุรูปเดียวผู้ทำพิธีล้างหน้าพระหรือสรงพระพักตร์พระพุทธรูป ด้วยการใช้ผ้าจีวรคลุมตั้งแต่บ่า (อังสะ) ถึงพระอุระ แล้วค่อยเช็ดค่อยถูกขัดสีฉวีวรรณ แล้วประจงซับเซ็ดผิวพระพักตร์จนแห้งด้วยการใช้พัดโบกซ้ำจึงค่อยปลดผ้าคลุมอังสะออก

เผยพระพักตร์ผ่องผกายกลางซุ้มจระนำ ณ บัดนั้น

สาธุ

มหามัยมุนี

ไหว้พระสาธุเจ้า เจริญสถาน

เจริญพระโพธิญาณ หยั่งรู้

มหามัยมุนีศาน- ติสุขสถิต

พระใหญ่พระอยู่กู้ กัปกู้กาลสมัย

ปางมารวิชยแจ้ง ใจชน

กำราบกิเลสตน ว่างไร้

สมาธิจิตประจน ประจำอยู่

ดูกิเลสดับกิเลสได้ ดั่งนี้ นิจศีล

ศีลพิสุทธิ์คล้ายเครื่อง ครองทรง

อร่ามอุไรลออองค์ พระแผ้ว

เทิดทัดศรัทธาประสงค์ พุทธิจิต

ประจักษ์สัจธรรมแพร้ว ปภัสร์พริ้งศิราภรณ์

จรจากยักไข่แล้ว มัณฑะเลย์

ศักดิ์สิทธิ์อุษาคเนย์ หนึ่งนี้

มหามัยมุนีเจ- ติยสถิต

ทุกข์โศกโรคภัยลี้ ร่วมสร้างสุขสมัยฯ