‘วัวบา’

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ

สัตว์ป่าบางชนิด มีรูปร่างลักษณะใกล้เคียงกับสัตว์เลี้ยงของคน

อาจแตกต่างกันที่นิสัย ซึ่งสัตว์ป่าจะมีความคล่องแคล่วปราดเปรียว และระแวงกับเสียงหรือกลิ่นคน ซึ่งกลิ่นของคนนี้ ในความหมายของสัตว์ มันคือกลิ่นกายของผู้ล่า เป็นกลิ่นที่มาพร้อมกับอันตราย

พวกมันได้รับการสั่งสอนมาจากรุ่นสู่รุ่น รวมทั้งเป็นสัญชาตญาณว่า เมื่อได้กลิ่นนี้ ต้องระมัดระวัง หรือหลีกหนีให้ไกล

สัตว์ป่าอย่างวัวแดง คือตัวอย่างอันเห็นได้ชัด ลักษณะของวัวแดง กับวัวบ้านนั้น มีความใกล้เคียงกันอยู่ไม่น้อย

แต่วัวแดงที่เติบโตเต็มวัย จะมีขนาดใหญ่และปราดเปรียว ไม่ค่อยจะซึมๆ เหมือนวัวบ้าน

วัวแดงคล้ายจะรูปร่างใหญ่กว่าแต่หนังใต้คอจะเล็กกว่า และมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่วัวแดงมีสีขาวเป็นวงรอบก้น รวมทั้งขาทั้งสี่มีสีขาวคล้ายใส่ถุงเท้า

สีขาวรอบก้นจะเห็นชัดเมื่อวัวแดงเริ่มเติบโต วัวแดงอยู่ร่วมกันเป็นฝูง ในสังคมวัวแดง พูดได้ว่า เป็นสังคมที่มี “ผู้หญิง” เป็นผู้นำ

ส่วนวัวแดงตัวผู้เมื่อโตเป็นหนุ่มเต็มที่ สีขนบนร่างกายจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลคล้ำๆ ถึงเวลานี้ มันจะถูกขับให้ออกจากฝูง ออกไปเตร็ดเตร่เพียงลำพัง

ตัวผู้เหล่านี้ ถูกเรียกว่า สัตว์โทน และสำหรับวัวแดงผิวคล้ำ พวกมันมีอีกชื่อที่ถูกเรียกอย่างคุ้นเคยว่า วัวบา

 

สัตว์ป่าตัวผู้ที่เริ่มเป็นหนุ่มจะถูกขับออกจากฝูง ด้วยเหตุผลสำคัญคือ ป้องกันไม่ให้เกิดการผสมแบบเลือดชิด ผสมกันเองภายในฝูง เป็นการจัดการของธรรมชาติซึ่งออกแบบไว้อย่างเหมาะสม

วัวแดงหนุ่มๆ หลายตัว สภาพจิตใจยังไม่พร้อมกับการใช้ชีวิตลำพัง ยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอ อาจไปรวมกลุ่มกันอยู่เป็นกลุ่มเล็กๆ รอเวลาให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจสักพัก

วัวแดงเลือกที่จะอยู่ในป่าที่ราบต่ำ ป่าเต็งรัง เลือกที่จะไม่อยู่ในสภาพป่ารกๆ ช่วงเวลาหลังไฟไหม้ เมื่อหญ้าอ่อนๆ ที่เรียกว่า ระบัด งอก นั่นคือช่วงเวลาที่วัวแดงชอบ

อีกนั่นแหละ ในฐานะที่วัวแดงคือเป้าหมายหลักของผู้ล่าอย่างเสือโคร่ง ในช่วงเวลาแห่งความอุดมสมบูรณ์ ท่ามกลางความเขียวขจีของระบัด ปรากฏซากวัวแดงจากการลงมือของเสือให้เห็นบ่อยๆ

ในความรื่นรมย์ อยู่ท่ามกลางความสมบูรณ์ ดูเหมือนว่าชีวิตและความตายอยู่ไม่ไกลกัน

 

โป่ง เป็นสถานที่อันเป็นแหล่งอาหารเสริมที่สำคัญของเหล่าสัตว์ป่า ที่นี่ไม่เคยขาดการแวะมาเยี่ยมเยือนจากวัวแดง

ตัวเมียอาวุโสผู้นำฝูง รู้ดีว่าการปล่อยให้ลูกฝูงกินแค่ระบัด ย่อมมีสารอาหารไม่พอเพียงกับการบำรุงกระดูก

ผู้นำฝูงมีความรอบคอบมาก เมื่อเดินทางถึงโป่ง เธอจะให้ทุกตัวหยุดนิ่ง เพื่อสังเกตดูความเรียบร้อย จมูก, หู, สายตา ทำงานเต็มที่

เพราะเธอรู้ดีว่า ในแหล่งอาหารนี่แหละคือสถานที่ซึ่งไม่ปลอดภัย

จนกระทั่งรู้สึกว่าปลอดภัยแล้วนั่นแหละ จึงจะส่งสัญญาณให้ลูกฝูงค่อยๆ ทยอยเดินออกมาสู่ที่โล่ง

พวกเด็กๆ มักจะแสดงอาการดื้อบ้าง บางทีก็ไม่รอ ไม่ฟังคำสั่ง พอมาถึงก็จะพรวดพราดลงโป่งเลย

พวกแม่ๆ จำเป็นต้องออกมาประกบตัวไว้

ในฤดูฝน หากเป็นช่วงที่ช้างยังไม่เข้ามา หญ้าในโป่งจะสูง วัวแดงมักใช้โอกาสนี้อยู่ในโป่งเกือบตลอดวัน บ้างนอน บ้างยืนเคี้ยวเอื้อง

บางตัวนึกสนุกจะขวิดหญ้าเอามาคลุมหัว ใช้เวลาพักผ่อนอย่างรื่นรมย์

 

ท่าทางสบายๆ จะเปลี่ยนไปทันที หากกระแสลมเปลี่ยนทิศทาง นำกลิ่นผู้ล่ามา

เริ่มจากจะมีตัวหนึ่งลุกขึ้นยืนจ้องเขม็ง หันรีหันขวาง

ตอนแรกอาจไม่แน่ใจนัก ถ้ากลิ่นชัดเจนขึ้นทุกตัวจะวิ่งเตลิดออกไปทันที แต่ถ้ากลิ่นจางลง ก็จะแค่เดินช้าๆ หันมองไปมา พอกลิ่นหายไป ก็กลับมาใหม่

ขณะก้มกินหญ้า พวกมันมีดวงตาซึ่งได้รับการออกแบบมา เพื่อให้สัตว์กินพืชมีข้อได้เปรียบ ตำแหน่งดวงตาที่อยู่ค่อนมาทางหู ช่วยให้พวกมันเหลือบมองข้างๆ ได้โดยไม่ต้องเงยหน้า

ซึ่งต่างจากดวงตาสัตว์ผู้ล่า ที่มีตำแหน่งดวงตาค่อนมาทางจมูก และสามารถปรับระยะชัดและกะระยะได้ ทั้งสัตว์กินพืช และสัตว์ผู้ล่า ดูเหมือนว่าพวกมันจะอยู่ร่วมกันไม่ได้ แต่ในความเป็นจริง การมีอยู่ของพวกมันนั้น เป็นการออกแบบมาโดยธรรมชาติอย่างสอดคล้อง การกินพืช การได้กินเพราะการอันประสบผล ล้วนเป็นผลพลอยได้จากการทำงานของพวกมัน

เหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องราวลึกลับซับซ้อน เข้าใจได้ไม่ยาก แต่คล้ายกับว่า เรามักจะไม่พยายามทำความเข้าใจ

วัวแดง – วัวแดงตัวผู้ เป็นเช่นเดียวกับสัตว์ฝูงชนิดอื่น คือ เมื่อเติบโตเต็มวัยจะถูกขับออกจากฝูง ให้ไปใช้ชีวิตลำพัง

สําหรับสัตว์โทน รวมทั้งเหล่าวัวบา พวกมันต้องพบกับสภาวะการอยู่ลำพังในป่าใหญ่ ซึ่งไม่ง่าย วันเวลาช่วยให้พวกมันแกร่งกล้ามากขึ้น ประสบการณ์ช่วยให้มีชีวิตรอด บางตัวมีโอกาสได้เดินไปตามเส้นทาง หลายตัวชีวิตจบสิ้นก่อนเวลา

ดูจากภายนอก ประสบการณ์ต่างๆ ช่วยให้พวกมันกล้าแกร่ง

แต่หลายตัวก็แสดงอาการอ่อนแอ หวาดกลัวให้เห็น โดยซ่อนไว้ด้วยการแสดงออกอย่างก้าวร้าว

 

วัวแดง ตัวผู้สีคล้ำ ถูกเรียกว่า “วัวบา”

ในอีกแง่มุมหนึ่ง สีคล้ำที่มีนั่นหมายถึง ความชราเริ่มมาเยือน

เย็นวันหนึ่ง ผมพบกับวัวแดงชรา รูปร่างผอมโซ เมื่อพบกัน มันไม่ตื่นหนี กระแสลมที่พัดพากลิ่นกายผมไปถึง ทำให้มันเพียงเงยหน้าขึ้นมอง

ไม่มีอาการหวาดกลัว แววตาสงบนิ่ง ไร้ความตื่นตระหนก

ผมบันทึกภาพมันไว้

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมพบมันเป็นซากอยู่กลางโป่ง ช่วงสะโพกถูกกัดกินไปบางส่วน

มันจบชีวิตลงอย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยฝีมือของเสือโคร่ง

 

ขณะยืนมองซากวัวบาตัวนั้น ผมนึกถึงแววตาที่เห็นเมื่อวาน รอบๆ ซากไร้ร่องรอยดิ้นรน ต่อสู้ มันรู้ดีว่า วาระสุดท้ายของมันมาถึงแล้ว

ผ่านวันเวลามาพอสมควร จากวัวแดงเด็กๆ มาถึงการเป็น “วัวบา” ชีวิตไม่ว่าจะเดินทางไปได้ไกลแสนไกลเพียงใด จุดเริ่มต้นคือ ที่ซึ่งชีวิตจะย้อนกลับมา

แววตาที่เห็นเมื่อวาน คล้ายจะบอกผมว่า มันพร้อมที่จะกลับคืนสู่จุดเริ่มต้นแล้ว… •

 

หลังเลนส์ในดงลึก | ปริญญากร วรวรรณ