สำเริงคดี : “เคโตจีนิก ไดเอ็ต” สูตรที่ซุปตาร์ฮอลลีวู้ด ใช้ลดน้ำหนักกว่า20โล!

เคโตจีนิก ไดเอ็ต

โปรแกรมการกินที่กำลังฮ็อตอยู่ในหมู่ฮอลลีวู้ดชนยามนี้คือ Ketogenic diet คิม คาร์เดเชียน ลดน้ำหนักได้กว่า 20 กิโลกรัมหลังคลอดลูกคนที่สอง ด้วยการเปลี่ยนมากินแบบเคโตฯ นี่แหละ

สาวกคนอื่นๆ ก็เช่น ฮัลลิ เบอร์รี่, แมตธิว แม็กคอนาเฮย์, เจสสิก้า บีล และ กาย เซบาสเตียน ฯลฯ

การกินแบบเคโตจีนิกเกิดขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1920 เพื่อช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยด้วยโรคลมชักหรือลมบ้าหมู

มีหลักการว่าให้กินคาร์โบไฮเดรตแต่น้อย วันละแค่ 20-50 กรัม แล้วกินไขมันกับโปรตีนให้พอเพียง

FILE PHOTO: Kim Kardashian arrives at the 2016 MTV Video Music Awards in New York, U.S., August 28, 2016. REUTERS/Eduardo Munoz/File photo

บางกูรูว่าให้กินไขมันมากหน่อย กินโปรตีนแต่พอควรก็มี ที่มันฮิตฮ็อตขึ้นมาก็เพราะว่านักโภชนาการพบว่ามันเป็นวิธีลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

เวลาที่เรากินคาร์โบไฮเดรตแต่น้อย กินไขมันมากพอควร ร่างกายจะเปลี่ยนไปใช้ไขมันเป็นพลังงานหลัก นั่นคือเกิดการผลิตเคโตนส์ หรือเกิดกระบวนการเคโตซิสขึ้น

กูรูเคโตฯ บอกว่า “เมื่อคุณเข้าสู่กระบวนการเคโตซิส คุณจะไม่รู้สึกหิวตลอดเวลาอีก และไม่กระหายของหวาน ข้อดีต่อมาคือ คุณจะมีระดับพลังงานค่อนข้างคงที่ตลอดวัน จิตใจโปร่งโล่ง และน้ำหนัก (จากรอบพุง) ลดลง”‘

Halle Berry attends the 2018 Vanity Fair Oscar Party following the 90th Academy Awards at The Wallis Annenberg Center for the Performing Arts in Beverly Hills, California, on March 4, 2018. / AFP PHOTO / JEAN-BAPTISTE LACROIX

อาหารที่ควรกินตามโปรแกรมเคโตจีนิก ได้แก่

เนื้อสัตว์ อาทิ ปลาที่จับได้ตามธรรมชาติ วัวและแกะที่เลี้ยงด้วยหญ้า ไก่และเป็ดออร์แกนิก

ผักใบเขียว โดยเฉพาะผักตระกูลกะหล่ำ อย่างบร็อกโคลี่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก

ผลิตภัณฑ์นมไขมันสูง เช่น เนยแข็ง เนยเหลว และครีมไขมันสูง ตลอดจนน้ำมันมะพร้าว

นัทต่างๆ อาทิ แม็กคาเดเมีย วอลนัท และเมล็ดทานตะวัน

ผลไม้ ควรเป็นอะโวคาโด และอาจกินเบอร์รี่บ้าง

เครื่องดื่ม ได้แก่ น้ำเปล่า กาแฟดำไม่เติมน้ำตาล ชานิดหน่อย

ส่วนอาหารที่ควรเลี่ยงตามโปรแกรมเคโตจีนิก ได้แก่

ธัญพืช ทั้งข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ข้าวสาลี ข้าวโพด ตลอดจนซีเรียล

น้ำตาล น้ำตาลทุกชนิด น้ำเชื่อม และน้ำผึ้ง

ผลไม้ กล้วย ส้ม และแอปเปิล

พืชหัว มันฝรั่งและมันต่างๆ รวมถึงเผือกด้วย

เครื่องดื่ม น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ ชา-กาแฟใส่น้ำตาล น้ำผลไม้

ประโยชน์ของการใช้เคโตนส์เป็นพลังงานหลักแทนกลูโคลสยังไม่หมด เพราะว่ากันว่ามันอาจช่วยลดอาการอักเสบของข้อกระดูกและผิวได้

การกินแบบเคโตฯ ยังเลี่ยงการกระฉูดขึ้นลงของน้ำตาลในเลือดซึ่งจะเกิดขึ้นเวลาที่เรากินอาหารแป้งและน้ำตาลเป็นหลัก ผลก็คือ ร่างกายไม่จำเป็นต้องผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้น ระดับอินซูลินต่ำ

มีความหมายว่า ร่างกายของเราจะสามารถย่อยไขมันไปเป็นพลังงานได้ดีขึ้นนั่นเอง