อะไร(แม่งก็เป็นศิลปะ) : IMPERMANENCE การสำรวจจิตตามหลักพุทธศาสนา ด้วยตรรกะทางคณิตศาสตร์

ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์

IMPERMANENCE การสำรวจจิตตามหลักพุทธศาสนา ด้วยตรรกะทางคณิตศาสตร์

จากนิทรรศการที่แล้ว เราก็ได้ไปดูนิทรรศการศิลปะที่มีรสชาติแปลกใหม่มาอีกนิทรรศการ เลยถือโอกาสเอามาเล่าสู่ให้อ่านกันต่อเสียเลย

นิทรรศการนั้นมีชื่อว่า IMPERMANENCE

ที่เป็นนิทรรศการศิลปะแนวอินเตอร์แอ๊กทีฟมัลติมีเดีย โดยศิลปินคลื่นลูกใหม่อย่าง กิตติธร เกษมกิจวัฒนา ผู้ทำงานศิลปะในสื่อสมัยใหม่ ที่ผสมผสานคณิตศาสตร์, อินเตอร์แอ๊กทีฟเทคโนโลยี (เทคโนโลยีเชิงโต้ตอบ) และปรัชญาของศาสนาพุทธเข้าด้วยกันอย่างน่าสนใจ

ในห้องแสดงงาน กิตติธรจัดวางผลงานศิลปะที่ดูคล้ายกับแท่นวางอ่างน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในโบสถ์คริสต์ ที่ถูกฉายด้วยแสงสีน้ำเงินอันขรึมขลังในห้องมืดมิด

ตรงกลางอ่างมีน้ำขังอยู่ โดยผิวน้ำจะสั่นสะเทือนเป็นจังหวะโดยมีรูปแบบที่สัมพันธ์กับเสียงและการเคลื่อนไหวของคนที่เข้ามาในห้อง และฉายสะท้อนภาพผิวน้ำอันสั่นไหวกลับขึ้นไปบนเพดานด้านบนอย่างน่าประหลาด

บนผนังอีกด้านมีผลงานวิดีโอที่แสดงการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงรูปทรงของน้ำบนพื้นผิวในรูปแบบต่างๆ

ผลงานชิ้นนี้กิตติธรใช้ตรรกะทางคณิตศาสตร์ของเลขฐานสอง (Binary Digit) ในนัยยะของความสัมพันธ์ระหว่างการแปรค่าระหว่างเลข 0 และ 1 กับการเกิด-ดับ ตามหลักของความไม่เที่ยงในพระพุทธศาสนา สร้างเป็นโปรแกรมที่รับคลื่นเสียงและแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นภายในห้องนิทรรศการ

โดยแปลงค่าและส่งผ่านความถี่ของคลื่นนั้นๆ ไปสู่มวลของน้ำ

ความถี่ของคลื่นน้ำที่เกิดขึ้นสื่อถึงการเคลื่อนไหวภายในจิต จนเกิดเป็นงานศิลปะที่พูดถึงพื้นที่ สสาร และเวลา โดยอ้างอิงถึงตรรกะทางคณิตศาสตร์และพุทธศาสนา

“ชื่องาน IMPERMANENCE สื่อถึงความไม่แน่นอน และสิ่งที่เกิดขึ้นและดับไป อย่างในศาสนาพุทธ ถ้าเราแปลตรงตัวโดยที่ไม่ได้ดูบริบท จะหมายถึง “อนิจจัง”

แต่เราไม่ได้แตะตรงนั้น เพราะตามหลักศาสนาพุทธ ธรรมะจะมีสองประเภท คือ โลกุตรธรรม (ธรรมะที่อยู่เหนือวิสัยของโลก) และโลกิยธรรม (ธรรมะที่ยังเกี่ยวข้องกับโลก)

เราอยู่ในส่วนของโลกิยธรรม หมายถึงเราเข้าใจหลักศาสนาเพื่อเอามาใช้กับชีวิตประจำวัน โดยในงานชุดนี้เราใช้น้ำเป็นสื่อในการนำเสนอ” กิตติธรกล่าว

IMPERMANENCE เป็นโครงการที่กิตติธรพัฒนาต่อจากงานวิจัยวิทยานิพนธ์ เมื่อครั้งศึกษาระดับปริญญาโทในภาควิชาการออกแบบร่วมสมัยและเทคโนโลยี ที่ L”ensci-les ateliers กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

และเคยสร้างผลงานออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น การทดลองรูปทรงของน้ำ

การสร้างรูปทรงโดยใช้โปรแกรมประมวลผลและการใส่คำสั่งเชิงตรรกะ ให้ภาพหรือรูปทรงเกิดการเคลื่อนไหว รวมไปถึงสื่อวิดีโอจัดวาง

“โครงการนี้เราทำขึ้นในสมัยเรียน ด้วยความที่อยากจะหาหลักตรรกะของศาสนาพุทธโดยใช้คณิตศาสตร์มาเป็นตัวเล่าเรื่อง ตอนแรกเราตั้งสมมติฐานด้วยการทำการค้นคว้าเกี่ยวกับสูตรคณิตศาสตร์ ว่าสูตรไหนที่จะสามารถเป็นตัวแทนเกี่ยวกับศาสนาพุทธทั้งหมดได้ แต่ด้วยความที่ระยะเวลาค่อนข้างสั้น ก็เลยเล่าเรื่องเดียว คือความไม่แน่นอนกับสิ่งที่เกิดขึ้นและดับไป ตอนนั้นเราก็ลองกับสสารหลายอย่าง ทั้งแสง, แม่เหล็กเหลว (Ferrofluid Magnetic Liquid) แต่สสารที่สามารถเล่าเรื่องนี้ได้ดีที่สุดก็คือน้ำ

การที่เราอยู่ในห้องนี้ สภาวะที่เกิดขึ้นในน้ำมันสัมพันธ์กับผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นด้วยแรงสั่นสะเทือน เสียง คือถ้ามีคนอยู่ในห้องนี้ ก็จะส่งปฏิกิริยาทำให้น้ำในแท่นวางอ่างใส่น้ำสั่นสะเทือนจนน้ำกลายเป็นรูปทรงต่างๆ เหมือนเป็นตัวแทนสภาวะจิต ณ ขณะนั้น และแพตเทิร์นของรูปทรงของน้ำที่มันเกิดขึ้น ก็จะสัมพันธ์กับสภาวะในห้องที่ว่า สิ่งที่อยู่ในห้องนี้มีความเคลื่อนไหวและมีเสียงแค่ไหน แพตทเทิร์นมันก็จะเปลี่ยนไปตามความเคลื่อนไหวนั้น ถ้าไม่มีคนอยู่เลย แท่นก็จะไม่สั่น ถ้าเราเปรียบห้องนี้คือตัวของเรา อ่างใส่น้ำก็คือจิตของเรา ที่จะตอบสนองกับสิ่งที่เข้ามากระทบ

ส่วนวิดีโอเป็นงานที่ทำตอนเรียน ที่ทำการทดลองเกี่ยวกับน้ำ ว่าเราจะสร้างรูปทรงน้ำเหมือนเราสร้างรูปทรงของจิตตัวเองยังไง พื้นผิวที่เห็นในวิดีโอคือเราเทน้ำลงไปบนกระดาษกันน้ำ รูปทรงของน้ำที่เห็นในภาพก็จะเคลื่อนไหวจากลมที่เป่า ความร้อน หรือแรงสั่นสะเทือน เราเลยเอาวิดีโอนี้มาแสดงในนิทรรศการนี้เพื่อให้มันเป็นส่วนเชื่อมกับโครงการเก่ากับโครงการใหม่ในครั้งนี้”

เข้าไปชมผลงานและแนวความคิดของกิตติธร ได้ที่ www.kittitornk.com

นิทรรศการ IMPERMANENCE จัดแสดงที่ โปรเจ็คต์รูม โดย แกลเลอรี่เว่อร์ ซ.นราธิวาส 22 (สาธุประดิษฐ์ 15)

ระหว่างวันที่ 4 กุมภาพันธ์ – 25 มีนาคม 2561

สอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2103-4067