หย้าจิยอบ

หย้าจิยอบ

ห้ยฯาจิยอฯบ

หย้าจิยอบ อ่านเป็นภาษาล้านนาว่า “หย้าจิยอบ”

“จิ” หมายถึง การแตะ หรือสัมผัส ส่วนคำว่า “ยอบ” หมายถึง ราบลง ยุบลง ย่อลง รวมกันแล้ว หญ้าจิยอบ จึงหมายถึงวัชพืชที่จะราบลงเมื่อถูกสัมผัส

ในภาษากลางหมายถึงต้นไมยราบ พืชในสกุล Mimosa พบอยู่ 3 แบบ ซึ่งเป็นพืชในสกุลเดียวกันทั้งหมด แต่คนละชนิดกัน ที่พบทั่วไปเป็นชนิด Mimosa pudica L. อีกชนิดหนึ่งคือ ไมยราบยักษ์ ที่เป็นไม้ต่างถิ่น เป็นชนิด Mimosa pigra L. และไมยราบเลื้อยที่มักพบตามที่รกร้าง เป็นชนิด Mimosa invisa Mart. ex. Colla ทั้งหมดเป็นสมาชิกในวงศ์ย่อย Mimosoideae ของพืชวงศ์ถั่ว FABACEAE

ความหมายของชื่อวิทยาศาสตร์ ไมยราบ ชื่อสกุล Mimosa มาจากคำว่า mimos หรือ mimic ในภาษากรีก หมายถึง ใบที่ไวต่อสิ่งกระตุ้น pudica ภาษาละติน แปลว่า shy, modest สงบเสงี่ยม เจียมเนื้อเจียมตัว คำว่า pigra แปลว่า ขี้เกียจ เกียจคร้าน และคำว่า invisa แปลว่า ไม่เป็นมิตร

ที่มาของชื่อระบุชนิดของไมยราบ หรือหญ้าจิยอบแต่ละชนิดค่อนข้างสื่อความหมายได้ดี เป็นต้นไม้ที่ขี้อาย ซึ่งความหมายตรงกับชื่อในภาษาอินโดนีเซียที่แปลความหมายได้ว่า เจ้าหญ้าขี้อายเหมือนกัน

ภาษาอังกฤษเรียก sensitive plant, sleepy plant หรือ touch-me-not

ส่วนไมยราบยักษ์ ก็สื่อถึงใบที่คอยหุบตลอดเวลาที่เดินผ่านหรือมีแรงกระเทือน ทำให้เหมือนต้นไม้ยืนต้นหลับอยู่ตลอดราวกับขี้เกียจ และไมยราบเลื้อยที่มักจะขึ้นตามที่รกร้าง มองไม่ค่อยเห็น หากเดินเฉียดเข้าไปใกล้มักจะถูกหนามเกี่ยวฝังติดตามแขนขาเป็นทาง เนื่องจากหนามของไมยราบเลื้อยมีขนาดเล็ก โค้ง ขึ้นเรียงเป็นแถว และหลุดง่ายแบบหนามกุหลาบ สร้างความรำคาญและเจ็บปวดแก่คนที่ถูกหนามเกี่ยวไม่น้อย

 

ไมยราบเป็นไม้พื้นล่าง พบเป็นวัชพืชทั่วไป ไมยราบยักษ์เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก มักพบตามริมน้ำ สันทราย ดอนทราย และไมยราบเลื้อยเป็นไม้เลื้อย พบตามป่ารก พื้นที่ที่ถูกรบกวน และชายป่า ทั้งสามชนิดมีใบแบบขนนกสองชั้น และมีความไวต่อแรงกระเทือน จากเซลล์รับแรงกระเทือนที่อยู่ใกล้กับเส้นกลางใบด้านบนและก้านใบ

เมื่อถูกแรงกระทำเซลล์จะเหี่ยวแล้วดึงให้แผ่นใบหุบเข้า จากนั้นเมื่อไม่มีแรงกระเทือนเซลล์ก็จะเต่งเหมือนเดิม แผ่นใบก็จะกางออก ดอกของไมยราบทั้งสามชนิดเป็นดอกช่อแบบกระจุกกลม สีชมพู และผลเป็นฝักแห้ง หักเป็นข้อๆ แต่มีขนาด รูปทรง และขนคลุม แตกต่างกันออกไป

การใช้ประโยชน์ของไมยราบ ในการแพทย์พื้นบ้านของแอฟริกามีการใช้เข้ายาแก้ท้องเสีย บิด เบาหวาน ผมร่วง มะเร็ง และติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ในการแพทย์แผนไทยถือว่าไมยราบเป็นสมุนไพรรสจืดเฝื่อน มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ระดูขาว แก้ไตพิการ ภายนอกใช้ตำผสมเกลือและพิมเสนแก้ผื่นคัน และหัด ในทางพื้นบ้านล้านนาใช้เข้ายารักษานิ่ว ช่วยขับปัสสาวะ ลดบวม โดยใช้ทั้งต้นต้มน้ำดื่ม

ในต่างประเทศมีการปลูกประดับเป็นไม้กระถาง มีการดัดและแต่งรูปทรงของกิ่งก้านและลำต้น แบบเดียวกันกับการเลี้ยงบอนไซ ส่วนไมยราบยักษ์ใช้ลำต้นและกิ่งก้านทำรั้ว ค้างไม้เลื้อย ทำไม้ง่ามลูกเสือ หรือดัดทำเครื่องใช้ เช่น ตะกร้าที่ใช้ในการจัดช่อดอกไม้ เป็นต้น ส่วนไมยราบเลื้อยยังไม่พบรายงานการใช้ประโยชน์

ห้ยฯาจิยอฯบใส่ระฯกถางฯงามฯดีเจั้า อ่านว่า หย้าจิยอบใส่กระถางงามดีเจ้า แปลว่า ต้นไมยราบใส่กระถางสวยดีนะคะ

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มีการศึกษาฤทธิ์ต้านเชื้อจุลชีพของไมยราบ และไมยราบเลื้อย พบว่ามีฤทธิ์ต้านเชื้อ Klebsiella pneumoniae และ Bacillus subtilis และพบฤทธิ์ลดไขมันในเลือดของใบไมยราบนี้ด้วย

เมล็ดพันธุ์ของไมยราบชอบงอกในที่มีอุณภูมิสูง มีรายงานเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์การงอกของไมยราบยักษ์ โดยการนำไปแช่ในน้ำร้อนจัด พบว่าเปอร์เซ็นต์การงอกเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 60-70 เป็นร้อยละ 98 ดังนั้น การกำจัดไมยราบยักษ์ด้วยการเผาจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก

หากเปลี่ยนจากการกำจัดเป็นการนำไปใช้ประโยชน์น่าจะเป็นแนวความคิดที่ดีที่ผู้คนจะอยู่ร่วมกับพืชต่างถิ่นนี้อย่างได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย •

 

ล้านนาคำเมือง | ชมรมฮักตั๋วเมือง