โตโยต้า วีออส “Exclusive” มาครบๆ ขับสนุก-เนียนกว่าเดิม รองรับ E85

สันติ จิรพรพนิต

“วีออส” เป็นรถกลุ่มซิตี้คาร์ หรือ “ซับคอมแพ็กต์” ที่โด่งดังของ “โตโยต้า” และขายดิบขายดีต่อเนื่องมานานหลายปี

โดยก่อนหน้านี้ซิตี้คาร์ของโตโยต้าคือรุ่น “โซลูน่า” ยอดขายก็พอไปวัดไปวาได้

จนมาเปรี้ยงสุดๆ เมื่อออกรุ่น “โซลูน่า วีออส” เมื่อปี ค.ศ.2003 สร้างปรากฏการณ์และความทึ่งให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทย เพราะเป็นรุ่นแรกที่ขยับ “เรือนไมล์” มาไว้ตรงกลางคอนโซลหน้า จากปกติเรือนไมล์จะอยู่หลังพวงมาลัยรถ

ช่วงออกมาใหม่ๆ โดนวิพากษ์วิจารณ์ทั้งบวกและลบ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ออกแบบเรือนไมล์แบบนี้บอกตรงๆ ว่าช่วงแรกที่ผมได้ขับก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน ที่มองไปหลังพวงมาลัยแล้วไม่เห็นอะไรเลย มั่นโล่งๆ โหวงๆ พิกล แต่ขอโทษ โซลูน่า วีออส รุ่นนี้ขายกันระเบิดเถิดเทิง เพราะรูปร่างหน้าตาสวยโดนใจวัยรุ่น

ในรุ่นถัดมาเรือนไมล์ยังไว้ตรงกลางเหมือนเดิม ยอดขายพอไปได้ แต่ไม่เปรี้ยงเท่ารุ่นพี่เนื่องจากปรับเปลี่ยนไม่มากนัก จนในรุ่นล่าสุดออกมาเมื่อปี 2013 ขยับเรือนไมล์กลับมาไว้หลังพวงมาลัยตามเดิม

exterior_thumb1

วีออส รุ่นล่าสุดนี้ออกแบบภายนอก-ในค่อนข้างสวย และมาในเทรนด์ยอดนิยมของการออกแบบรถในหลายๆ ค่าย คือรุ่นต่างๆ ทั้งใหญ่-กลาง และเล็ก จะมีลักษณะคล้ายกัน

โดยวีออส ได้ดีเอ็นเอมาจากรุ่นพี่ทั้ง “อัลติส” และ “คัมรี”

วีออส รุ่นปัจจุบันแม้จะออกมาพักใหญ่ แต่ล่าสุดปรับโฉมแบบขนาดใหญ่ทั้งนอก-ใน และหัวใจหลักคือเครื่องยนต์

พร้อมมีรุ่นพิเศษออกมาคือ “Exclusive” เน้นการตกแต่งที่ดูหรูหราและดูสปอร์ตมากขึ้น มากับชุดแต่งเต็มพิกัด

เรียกว่าซื้อไปแล้วไม่ต้องไปตกแต่งอะไรเพิ่มอีกเลย

จริงๆ แล้วผมได้ทดลองขับ วีออส “Exclusive” มาพักใหญ่แล้ว แต่หลังการทดสอบมีรถใหม่ๆ เปิดตัวแบบทะลักทลายหลายรุ่นต่อเนื่อง จึงต้องเปิดพื้นที่ให้รุ่นใหม่ๆ เสียก่อน

จนมาฉบับนี้ถึงโอกาสเหมาะ

วีออส “Exclusive” รูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกับวีออส รุ่นปกติ แต่เสริมชุดแต่งด้วยสเกิร์ตรอบคัน

ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ต่ำลงมาเป็นไฟตัดหมอกหน้า พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED

exterior_thumb1

กระจังหน้าโครเมียม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า

มือจับประตูด้านนอกโครเมียม คิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียม ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ลายใหม่ กล้องมองหลัง และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือสัญลักษณ์ “Exclusive” ด้านท้ายรถ เพื่อให้รู้ว่านี่เป็นวีออส ที่แต่งจากโรงงานแท้ๆ

ส่วนภายในที่เสริมเข้ามาให้ดูหรูหรามากขึ้น อาทิ ใช้โทนสีดำ เบาะหนังสีดำลายกราฟิก

คอนโซลหน้าและแผงประตูตกแต่งด้วยลายไฮโดรกราฟิกสีเทา

พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังตกแต่งด้วยเปียโนแบล็ก

exterior_thumb1เครื่องเล่น DVD/CD/MP3/WMA หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วรองรับบริการพิเศษจาก T-Connect ช่องต่อ USB / HDMI / SD Card ระบบเชื่อมต่อ Hands-free แบบไร้สาย Bluetooth

ด้านหลังมีถาดใส่ของ และกล่องเก็บสัมภาระท้ายรถ พร้อมชุดอุปกรณ์เติมลมยาง Air Compressor Kit

exterior_thumb1

แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดและไม่ค่อยเห็นในรถรุ่น “ไมเนอร์เชนจ์” อื่นๆ คือ “เครื่องยนต์+เกียร์”

เพราะปกติแล้วรุ่นไมเนอร์เชนจ์ จะปรับเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก-ใน เท่านั้น

แต่วีออสไมเนอร์เชนจ์รุ่นนี้ และวีออส “Exclusive” ปรับเครื่องยนต์ใหม่จากเดิมรหัส 1NZ-FE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i 1,497 ซีซี 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร

เปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์รหัส 2NR-FBE 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i 1,496 ซีซี 108 แรงม้า แรงบิด 140 นิวตันเมตร

ดูสเป๊กแล้วอาจจะงงว่าเปลี่ยนทำไมหว่า? เพราะทั้งแรงม้า-แรงบิดหดลงเสียอย่างนั้น

คำตอบก็คือเครื่องยนต์ตัวใหม่สามารถใช้น้ำมันได้สูงสุดถึง “อี85”

ทำงานควบคู่กับเกียร์ใหม่ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift

จุดเด่นคือขับสนุกขึ้น การเปลี่ยนเกียร์ราบเรียบมากขึ้น ประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องตัวเก่า ค่าไอเสียน้อยลงเหลือ 135 มิลลิกรัม/กิโลเมตร แถมใช้น้ำมันได้เกรดสูงสุดถึง อี85 ประหยัดตังค์เข้าไปอีก

นอกจากนี้ ยังเพิ่มระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับสากล เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ควบคุมรถให้ทรงตัวดีขึ้น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ช่วยกระจายแรงเบรกในแต่ละล้อให้ทำงานได้อย่างสมดุล ทำให้การเบรกในโค้งที่คนไทยใช้กันบ่อยเหลือเกินปลอดภัยมากขึ้น

รวมทั้งมีระบบเสริมแรงเบรก (BA) ช่วยเพิ่มแรงเบรกมากในกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้หยุดรถได้ในระยะที่สั้นกว่า

สุดท้ายคือปรับค่าโช้ก-สปริงใหม่ ให้เกาะถนนดีขึ้น พร้อมตั้งค่าพวงมาลัยไฟฟ้าให้มีน้ำหนักเหมาะสมในทุกย่านความเร็ว

ทริปการทดสอบนี้เดินทางไปเขาใหญ่ เพื่อร่วมงานสัมมนาโต๊ะข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ “ข่าวสด” ที่ผมรับผิดชอบอยู่

ขาไปอยู่ในฐานะผู้โดยสาร เพราะมีผู้ร่วมไปด้วยรวม 3 คน

exterior_thumb1

ส่วนขากลับว่ากันรวดเดียวเข้ากรุงเทพฯ

ช่วงที่นั่งยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก แต่พอขึ้นประจำการหลังพวงมาลัยได้สักพักรู้สึกแปลกๆ กับการสั่นสะเทือนและพวงมาลัยที่โหวงๆ พิกล แต่ด้วยความที่มีคนนั่งโดยสารไปด้วยจึงไม่ได้ใช้ความเร็วมากนัก

กระทั่งถึงกรุงเทพฯ หยิบเครื่องวัดลมยางมาเช็กดู

ไอ๊หยา…เติมลมเกินมาตรฐานไปราวๆ 10-12 ปอนด์ในทุกๆ ล้อ

รออะไรล่ะครับ ปล่อยลมออกจนได้ตามมาตรฐานที่ระบุไว้

ผมก็รู้สึกถึงความเปลี๋ยนไป๋อย่างชัดเจน

เพราะตอนนี้แยกทางกับผู้โดยสารแล้ว เลยใส่ได้เต็มๆ

อัตราเร่งช่วงออกตัวถือว่าทำได้พอประมาณไม่จี๊ดมาก แต่ก็ไม่ถึงกับอืดจนรับไม่ได้

รอยต่อของเกียร์แทบไม่รู้สึกอันเป็นจุดเด่นสุดของ CVT

exterior_thumb1

ในช่วงความเร็วกลางมาค่อนข้างเร็ว เข็มไมล์วาดขึ้นไประดับ 130-140 ก.ม. อย่างไม่รู้ตัว

การทรงตัวในความเร็วขนาดนี้ไม่มีปัญหาใดๆ ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบยอดนิยมแม็กเฟอร์สันสตรัต/เหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม/คอยล์สปริง/เหล็กกันโคลง

แม้รุ่นนี้เป็นเกียร์ซีวีที แบบขั้นบันได แต่ก็มีระบบปรับเป็นเกียร์แบบแมนน่วล เพียงตบคันเกียร์เข้าหาตัวผู้ขับขี่ ดันขึ้น-ลง เพื่อเพิ่ม-ลดเกียร์ตามความชอบ

ถือว่าช่วยเพิ่มความสนุกในการลากรอบ หรือเชนจ์เกียร์ในจังหวะเร่งแซง และเป็น “เอนจิ้นเบรก” ยามฉุกเฉิน

ความรู้สึกส่วนตัวบอกได้เลยว่าเหนือกว่ารุ่นเดิมพอสมควร ทั้งความสนุกในการขับขี่และความมั่นใจเมื่อใช้ความเร็วสูง

วีออส “Exclusive” มีให้เลือกแค่ 2 สีคือดำ (Attitude Black Mica) และขาวมุก (White Pearl Crystal)

ตั้งราคาไว้ที่ 719,000 บาท (สีขาวมุกเพิ่ม 10,000 บาท)