สปอตไลต์ฉายส่อง ที่เชียงใหม่-พะเยา ‘ธรรมนัส’ กระชับอำนาจ การันตรีเก้าอี้ ‘รมต.’ ปึ้ก

พลันที่รัฐบาลนำโดย “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศนั้น นโยบายต่างๆ ที่พรรคร่วมรัฐบาลเคยหาเสียงและแถลงไว้ต่อที่ประชุมรัฐสภา พบความคืบหน้าว่าบางเรื่องถูกผลักดันจนเห็นเป็นรูปเป็นร่างตรงตามเป้าหมาย ขณะที่บางเรื่องอยู่ระหว่างเริ่มดำเนินการเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ

ทว่า แม้ระยะเวลาผ่านมาแค่เพียง 6 เดือนเศษ แต่สัญญาณการปรับเก้าอี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) กลับถูกเขย่าและสั่นคลอนออกมาอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งช่วงนี้เปรียบเสมือนโค้งแรกของการเข้าทำงาน และเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เหมาะสมหากจะมีการตัดเกรดและวัดผลงานรัฐมนตรีของแต่ละกระทรวงว่าตลอดการทำงาน 6 เดือนที่ผ่านมามีผลงานชิ้นโบแดงออกมาเป็นของขวัญให้ประชาชนได้บ้าง

แน่นอนว่า “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คือหนึ่งในลิสต์รายชื่อของรัฐมนตรี “ครม.เศรษฐา” ที่ถูกจับตามองว่าจะถูกปรับพ้นตำแหน่งจากรัฐมนตรีในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล

แม้ว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีผลงานชิ้นโบแดงออกมามากมายก็ตาม

 

ทั้งนี้ ผลงานที่โดดเด่นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย การปรับปรุงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เพื่อยกระดับเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รวมทั้งขับเคลื่อนภารกิจของกรมประมงให้สำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลด้านการเกษตรที่ต้องการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องเกษตรกรให้มีความกินดีอยู่ดี มีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายในระยะเวลา 4 ปี การปราบปรามการนำเข้าสินค้าเกษตรเถื่อนทุกชนิด ที่ส่งผลให้ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ เป็นต้น

ด้วยข่าวลือที่ปรากฏออกมา ส่งผลให้ “ร.อ.ธรรมนัส” ต้องรีบออกมาชี้แจงหนักแน่นว่า “การปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และโควต้ากระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ ส่วนคำถามที่ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะกลับมาหรือไม่นั้น

ร.อ.ธรรมนัสยืนยันว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่มีเปลี่ยนแปลง”

ทั้งนี้ ระหว่างที่ “นายทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับบ้านเกิดที่เชียงใหม่ในรอบ 17 ปี เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กลับปรากฏภาพของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค และ ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มารอต้อนรับและร่วมทริปลงพื้นที่ไปกับคณะของอดีตนายกฯ ทักษิณด้วยตามจุดต่างๆ ด้วย เรียกได้ว่า คอยประกบ ดูแลและติดตามอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกัน ยังปรากฏภาพของ “ร.อ.ธรรมนัส” นำก๊วน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งล้วนเป็นคนสนิทและใกล้ชิด อาทิ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ นายไผ่ ลิกค์ และนายจีรเดช ศรีวิราช มาร่วมวงดินเนอร์อาหารค่ำร่วมกับ “นายทักษิณ ชินวัตร” ที่บ้านพักของ “นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภายในสนามกอล์ฟซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า “ร.อ.ธรรมนัส” นั่งประกบข้างติดกับ “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเลยทีเดียว

 

ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จังหวัดพะเยาจะเริ่มขึ้น “ร.อ.ธรรมนัส” ในฐานะ ส.ส.เจ้าของพื้นที่พะเยา ยังได้ร่วมคณะติดตามภารกิจต่างๆ ไปกับคณะของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการตรวจเยี่ยมพื้นที่สร้างสนามบิน จ.พะเยา ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าผลักดันเพื่อพัฒนา “พะเยา” จากจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง ยกระดับก้าวขึ้นสู่เมืองหลักให้ได้

แน่นอนว่า เมื่อปรากฏภาพเช่นนี้ออกมา ทุกสายตาต่างโฟกัสกันไปว่าท้ายที่สุดแล้ว “ร.อ.ธรรมนัส” จะคัมแบ๊กกลับพรรคเพื่อไทย (พท.) ตามกระแสข่าวลือก่อนหน้านี้ที่ออกมาเป็นระยะๆ หรือไม่

อีกทั้งก่อนหน้านี้ เกิดข้อพิพาทเรื่องการออกเอกสารสิทธิ ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใส่กัน ซึ่งมีเจ้ากระทรวงสังกัดพรรคการเมืองเดียวกันด้วย นั่นคือ พรรคพลังประชารัฐ

จึงเป็นคำถามให้ฉุกคิดว่าจะเป็นชนวนทำให้ลุกลามบานปลายเกิดรอยร้าวภายในพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ จนถึงขั้นยอมตัดขาดออกจากพรรคพลังประชารัฐ

เรื่องนี้ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ชี้แจงถึงการร่วมลงพื้นที่กับ “นายทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามาตรวจอุทยานหลวงราชพฤกษ์ เพราะเพิ่งได้รับชัยชนะในการให้เป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลกในปี 2572 ที่จังหวัดนครราชสีมา จึงมาดูที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์เพื่อเป็นโมเดล ส่วนข้อกังวลว่าจะถูกนำไปโยงเรื่องการเมืองหรือไม่นั้น มองว่ามาภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่เกี่ยวกัน ทุกภารกิจที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลงพื้นที่ก็เป็นพื้นที่กระทรวงเกษตรฯ รับผิดชอบทั้งหมด ย้ำว่ามาภารกิจของกระทรวงเกษตรฯ อย่าเอาไปเหมารวมกัน

ส่วนการได้ไปร่วมดินเนอร์กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กรีน วัลเล่ย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จะถูกมองว่าจะเป็นการหวนกลับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสชี้แจงว่า มีรัฐมนตรีก็ไปหลายท่าน ตนเองอยู่ในพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ ท่านอดีตนายกฯ ชวนไปก็เลยไป

“ส่วนกระแสข่าวปรับ ครม.ที่พรรคเพื่อไทย อยากได้กระทรวงเกษตรฯ คืน ร.อ.ธรรมนัสระบุว่า การปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และโควต้ากระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ และในส่วนของพลังประชารัฐไม่มีเปลี่ยนแปลง” ร.อ.ธรรมนัสระบุ

ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี มองว่า “กรณีที่มี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาร่วมงานด้วยนั้นมันไม่ใช่เรื่องการต่อสู้ทางการเมือง เพราะเราไม่ได้คิดว่าพรรคไหนเป็นคนละพวก ใครที่มีความสนิทสนมและรักใคร่กัน จะอยู่พรรคไหนก็ได้ โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลในตอนนี้ ก็ถือว่าท่านมาดูแลประชาชนด้วย พร้อมยืนยันว่า ต้อนรับหมดไม่ได้แบ่งว่าจะเป็นพรรคนู้นหรือพรรคนี้ เพราะทุกคนเป็นพรรคพวกกัน”

อย่างไรก็ดี ท้ายที่สุดแล้ว ต้องรอดูว่า “ร.อ.ธรรมนัส” จะกล้าทิ้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แล้วหันมาร่วมทำงานกับพรรคเพื่อไทย (พท.) แทนหรือไม่ อนาคตในการเมืองมีความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ