แม้ตลาดรถปิกอัพ และพีพีวี หรือปิกอัพดัดแปลง จะอยู่ในกำมือของค่ายใหญ่ไม่กี่แบรนด์ แต่ด้วยเป็นเซ็กเมนต์ที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา

ทำให้ค่ายรองๆ ยังส่งรถรุ่นใหม่ และรุ่นปรับโฉมมาชิงส่วนแบ่งการตลาดอยู่เนืองๆ

ล่าสุด 2 ค่ายจากญี่ปุ่นส่งรถรุ่นปรับโฉม เพิ่มขุมพลังใหม่มาเป็นตัวเลือก

ทั้งปิกอัพ “มาสด้า บีที 50” และมิตซูบิชิ “ปาเจโร่ สปอร์ต”

มิตซูบิชิ “ปาเจโร่ สปอร์ต” เป็นพีพีวี หรือเอสยูวี ที่วางตลาดในบ้านเรามาพักใหญ่แล้ว

ถือว่าเป็นรถที่ได้รับความนิยมประมาณหนึ่ง

ล่าสุดก่อนเปิดงาน “มอเตอร์โชว์ 2024” ส่งรุ่นใหม่ โมเดลเยียร์ 2024 มาเป็นตัวเลือก

รุ่นใหม่นี้ปรับเปลี่ยนภายนอก-ภายในพอสมควร

สะดุดตายิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบรังผึ้ง แผงกันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่

กระจกมองข้างและมือจับประตูสีดำ

ที่เด่นขึ้นมาเลยไม่พ้นห้องโดยสารตกแต่งใหม่แบบสีทูโทน ดำ-แดงเบอร์กันดี สลับการตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังรูปแบบใหม่พร้อม Paddle Shift

จอแสดงผลการขับขี่ใหม่แบบ Full Digital ขนาด 8 นิ้ว

ระบบเครื่องเสียง Mitsubishi Power Sound System ระดับพรีเมียม 8 ลำโพง พร้อมเพาเวอร์แอมป์

ติดตั้งหน้าจอบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 12.1 นิ้ว พร้อมรีโมต หูฟังอินฟราเรด เชื่อมต่อ HDMI และ USB

เบาะหนังสังเคราะห์ออกแบบลาย Diamond Cut พร้อมคุณสมบัติสะท้อนความร้อน (Heat Guard)

เบาะคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้าด้านเบาะผู้ขับขี่

ขุมกำลังใหม่ “ไฮเปอร์เพาเวอร์” (Hyper Power) เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ เทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร

พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์แบบคอมมอนเรลเจเนอเรชั่นใหม่ มาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 (Euro 5)

ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250-2,500 รอบต่อนาที

ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่

รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Elite Edition ใช้ระบบ “ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดรฟ์ ทู”(Super Select 4WD II)

ปรับเข้าสู่โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ (4H Full-time) ได้ทันที แม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว (Shift-on-the-Fly)

ทั้งยังมีโหมด 4HLc (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง) และ 4LLc (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ)

โหมดการขับขี่แบบออฟโรด 4 รูปแบบ ได้แก่ Gravel สำหรับการขับขี่บนทางฝุ่น

Mud/Snow สำหรับการขับขี่บนผิวทางที่ปกคลุมด้วยโคลนหรือหิมะ รวมถึงขณะที่ฝนตกซึ่งพื้นผิวถนนมีความลื่น

Sand สำหรับการขับขี่บนพื้นผิวทราย

และ Rock สำหรับขับขี่บนผิวทางที่ขรุขระหรือพื้นผิวหิน

เทคโนโลยีการขับขี่และปลอดภัยรอบคัน Diamond Sense มาพร้อมกับระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control : ACC)

ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว

ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว

กล้องมองภาพรอบคัน ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอ เป็นต้น

นอกจากนี้ ไฮเทคขึ้นอีกด้วยระบบ Mitsubishi Remote Control ควบคุมผ่านสมาร์ตโฟนระบบ iOS และ Android

มีฟังก์ชั่นที่เป็นประโยชน์ในการใช้งาน อาทิ การค้นหารถยนต์ การแจ้งเตือนสถานะของรถ สั่งการเปิด-ปิดประตูท้ายอัตโนมัติได้ล่วงหน้า ฯลฯ

มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ รุ่นปี 2024 มี 4 รุ่นย่อย

แบบขับเคลชื่อน 2 ล้อ 3 รุ่นย่อย ราคา 1,389,000-1,579,000 บาท

และ Elite Edition 4WD ราคา 1,689,000 บาท

ส่วนมาสด้า บีที 50 ใหม่ หากดูภาพรวมถือว่าปรับเปลี่ยนไม่มากนัก

รุ่นใหม่นี้เจาะตลาดกลุ่มขับสองยกสูง Hi-Racer ทั้งรุ่นฟรีสไตล์แค็บ และดับเบิลแค็บ 4 ประตู

อันที่จริงการออกแบบที่ผ่านมาถือว่าเป็นปิกอัพที่ให้อารมณ์เอสยูวีอยู่ไม่น้อย

โดยเฉพาะกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายมาสด้า คือ “โคโดะ ดีไซน์” มุ่งเน้นให้เกิดความเรียบง่าย แต่งดงาม

กระจังหน้าและ Signature Wing สีดำเงาในทุกรุ่นย่อย เพิ่มความสปอร์ตดุดันกับสีภายนอกใหม่ สีเทา ร็อก เกรย์ (Rock Gray)

ชุดแต่งพิเศษ Black Thunder สีดำเงา ประกอบด้วยชุดแต่งกันชนหน้า สปอร์ตบาร์ กระจกมองข้าง คิ้วตกแต่งซุ้มล้อ มือจับเปิดประตู และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ภายในเน้นความเรียบง่าย เพิ่มความสปอร์ตด้วยห้องโดยสารภายดีไซน์ใหม่

เบาะหนังทูโทน สีน้ำตาล-ดำ ห้องโดยสารกว้างขวาง ตกแต่งด้วยความประณีตและสัมผัสได้ถึงคุณภาพขั้นสูงของห้องโดยสาร

อุปกรณ์มาตรฐานได้รับการอัพเกรด อาทิ หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วใหม่ ติดตั้งมาในรุ่นเริ่มต้น และหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ตโฟน ทั้ง Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto

ขุมพลังมีให้เลือกถึง 2 ขนาด ทั้งดีเซล 1.9 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ให้แรงบิดสูงตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำ ประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม

และเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 190 แรงม้า

ทั้ง 2 เครื่องยนต์รองรับน้ำมัน B20 และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเดิม ด้วยมาตรฐานไอเสียเครื่องยนต์ใหม่ EURO5

ระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ระบบความปลอดภัยถุงลมนิรภัยสูงสุด 6 ตำแหน่ง ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลังรวมสูงสุด 8 ตำแหน่ง

กล้องมองหลังตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และยังมีระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน และขณะถอยหลัง

นอกจากนี้ ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ อะแดปทีฟครูสคอนโทรล แบบ Stop & Go

ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบเตือนการชนด้านหน้า

ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็ว ฯลฯ

มาสด้า บีที 50 ใหม่ เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ มี 2 รุ่น ฟรีสไตล์แค็บ ราคา 752,000 บาท และดับเบิลแค็บ 922,000 บาท

ส่วนรุ่น 3.0 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ มี 3 รุ่น ฟรีสไตล์แค็บ ราคา 862,000 บาท ดับเบิลแค็บ ราคา 992,000-1,172,000 บาท

และรุ่น 3.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,272,000 บาท •

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022