รายงานพิเศษ / Band of Brothers “3 ป.” จะอยู่ด้วยกันไปทั้งชาติ “บิ๊กป้อม” สู้? “บิ๊กตู่” เดิมพัน คสช. “บิ๊กเจี๊ยบ” กองหนุนยันไม่มีปฏิวัติ

รายงานพิเศษ

Band of Brothers

“3 ป.” จะอยู่ด้วยกันไปทั้งชาติ

“บิ๊กป้อม” สู้? “บิ๊กตู่” เดิมพัน คสช.

“บิ๊กเจี๊ยบ” กองหนุนยันไม่มีปฏิวัติ

ทั้งๆ ที่ประกาศไว้แล้วว่า “ถ้าประชาชนไม่ต้องการ ผมก็พร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนี้”

แต่พอมีการสะท้อนความต้องการของประชาชน ผ่านโพลออนไลน์ ทางเพจต่างๆ ในโซเชียลและสื่อทีวี ที่ต้องการให้ลาออก

แต่บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กลับประกาศสวนกระแสว่า “ไม่ลาออก แต่จะทำงานต่อไป อย่างหนักแน่นและมั่นคง เพื่อให้ประเทศชาติสงบเรียบร้อย และเกิดความมั่นคง จนกว่าจะจบภารกิจ”

โดยที่ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม ที่เป็นเสมือนโฆษกประจำตัว ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร ยังมีกำลังใจที่ดี สุขภาพแข็งแรงดี มีจิตใจเข้มแข็ง หนักแน่นมั่นคง ที่จะทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ เป็นแกนหลักในการดูแลความมั่นคงของประเทศต่อไป

ด้วยเพราะ พล.อ.ประวิตร มั่นใจว่าตนเองไม่ผิด กรณีใส่นาฬิกาของเพื่อน

อีกทั้งเสียงในโซเชียล ไม่ใช่เสียงของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่มองว่าเป็นแค่ความเห็นของฝ่ายต่อต้าน คสช. และฝ่ายนักการเมืองที่มอง คสช. เป็นคู่แข่ง

จึงทำให้ฝ่ายทหารมีการ “ปั๊มโหวต” เพื่อหนุนให้ พล.อ.ประวิตร อยู่ต่อ รวมทั้งการออกมาของกองเชียร์ “บิ๊กป้อม” จนกลายเป็น “สงครามโหวตออนไลน์”

แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ทั้ง 3 ป. พี่น้อง ได้พูดคุยตกผลึกกันแล้ว ทั้ง พล.อ.ประวิตร และบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และบิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

ด้วยเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ ก็รู้เรื่องนาฬิกา และ “เสี่ยคราม” นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เจ้าของนาฬิกา เพื่อนรักบิ๊กป้อมเป็นอย่างดี

ไม่แค่นั้น ทั้ง 3 ป. ยังได้ประเมินสถานการณ์ร่วมกันแล้วว่า หาก พล.อ.ประวิตร ลาออกไป เรื่องก็ไม่จบ แต่ฝ่ายตรงข้ามจะรุกคืบ ลามมาถึง พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล คสช.

ดังนั้น ทั้ง 3 ป. พี่น้องบูรพาพยัคฆ์ จะต้องอยู่ร่วมรัฐนาวาด้วยกันไปจนตลอดรอดฝั่ง แบบที่ได้ตัดสินใจร่วมกันแล้วว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เรือลำนี้ก็พร้อมที่จะอับปางไปด้วยกัน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ได้บอกกับ พล.อ.ประวิตร ในวันเกิด เมื่อ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา “เราต้องอยู่กันไปทั้งชาติ”

งานนี้จึงเป็นการพิสูจน์ใจของ พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้ารัฐบาล ที่เป็นน้องรัก ที่ พล.อ.ประวิตร ดูแลและสนับสนุนมาตลอด แบบที่เรียกได้ว่า “มีวันนี้เพราะพี่ให้” ด้วยเช่นกัน

พล.อ.ประวิตร จึงเป็น “พี่ชายที่แสนดี” ของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ มาอย่างไม่เสื่อมคลาย

สายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นของพี่น้อง 3 ป. ที่กินนอนอยู่บ้านหลังเดียวกัน นอนห้องเดียวกันมาสมัยเป็นทหารเสือราชินี ร.21 รอ. แบบที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกทีเล่นทีจริงว่า ถ้า พล.อ.ประวิตร เอาหมอนอุดจมูกผมตอนนั้น ก็คงไม่มีผมในวันนี้

รวมทั้งผ่านสมรภูมิชายแดน จนมาถึงกรำศึกการเมืองมาด้วยกันหลายครั้ง ไม่มีวันทิ้งพี่ชาย

ทั้งนี้เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ก็ทำใจ และพร้อมที่จะลาออก เพราะเกรงว่าจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ พลอยเสียคะแนนนิยม ในยามที่กองหนุนลดลงเช่นนี้ด้วย

แต่เมื่อ 3 พี่น้องเปิดใจคุยกันแล้ว พล.อ.ประวิตร จึงกล้าที่จะให้โฆษกประจำตัว ประกาศชัดๆ ว่า จะไม่ลาออก

สอดคล้องกับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่กล่าวในระหว่างลงพื้นที่จันทบุรี ว่า “อย่ารักผมคนเดียว ต้องรักรองนายกฯ และรักรัฐมนตรีด้วย ประยุทธ์คนเดียวอยู่ไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ

“ใครต้องออกไป ออกมา มันวุ่นกันไปหมด ต้องอยู่ด้วยกันวันนี้ เพราะเป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่น หากมีอะไรบกพร่องไป ต้องขอโทษด้วย ไม่มีเจตนาเพื่ออะไรทั้งสิ้น อยู่ที่พวกเรา อย่ามาบอกว่าสืบทอดอำนาจ เพราะอำนาจอยู่ที่ประชาชน ไปเลือกเอาเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่ก็สื่อความหมายถึง พล.อ.ประวิตร ที่ถูกแรงกดดันให้ลาออกนั่นเอง

หากแต่การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจที่จะประคอง พล.อ.ประวิตร ให้อยู่ต่อไปนั้น ย่อมต้องมั่นใจแล้วว่า “เอาอยู่” หากจะมีการรวมตัวต่อต้าน หรือชุมนุมขึ้นมา

รวมทั้งมั่นใจด้วยว่า กองหนุน และแนวร่วมของตนเองและรัฐบาล คสช. ที่มีอยู่ไม่มากนัก จะไม่ลดน้อยไปกว่านี้

ดัชนีชี้วัดหนึ่ง คือการที่ นายสนธยา คุณปลื้ม แห่งพรรคพลังชล และ นายสาธิต ปิตุเตชะ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ นำทีมนักการเมืองท้องถิ่นและอดีต ส.ส. มาต้อนรับพบปะ พล.อ.ประยุทธ์ ตอนลงพื้นที่จันทบุรี

ต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้ง 3 ป. เติบโตมาจาก ร.21 รอ. ชลบุรี ก็ย่อมที่จะมีสายสัมพันธ์กับกำนันเป๊าะ นายสมชาย คุณปลื้ม

ที่สำคัญคือ สายสัมพันธ์ที่แนบแน่นของตระกูลคุณปลื้ม กับบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผช.ผบ.ทบ. น้องรักนายกฯ ตั้งแต่สมัยบิ๊กจ๊อด พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ผู้บิดา กับกำนันเป๊าะ

ที่สำคัญที่สุดคือ ทั้ง 3 ป. ยังมั่นใจในกองทัพ ว่า จะยังคงเป็นกองหนุนหลักของรัฐบาล คสช. ต่อไปอย่างเหนียวแน่น แม้จะมีการปล่อยข่าวปฏิวัติรัฐประหารซ้อน หรือกระแสเสี้ยม ให้กองทัพเลือกข้างประชาชนก็ตาม

จึงไม่แปลกที่ในการแถลงยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร จะไม่ลาออกนั้น พล.ท.คงชีพ ระบุด้วยว่า “กองทัพยังเป็นเอกภาพ และมีความเป็นหนึ่งเดียว ที่จะทำหน้าที่หลักประกันความมั่นคงของประเทศเคียงข้างประชาชน” รวมอยู่ด้วย เพื่อหวังสยบข่าวลือ ปฏิวัติซ้อน รัฐประหารซ้ำ

โดยมีบิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ยืนยันว่า สถานการณ์ในเวลานี้ ไม่มีอะไรถึงขั้นทหารต้องปฏิวัติ และยังคงเป็นกลไกของรัฐบาลต่อไป

“สถานการณ์ตอนนี้ แตกต่างกับตอนปี 2557 ไม่ใช่อยู่ดีๆ ทหารจะออกมา” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

ส่วนที่มาของข่าวลือ เกิดขึ้นหลังจากที่ป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไม่มาร่วมงานเลี้ยงรับรองวันกองทัพบก ที่มี 3 ป. มากันพร้อมหน้า ด้วยเหตุผลที่ไม่แข็งแรง ทานอาหารได้น้อยลงนั้น พล.อ.เฉลิมชัย ชี้แจงว่า พล.อ.เปรม ท่านไม่ค่อยแข็งแรงจริงๆ และคุณหมอก็สั่งให้ท่านพักผ่อนมากๆ

“ป๋าเปรมท่านบอกผมเองว่า มาร่วมงานไม่ได้นะ ผมอยากให้พัก ไม่อยากให้ออกงานตอนกลางคืนด้วย”

ที่สำคัญคือ พล.อ.เปรม บอกว่า เวลาออกงาน ก็อยากให้สมาร์ต ให้เดินได้อย่างสมาร์ต ไม่ต้องเดินเกาะแขนใคร หรือให้ใครคอยพยุง จึงไม่มาร่วมงาน

“ไม่มีเหตุผลอื่น มันเป็นแค่ข่าวลือ” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

แล้วที่สำคัญกว่านั้นคือ ตอนนี้ผมนับถอยหลังอีกแค่ 8 เดือนก็จะเกษียณแล้ว

“ชีวิตนี้ผมพอแล้ว ไม่ได้ต้องการเป็นอะไรอีกแล้ว อยากเกษียณไปแบบสบายๆ อย่าไปคิดเองว่า ผมจะต้องเป็นนั่นเป็นนี่ ไม่เคยคิด ไม่เคยหวัง” พล.อ.เฉลิมชัย สยบทุกข่าวลือก่อนหน้านี้

ด้วยเพราะมีความพยายามในการที่จะแยกกองทัพ แยก ผบ.เหล่าทัพ ออกจากรัฐบาล คสช. แต่ต้องไม่ลืมว่า ทั้งปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพ ล้วนเป็นสมาชิก คสช. ทั้งสิ้น

อีกทั้งบิ๊กเข้ พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกลาโหม บิ๊กต๊อก พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.สส. พล.อ.เฉลิมชัย รวมทั้งบิ๊กนุ้ย พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร. และบิ๊กจอม พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. จะเกษียณราชการพร้อมกันหมด 30 กันยายน 2561 นี้แล้ว

ประการสำคัญคือ พล.อ.ประยุทธ์ นั้นรู้ดีว่า พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่ผู้เปี่ยมบารมี ที่สั่งสมมายาวนาน เท่านั้นที่จะดูแลกองทัพได้ รวมถึงตำรวจ

รมว.กลาโหม หนึ่งเดียวในใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีแค่ พล.อ.ประวิตร เท่านั้น แม้จะมีการคิดเผื่อไว้ว่า หาก พล.อ.ประวิตร จำเป็นต้องลาออก ในที่สุดแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จะควบ รมว.กลาโหม เองก็ตาม แต่ก็ไม่เท่า พล.อ.ประวิตร ดูแลเองโดยตรง

แม้หาก พล.อ.ประวิตร ลาออก และเป็นรองหัวหน้า คสช. แต่ก็ยังต้องเป็นผู้มีอำนาจและบารมีอยู่เบื้องหลัง ที่เป็นทั้งนายกฯ เงา และ รมว.กลาโหม เงาต่อไปเช่นเดิม

ดังนั้น จึงยังอุ่นใจได้ว่า กองทัพยังคงเป็นหนึ่งเดียวกับรัฐบาล คสช. อย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และพร้อมนำรัฐบาลฝ่าดงม็อบ และการต่อต้านไปได้ และพร้อมเคียงข้างสู้ศึกเลือกตั้งไปด้วยกัน

อีกทั้งตอนนี้เป็นช่วงที่แต่ละเหล่าทัพพิจารณาจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารกลางปี หรือโผเมษายนกันแล้ว โดยจะต้องให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก่อนที่จะส่งให้ พล.อ.ประวิตร เขย่าอีกครั้ง

แม้จะเป็นโผทหารกลางปี แต่จะมีการขยับตำแหน่งสำคัญในแต่ละเหล่าทัพ

เก้าอี้แม่ทัพภาคที่ 4 ที่บิ๊กอาร์ท พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ที่จะเกษียณกันยายนปีนี้ ต้องขยับขึ้นมาเป็น พลเอก ก่อนเกษียณ ที่มีแคนดิเดตที่เป็น “คนใน” หลายคน โดยเฉพาะ บิ๊กเดฟ พล.ต.พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 แล้ว

ยังมีชื่อ บิ๊กหนุ่ย พล.ท.ธรรมนุญ วิถี แม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นแคนดิเดต จากสายบูรพาพยัคฆ์ ด้วยอีกคน เพราะในช่วงที่ผ่านมา ลงมาทำงานในภาคใต้ และถือว่าเป็นนายทหารที่สุขุม ล้ำลึก มาสานงานต่อ

ในอดีต บิ๊กอู๊ด พล.อ.วลิต โรจนภักดี ก็เคยถูกส่งมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 จากสายบูรพาพยัคฆ์ น้องรักนายกฯ และบิ๊กป้อม

อย่าลืมว่า พล.ท.ธรรมนูญ นอกจากจะเป็นน้องรักของนายกฯ แล้ว ยังเป็นน้องรักของบิ๊กหมู พล.อ.ธีรชัย นาควานิช องคมนตรี และอดีต ผบ.ทบ. พี่ชายของ พล.ท.ปิยวัฒน์ อีกด้วย

แม้ว่า พล.ท.ธรรมนูญ จะเป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้แม่ทัพภาคที่ 1 ที่คุมขุมกำลังปฏิวัติสำคัญของ ทบ. ในโยกย้ายปลายปีนี้ กับบิ๊กติ่ง พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ก็ตาม

แต่เพราะมีข่าวแพร่สะพัดในกองทัพมาเป็นเดือนแล้วว่า ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 จะมีการแต่งตั้งแบบพิเศษ ไม่ต้องมาจากรองแม่ทัพภาคที่ 1 หรือแม่ทัพน้อยที่ 1 แต่เป็นการแต่งตั้งตามความเหมาะสม

แต่กระนั้น ต้องอยู่ที่ พล.ท.ปิยวัฒน์ ด้วยว่า จะขยับขึ้นพลเอกตามวิถีของการรับราชการ หรือว่าอยากจะทำงานในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 จนเกษียณราชการ หากเป็นอย่างหลัง ก็ต้องรอการโยกย้ายใหญ่ปลายปีเลย

อีกประการหนึ่งคือ โยกย้ายทหารคราวนี้ ผบ.เหล่าทัพทั้ง 5 คนเกษียณราชการพร้อมกันทั้งหมด จึงทำให้ พล.อ.ประวิตร ยิ่งจำเป็นจะต้องอยู่ดูแลกองทัพ ในตำแหน่ง รมว.กลาโหม

แต่กระนั้น บรรดานายทหารสายบิ๊กป้อมนั้น บ้างก็เชียร์ให้ พล.อ.ประวิตร สู้ต่อ อย่าท้อถอย เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร ขณะที่บางส่วนห่วง “นาย” ไม่อยากให้เครียด จึงอยากให้พักผ่อน หลังจากที่ ป.ป.ช. สรุปผลแล้วว่าไม่ผิด เพื่อแสดงสปิริต และไปทำงานเงียบๆ อยู่เบื้องหลัง เพราะเหนื่อยมาเยอะแล้ว ควรถึงเวลาพักผ่อน ไม่อยากให้ต้องกรำศึกการเมือง ที่หนักหนาสาหัสอีกต่อไป

แต่ท้ายที่สุด 3 พี่น้องทหารเสือฯ เท่านั้น ที่จะตัดสินใจร่วมกันในท้ายที่สุด…