ส่งสัญญาณ “เสือจะออกจากถ้ำ” | ลึกแต่ไม่ลับ

ยืดเยื้อมายาวนาน ในที่สุด “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง จำเลย 6 คน ประกอบด้วย 1. “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี 2. “นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล” 3. “นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ” 4. บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน)” 5. “บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)” 6. “นายระวิ โหลทอง”

ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีความผิดกรณีการจัดจ้างโครงการโรดโชว์ สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 วงเงิน 240 ล้านบาท การเสนอโครงการ ไม่ใช่กรณีเร่งด่วน ขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ ใช้ดุลพินิจบิดผันสั่งอนุมัติงบฯ กลาง มีเจตนาร่วมกันจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ อันเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ และยังมีการร่วมกันดำเนินการเพื่อให้คณะรัฐมนตรีมีมติยกเลิกการลงนามในสัญญาก่อนได้รับเงินประจำงวดทั้งที่ไม่เข้าเงื่อนไข เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ศาลนัดอ่านคำพิพากษา

ทั้งนี้ ในคดีดังกล่าวทาง ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 โดยเห็นว่ากระบวนการอนุมัติโครงการโรดโชว์ เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการใช้งบประมาณ 240 ล้านบาท เกิดความสูญเปล่า เป็นเหตุให้ราชการได้รับความเสียหาย มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และ 157 รวมทั้งความผิดตามกฎหมายฮั้วประมูล

คดีนี้ “ค้างท่อ” มายาวนาน หลังรัฐประหาร รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ทางเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบขึ้นมาชุดหนึ่ง คณะกรรมการดังกล่าวมีความเห็นว่าขั้นตอนการดำเนินการโรดโชว์เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 จึงอนุมัติเบิกจ่ายเงิน สอดคล้องกับที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดได้ตรวจสอบแล้วพบว่า “ไม่มีเจ้าหน้าที่กระทำการละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐ”

และเป็นคดีที่ทางอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานต่างๆ ยังไม่ครบถ้วน ทาง ป.ป.ช.มองว่ามีหลักฐานเพียงพอ จึงยกร่างคำฟ้องเอง โดยบรรยายคำฟ้องว่า

เมื่อเดือนสิงหาคม 2556-12 มีนาคม 2557 จำเลยที่ 3 ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดำเนินการเสนอโครงการโรดโชว์ ที่มิใช่กรณีเร่งด่วน โดยจำเลยที่ 2 ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ลงนามผ่านเรื่อง แล้วจำเลยที่ 1 ขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ ใช้ดุลพินิจบิดผันงบฯ กลาง โดยเจตนาร่วมกันกำหนดให้จำเลยที่ 4 และ 5 เป็นผู้รับจ้างจัดโครงการ โดยจำเลยที่ 3 เสนอจำเลยที่ 2 เพื่อขออนุมัติจัดจ้างการดำเนินโครงการดังกล่าวโดยวิธีพิเศษ อันเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ

นอกจากนี้ จำเลยที่ 1-3 ยังร่วมกันดำเนินการเพื่อให้คณะรัฐมนตรีมีมติยกเว้นการลงนามในสัญญาก่อนได้รับเงินประจำงวด ทั้งที่ไม่เข้าเงื่อนไขอันจะได้รับการยกเว้น เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย แก่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 กระทั่งเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ได้อ่านคำพิพากษา มีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ยกฟ้องคดีโรดโชว์

สรุปความตามรายงาน ข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายนิวัฒน์ธำรง และนายสุรนันทน์ จากการไต่สวนพยานหลักฐาน เป็นการดำเนินนโยบายตามที่แถลงต่อรัฐสภา การใช้งบประมาณเป็นไปตามนโยบายของรัฐและตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เกิดขึ้นจากการพิจารณาร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ไม่ใช่การตัดสินใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายนิวัฒน์ธำรง และนายสุรนันทน์ ไม่ปรากฏว่ามีส่วนร่วมหรือแนะนำโดยมิชอบในกระบวนการเสนออนุมัติงบประมาณกลางในการดำเนินการ และไม่ปรากฏพฤติกรรมร่วมกันแทรกแซง หรือมีคำสั่งให้เลือกบริษัทมติชน และสยามสปอร์ต เป็นผู้รับจ้างโครงการดังกล่าวไว้ล่วงหน้า

 

กล่าวสำหรับ “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร “อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเมืองไทย มีสัญญาณเชิงบวกว่าจะได้เดินทางกลับบ้านเกิดตามพี่ชาย “ทักษิณ ชินวัตร” หลังเผชิญวิบากกรรมเจริญรอยตามไปเป็นเวลา 7 ปีเต็ม เพราะนอกจากศาลจะมีมติเป็นเอกฉันท์ “ยกฟ้อง” ด้วยเสียงข้างมาก 9 ต่อ 0 แล้ว ยังมีคำสั่ง “เพิกถอนหมายจับยิ่งลักษณ์”

ผลจากคำพิพากษาดังกล่าว ถือเป็นคดีที่ 2 ที่ศาล “ยกฟ้องยิ่งลักษณ์” โดยก่อนหน้านี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องคดีโยกย้าย “นายถวิล เปลี่ยนศรี” อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกจากตำแหน่งโดยไม่เป็นธรรม ซึ่งศาลได้พิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566

จึงเท่ากับว่า “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” มีเพียงคดีเดียวที่เหลืออยู่ คือคดีรับจำนำข้าว ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาไปเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 ฐานไม่ระงับยับยั้ง ความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว พิพากษาจำคุกเป็นเวลา 5 ปี

เป็นคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะไม่นับอายุความ หากจำเลยหลบหนีระหว่างต้องคำพิพากษา กระบวนการจะเริ่มนับหนึ่งเมื่อจำเลยกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

หาก “ยิ่งลักษณ์” เดินทางกลับประเทศไทยในช่วงสี่ซ้าห้าเดือนนี้ตามที่กูรูหลายคนคาดหมาย ก็ยังไม่ง่ายที่จะเข้าข่ายเดียวกับผู้เป็นพี่ชายที่ชื่อทักษิณ เพราะยิ่งลักษณ์อายุยังน้อยไม่ถึงเข้าเกณฑ์พักโทษ ที่ต้อง 70 ปีขึ้น เชื่อว่าต้องดึงจังหวะ รอดูสถานการณ์อีกสักระยะ แม้อยากจะกลับบ้านปิ่มใจจะขาดมากแค่ไหนก็ตาม

“พี่แม้ว” ส่งสัญญาณให้น้องสาวดึงเช็ง หยั่งทิศทางลมให้แน่ชัดก่อน แต่ตัวเองเริ่มคึกคักคะนองเดช มีข่าวแว้บๆ ว่า อาทิตย์หน้า เสือจะออกจากถ้ำบ้านจันทร์ส่องหล้า เดินทางไปไหว้บรรพบุรุษ นำร่องที่จังหวัดบ้านเกิดเชียงใหม่เป็นด่านแรก

จากนั้นจะชีพจรลงเท้า มีแผนจะเดินทางทัวร์อีสาน เยือนหลายหัวเมืองในช่วงปลายเดือนมีนาคม