ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 26 เมษายน - 2 พฤษภาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
เป็นประจำในทุกๆ ปี ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน มีวาระเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นัก
เป็นแฟมิลี่ทริป ต้อนรับน้องสาวที่ทำงานอยู่สหรัฐอเมริกา เดินทางกลับมาเมืองไทย
ปีนี้เล็งขอยืมรถทดสอบไปในตัว สุดท้ายไปจบที่ “โตโยต้า” กับตัวแรง
“ฟอร์จูนเนอร์ จีอาร์ สปอร์ต” (Fortuner GR Sport)
เป็นรถเอสยูวี 7 ที่นั่ง แต่จริงๆ ไปสัก 6 คนกำลังสวย ซึ่งตรงกับสมาชิกในทริปพอดี
ไปรับรถที่ TOYOTA ALIVE SPACE ถ.บางนา-ตราด
เห็นรูปร่างหน้าตาอีกครั้ง ยังคงความอลังการงานสร้างเหมือนเดิม
ตัวรถสีแดงสวยสด หลังคาดำตัดกันอย่างลงตัว
กระจังหน้าสีดำเงา ดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ GR
ไฟหน้าทรงสวยแบบ LED Dual Projector Lens พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้า / ปรับระดับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ
ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED
ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding
กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่ พร้อมชุดตกแต่งสีดำเงา
ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว สีพิเศษ ออกแบบเฉพาะรุ่น GR Sport
ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อม Kick-activated และระบบป้องกันการหนีบ หรือจะเปิดจากรีโมตก็ได้
ห้องโดยสารสีดำ เดินด้ายสีแดงบริเวณคอนโซลหน้า แผงข้างประตู พวงมาลัยและเบาะนั่ง
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบนุ่ม พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
มีแถบสีแดงเล็กๆ หรือ Center Mark พร้อมสัญลักษณ์ GR
หน้าจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
ตรงกลางเป็นจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth Apple CarPlay และ Android Auto
ระบบเสียง Premium Audio ลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง 11 ลำโพง พร้อมซับวูฟเฟอร์
ช่องแอร์กลางเจาะอยู่ด้านบนจอกลาง ข้อดีคือกระจายลมได้ทั่วถึงและไม่เป่ามือผู้ขับขี่
ที่นั่ง 2 แถวหลังไม่ต้องกังวล เพราะเจาะแอร์เพดานสำหรับเบาะทุกที่นั่ง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone
เกียร์แบบขั้นบันได ความสูงของก้านกำลังเหมาะ
บริเวณฐานเกียร์มีปุ่มปรับโหมดการขับขี่ ทั้ง ECO / Normal / Sport
เบาะนั่งหนังสังเคราะห์ พร้อมสัญลักษณ์ GR
เบาะด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
แป้นคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
หลังได้รับรถมาเรียบร้อย ลองเข้าไปทดสอบนั่งเบาะแถว 3 ปรากฏว่าไม่มีปัญหา ด้วยสามารถปรับเอนพนักได้ ทำให้สบายตลอดการเดินทาง
ส่วนเบาะแถว 2 กว้างขวาง แม้จะเลื่อนมาชิดด้านหน้าสุดก็ยังนั่งได้สบาย
ตรงกลางดึงลงมาเป็นที่เท้าแขนพร้อมช่องวางแก้วน้ำ 2 จุด
ส่วนที่ต้องเลื่อนเบาะแถว 2 มาหน้าสุดเพื่อให้เบาะแถวสุดท้ายมีที่วางขามากขึ้นนั่นเอง
การเดินทาง 2-3 ชั่วโมง และแวะพักระหว่างทาง 1 ครั้ง ถือว่าสบายๆ สำหรับคนนั่งแถว 3
แต่ด้วยตัวรถที่ค่อนข้างสูง ทำให้ผู้สูงอายุที่ต้องเดินทางไปด้วยอาจไม่สะดวกในการขึ้นลง
บวกกับสัมภาระที่แต่ละคนมีไม่น้อย โดยเฉพาะสาวๆ
สุดท้ายตัดสินใจเอารถเก๋งส่วนตัวขับตามไปด้วยอีกคัน
ด้วยความที่ฟอร์จูนเนอร์ นั่งกันไปแค่ 3 คน ผมตัดสินใจปล่อยลมยางออก 1-2 ปอนด์ เพราะต้องการความนิ่มนวลมากขึ้น แต่สัญลักษณ์เตือนลมยางที่หน้าจอโชว์ตลอดเวลา
จุดหมายคือ จ.ปราจีนบุรี โดยใช้เส้นทาง ถ.รามอินทรา มุ่งไปมีนบุรี ทะลุออกฉะเชิงเทรา
ออกเดินทางตอนสายๆ รถเยอะประมาณหนึ่ง
แต่ด้วยความสูงของรถ ทำให้ทัศนวิสัยช่างจ้าเสียเหลือเกิน
การกะระยะ เร่งแซง หรือเปลี่ยนเลน ทำได้สบายและปลอดภัยมากขึ้น
เครื่องยนต์ทรงพลัง ดีเซลแบบ 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler 2,755 ซีซี
กำลังสูงสุด 224 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดมากถึง 550 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift
ช่วงล่างด้านหน้า อิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง พร้อมช็อก แอบซอร์บเบอร์แบบ Monotube เฉพาะรุ่น GR Sport
ด้านหลังแบบโฟร์ลิงก์ พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง พร้อมช็อก แอบซอร์บเบอร์แบบ Monotube เช่นกัน
ความนิ่มนวลต้องบอกว่าไม่มากนัก แต่ไม่ถึงกับกระด้าง ผู้ขับขี่อายุไม่มากน่าจะชอบเป็นพิเศษ
อัตราเร่งหายห่วงเพราะทั้งแรงม้าและแรงบิดที่เพิ่มมากกว่ารุ่นเก่า
ช่วงออกตัวพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับความเร็วกลางและปลาย มาแบบไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย
อารมณ์การขับขี่หลังจากที่ลองครบทั้ง ECO / Normal / Sport
โหมดแรกรู้สึกไม่ทันใจไปนิด ส่วนโหมดสุดท้ายแรงสนุกอยู่ ยิ่งหากขับเพียงคนเดียว
แต่อาจไม่เหมาะหากมีผู้โดยสารท่านอื่นบนรถ
สุดท้ายมาลงตัวที่ Normal เพราะแรงกำลังดี และไม่กระชากกระชั้นเกินไป
พวงมาลัยคมและแม่นยำ น้ำหนักกำลังเหมาะ ไม่เบา หรือหนักเกินไป
มีระยะฟรีนิดๆ ทำให้ไม่เครียดหรือเหนื่อยมากหากต้องขับทางไกล
การเข้าโค้งแม้ตัวรถค่อนข้างสูงแต่ไม่มีปัญหา ช่วงล่างรับมือได้หมด แต่อาจมีแรงเหวี่ยงเบาๆ สำหรับผู้โดยสาร
ช่วงเดินทางจากฉะเชิงเทราไปปราจีนบุรี มีช่วงจังหวะรถว่างบนถนนแบบ 3 เลน แถมถนนเรียบกริบ
เลยจัดหนักๆ ไปพอสมควร ความเร็งพุ่งวาบตามน้ำหนักเท้า
การเร่งแซงแทบไม่ต้องกะจังหวะเลย เพราะกดเป็นมาตามสั่ง
ขับรถรุ่นนี้ตอนอยู่บนถนน 2 เลนสวน จังหวะเร่งแซงไม่มีปัญหาแน่นอน
ระบบความปลอดภัยแบบพื้นฐานมีครบ เด่นๆ เช่น ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง
บวกกับระบบ Toyota Safety SENSE ที่ใส่มาแบบไม่ยั้ง
อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน
ระบบเตือนการชนด้านหน้า
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ซึ่งจะส่งภาพเวลาจอด หรือกำลังออกตัวเพื่อความปลอดภัยมากขึ้น
สัญญาณกะระยะช่วยจอดด้านหลัง 6 ตำแหน่ง ฯลฯ
“ฟอร์จูนเนอร์ จีอาร์ สปอร์ต” เป็นรถที่ขับสนุกรุ่นหนึ่งเลย เพราะได้ทั้งความสบายและความแรง
แม้ค่าสู่ขอจะต้องฉุกคิดนิดหนึ่ง แต่ถ้ารักรถประเภทนี้จริงและอยากได้สมรรนะสูงๆ จัดเลยครับ
ราคา 1,969,000 บาท •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022