ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 กันยายน 2559 |
---|---|
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
“วีออส” เป็นรถกลุ่มซิตี้คาร์ หรือ “ซับคอมแพ็กต์” ที่โด่งดังของ “โตโยต้า” และขายดิบขายดีต่อเนื่องมานานหลายปี
โดยก่อนหน้านี้ซิตี้คาร์ของโตโยต้าคือรุ่น “โซลูน่า” ยอดขายก็พอไปวัดไปวาได้
จนมาเปรี้ยงสุดๆ เมื่อออกรุ่น “โซลูน่า วีออส” เมื่อปี ค.ศ.2003 สร้างปรากฏการณ์และความทึ่งให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทย เพราะเป็นรุ่นแรกที่ขยับ “เรือนไมล์” มาไว้ตรงกลางคอนโซลหน้า จากปกติเรือนไมล์จะอยู่หลังพวงมาลัยรถ
ช่วงออกมาใหม่ๆ โดนวิพากษ์วิจารณ์ทั้งบวกและลบ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ออกแบบเรือนไมล์แบบนี้บอกตรงๆ ว่าช่วงแรกที่ผมได้ขับก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน ที่มองไปหลังพวงมาลัยแล้วไม่เห็นอะไรเลย มั่นโล่งๆ โหวงๆ พิกล แต่ขอโทษ โซลูน่า วีออส รุ่นนี้ขายกันระเบิดเถิดเทิง เพราะรูปร่างหน้าตาสวยโดนใจวัยรุ่น
ในรุ่นถัดมาเรือนไมล์ยังไว้ตรงกลางเหมือนเดิม ยอดขายพอไปได้ แต่ไม่เปรี้ยงเท่ารุ่นพี่เนื่องจากปรับเปลี่ยนไม่มากนัก จนในรุ่นล่าสุดออกมาเมื่อปี 2013 ขยับเรือนไมล์กลับมาไว้หลังพวงมาลัยตามเดิม
วีออส รุ่นล่าสุดนี้ออกแบบภายนอก-ในค่อนข้างสวย และมาในเทรนด์ยอดนิยมของการออกแบบรถในหลายๆ ค่าย คือรุ่นต่างๆ ทั้งใหญ่-กลาง และเล็ก จะมีลักษณะคล้ายกัน
โดยวีออส ได้ดีเอ็นเอมาจากรุ่นพี่ทั้ง “อัลติส” และ “คัมรี”
วีออส รุ่นปัจจุบันแม้จะออกมาพักใหญ่ แต่ล่าสุดปรับโฉมแบบขนาดใหญ่ทั้งนอก-ใน และหัวใจหลักคือเครื่องยนต์
พร้อมมีรุ่นพิเศษออกมาคือ “Exclusive” เน้นการตกแต่งที่ดูหรูหราและดูสปอร์ตมากขึ้น มากับชุดแต่งเต็มพิกัด
เรียกว่าซื้อไปแล้วไม่ต้องไปตกแต่งอะไรเพิ่มอีกเลย
จริงๆ แล้วผมได้ทดลองขับ วีออส “Exclusive” มาพักใหญ่แล้ว แต่หลังการทดสอบมีรถใหม่ๆ เปิดตัวแบบทะลักทลายหลายรุ่นต่อเนื่อง จึงต้องเปิดพื้นที่ให้รุ่นใหม่ๆ เสียก่อน
จนมาฉบับนี้ถึงโอกาสเหมาะ
วีออส “Exclusive” รูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกับวีออส รุ่นปกติ แต่เสริมชุดแต่งด้วยสเกิร์ตรอบคัน
ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ต่ำลงมาเป็นไฟตัดหมอกหน้า พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED
กระจังหน้าโครเมียม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า
มือจับประตูด้านนอกโครเมียม คิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียม ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ลายใหม่ กล้องมองหลัง และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือสัญลักษณ์ “Exclusive” ด้านท้ายรถ เพื่อให้รู้ว่านี่เป็นวีออส ที่แต่งจากโรงงานแท้ๆ
ส่วนภายในที่เสริมเข้ามาให้ดูหรูหรามากขึ้น อาทิ ใช้โทนสีดำ เบาะหนังสีดำลายกราฟิก
คอนโซลหน้าและแผงประตูตกแต่งด้วยลายไฮโดรกราฟิกสีเทา
พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังตกแต่งด้วยเปียโนแบล็ก
เครื่องเล่น DVD/CD/MP3/WMA หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วรองรับบริการพิเศษจาก T-Connect ช่องต่อ USB / HDMI / SD Card ระบบเชื่อมต่อ Hands-free แบบไร้สาย Bluetooth
ด้านหลังมีถาดใส่ของ และกล่องเก็บสัมภาระท้ายรถ พร้อมชุดอุปกรณ์เติมลมยาง Air Compressor Kit
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดและไม่ค่อยเห็นในรถรุ่น “ไมเนอร์เชนจ์” อื่นๆ คือ “เครื่องยนต์+เกียร์”
เพราะปกติแล้วรุ่นไมเนอร์เชนจ์ จะปรับเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก-ใน เท่านั้น
แต่วีออสไมเนอร์เชนจ์รุ่นนี้ และวีออส “Exclusive” ปรับเครื่องยนต์ใหม่จากเดิมรหัส 1NZ-FE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i 1,497 ซีซี 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร
เปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์รหัส 2NR-FBE 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i 1,496 ซีซี 108 แรงม้า แรงบิด 140 นิวตันเมตร
ดูสเป๊กแล้วอาจจะงงว่าเปลี่ยนทำไมหว่า? เพราะทั้งแรงม้า-แรงบิดหดลงเสียอย่างนั้น
คำตอบก็คือเครื่องยนต์ตัวใหม่สามารถใช้น้ำมันได้สูงสุดถึง “อี85”
ทำงานควบคู่กับเกียร์ใหม่ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift
จุดเด่นคือขับสนุกขึ้น การเปลี่ยนเกียร์ราบเรียบมากขึ้น ประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องตัวเก่า ค่าไอเสียน้อยลงเหลือ 135 มิลลิกรัม/กิโลเมตร แถมใช้น้ำมันได้เกรดสูงสุดถึง อี85 ประหยัดตังค์เข้าไปอีก
นอกจากนี้ ยังเพิ่มระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับสากล เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ควบคุมรถให้ทรงตัวดีขึ้น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ช่วยกระจายแรงเบรกในแต่ละล้อให้ทำงานได้อย่างสมดุล ทำให้การเบรกในโค้งที่คนไทยใช้กันบ่อยเหลือเกินปลอดภัยมากขึ้น
รวมทั้งมีระบบเสริมแรงเบรก (BA) ช่วยเพิ่มแรงเบรกมากในกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้หยุดรถได้ในระยะที่สั้นกว่า
สุดท้ายคือปรับค่าโช้ก-สปริงใหม่ ให้เกาะถนนดีขึ้น พร้อมตั้งค่าพวงมาลัยไฟฟ้าให้มีน้ำหนักเหมาะสมในทุกย่านความเร็ว
ทริปการทดสอบนี้เดินทางไปเขาใหญ่ เพื่อร่วมงานสัมมนาโต๊ะข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ “ข่าวสด” ที่ผมรับผิดชอบอยู่
ขาไปอยู่ในฐานะผู้โดยสาร เพราะมีผู้ร่วมไปด้วยรวม 3 คน
ส่วนขากลับว่ากันรวดเดียวเข้ากรุงเทพฯ
ช่วงที่นั่งยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก แต่พอขึ้นประจำการหลังพวงมาลัยได้สักพักรู้สึกแปลกๆ กับการสั่นสะเทือนและพวงมาลัยที่โหวงๆ พิกล แต่ด้วยความที่มีคนนั่งโดยสารไปด้วยจึงไม่ได้ใช้ความเร็วมากนัก
กระทั่งถึงกรุงเทพฯ หยิบเครื่องวัดลมยางมาเช็กดู
ไอ๊หยา…เติมลมเกินมาตรฐานไปราวๆ 10-12 ปอนด์ในทุกๆ ล้อ
รออะไรล่ะครับ ปล่อยลมออกจนได้ตามมาตรฐานที่ระบุไว้
ผมก็รู้สึกถึงความเปลี๋ยนไป๋อย่างชัดเจน
เพราะตอนนี้แยกทางกับผู้โดยสารแล้ว เลยใส่ได้เต็มๆ
อัตราเร่งช่วงออกตัวถือว่าทำได้พอประมาณไม่จี๊ดมาก แต่ก็ไม่ถึงกับอืดจนรับไม่ได้
รอยต่อของเกียร์แทบไม่รู้สึกอันเป็นจุดเด่นสุดของ CVT
ในช่วงความเร็วกลางมาค่อนข้างเร็ว เข็มไมล์วาดขึ้นไประดับ 130-140 ก.ม. อย่างไม่รู้ตัว
การทรงตัวในความเร็วขนาดนี้ไม่มีปัญหาใดๆ ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบยอดนิยมแม็กเฟอร์สันสตรัต/เหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม/คอยล์สปริง/เหล็กกันโคลง
แม้รุ่นนี้เป็นเกียร์ซีวีที แบบขั้นบันได แต่ก็มีระบบปรับเป็นเกียร์แบบแมนน่วล เพียงตบคันเกียร์เข้าหาตัวผู้ขับขี่ ดันขึ้น-ลง เพื่อเพิ่ม-ลดเกียร์ตามความชอบ
ถือว่าช่วยเพิ่มความสนุกในการลากรอบ หรือเชนจ์เกียร์ในจังหวะเร่งแซง และเป็น “เอนจิ้นเบรก” ยามฉุกเฉิน
ความรู้สึกส่วนตัวบอกได้เลยว่าเหนือกว่ารุ่นเดิมพอสมควร ทั้งความสนุกในการขับขี่และความมั่นใจเมื่อใช้ความเร็วสูง
วีออส “Exclusive” มีให้เลือกแค่ 2 สีคือดำ (Attitude Black Mica) และขาวมุก (White Pearl Crystal)
ตั้งราคาไว้ที่ 719,000 บาท (สีขาวมุกเพิ่ม 10,000 บาท)