เผยแพร่ |
---|
การผ่อนปรนให้ภาค”ประชาสังคม”สามารถจัดเวทีอันมีส่วนกระตุ้นในการเลือก 200 สมาชิกวุฒิสภาได้
ถือได้ว่าเป็นการผ่อนปรนที่มีลักษณะ”สร้างสรรค์”
หากเทียบกับสภาพการณ์ในการเลือก 250 สมาชิกวุฒิสภาก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ต้องถือว่าการผ่อนปรนเช่นนี้สะท้อนความคิดที่”ก้าวหน้า”
เป็นคุณอย่างยิ่งต่อเส้นทางแห่งการได้มาซึ่ง 200 สมาชิกวุฒิ สภา”ใหม่”
เพราะว่าก่อนเดือนมีนาคม 2562 เป็นการเลือกอย่าง”เงียบ”
การเลือก 50 คนที่บริหารจัดการโดยกกต.ก็มาจากกลุ่ม 10 อาชีพและมีผู้สมัครเข้าร่วมไม่ถึง”เรือนหมื่น” กระทั่งสำนักข่าวบีบีซีระบุว่าเป็น”การเลือกที่เงียบที่สุดในโลก”
แม้จะผ่านการเลือกกันเองทั้งโดยตรงและโดยเลือกไขว้มาแล้วจำนวนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับการกลั่นกรองอีกครั้งโดยคสช.หรือคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ
ยิ่งจำนวน 200 อันเป็นส่วนประกอบหลักยิ่งมาจากการจัดการของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเบ็ดเสร็จ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ถามว่าการยินยอมผ่อนปรนของกกต.มาจากความเมตตาปราณี มาจากสำนึกแห่งความเป็นนักประชาธิปไตยที่ต้องการเห็นความ ก้าวหน้ากระนั้น
อาจมีอยู่บ้าง อย่างน้อยก็มีมากกว่าเมื่อปี 2562 อย่างน้อยก็เปิดใจรับฟังความเห็นที่เสนอมาจากภาคประชาชน
แต่ปัจจัยชี้ขาดอย่างแท้จริงคือ ปัจจัยจากประชาชน จากสังคม ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของไอลอว์ ไม่ว่าจะเป็นการยืนหยัดของคณะก้าวหน้า
และการยืนหยัด เคลื่อนไหวอย่างเด็ดเดี่ยวหาญกล้านี้ก็ได้รับ การสนองตอบโดยสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นสื่อหนังสือพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นสื่อโทรทัศน์ ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์
การประสานและร่วมมืออย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเช่นนี้เองทำให้กกต.ต้องเพิ่มความระมัดระวัง ผ่อนปรน
แต่ก็ผ่อนปรนภายใต้ข้อจำกัดแห่ง”รัฐธรรมนูญ”
บรรยากาศแห่งการเข้าสู่กระบวนการในการเลือก 200 สมาชิกวุฒิสภา”ใหม่”จึงก่อให้เกิด 2 สายธารใหญ่ในทางการเมือง
ระหว่างการเมือง”เก่า” กับการเมือง”ใหม่”อันแหลมคม
การเมืองเก่าสามารถเห็นได้จากบทบาทของสมาชิกวุฒิสภา”เดิม” จากบางพรรคการเมือง การเมืองใหม่สามารถเห็นได้ผ่านความตื่นตัวของภาคประชาสังคม
การไม่ยอมจำนนอย่างเซื่องๆต่างหากที่ส่งผลสะเทือนให้เกิดการขยับ ขับเคลื่อนและสร้างมิติใหม่ในทางสังคม การเมือง