ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจอีกคอมเมิร์ซและมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ

ของการดำเนินธุรกิจค้าปลีกในยุคดิจิตอล

ปี 2561 ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะขยายตัวร้อยละ 20-25 มีมูลค่ารวม 2.56 แสนล้านบาท

จูงใจให้ผู้ประกอบการค้าปลีกรวมถึงผู้ประกอบการที่อยู่นอกธุรกิจค้าปลีกมีการแตกไลน์และสนใจที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจค้าปลีก

โดยเฉพาะ “ค้าปลีกออนไลน์”

การแข่งขันธุรกิจค้าปลีกในระยะข้างหน้าจะไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่ในกลุ่มผู้เล่นที่เป็นผู้ประกอบการค้าปลีกอีกต่อไป แต่จะมีผู้เล่นหน้าใหม่ที่เป็นผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซและผู้ประกอบการนอกกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งในรูปแบบการเข้ามาสนับสนุนเชนธุรกิจออนไลน์ หรือการเข้ามาเป็นคู่แข่งหน้าใหม่

ส่งผลให้ผู้ค้าปลีกโดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการที่มีหน้าร้าน (ออฟไลน์) เผชิญกับความท้าทายในการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นและแตกต่างกันไป

ยิ่งมีการรุกเข้ามาของกลุ่มตลาดกลางออนไลน์ต่างชาติรายใหญ่ เช่น จีน เกาหลีใต้ ที่มีแผนบุกตลาดออนไลน์ของไทยรวมถึงอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อความอยู่รอดในระยะยาวผู้ค้าปลีกแต่ละกลุ่มต้องเร่งปรับตัวอยู่เสมอ

โดยเฉพาะการทำความเข้าใจไลฟ์สไตล์หรือพฤติกรรมลูกค้าตนเองให้ได้มากที่สุด ผ่านการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ดาต้า อะนาไลติกส์ หรือแม้แต่เทคโนโลยีเอไอ

แม้ผู้ประกอบการจะมีการปรับตัวมาโดยตลอด แต่อีกโจทย์สำคัญคือ การบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ได้ลงทุนไปก่อนหน้านี้ หรือการลงทุนขยายสาขาใหม่

และการบำรุงซ่อมแซมสาขาเก่าให้สามารถสร้างผลตอบแทนกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว