ประเทศไทยต้องการมากกว่ารัฐบาลอิกนอแรนต์ | ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์www.facebook.com/sirote.klampaiboon

เผลอแป๊บเดียวทนายอานนท์ นำภา ก็ติดคุกเพราะศาลถอนประกันมาแล้วครึ่งปี

และก็เป็นครึ่งปีแล้วที่การขอประกันของทนายอานนท์ถูกศาลปฏิเสธจนลูกของทนายคงจำหน้าพ่อไม่ได้ไปแล้ว

เช่นเดียวกับนักโทษการเมืองคดี 112 คนอื่นๆ ที่ติดคุกอย่างไม่มีแววว่าจะได้ประกันตัวสู้คดี

ตรงข้ามกับคุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งโดนคดีการเมืองแต่มีรัฐมนตรีพูดถึงอย่างอึกทึกครึกโครม แต่รัฐบาลพูดถึงนักโทษการเมืองคนอื่นน้อยมาก คุณเศรษฐา ทวีสิน และคุณแพทองธาร ชินวัตร ไม่เคยพูดเรื่องนี้ทั้งที่ตอนหาเสียงเคยบอกว่าจะหาทางแก้ไข และตอนนี้ทุกฝ่ายในรัฐบาลก็เงียบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

เฉพาะในเดือนที่ผ่านมา นักข่าวที่ไปทำข่าวภาคสนามก็ถูกออกหมายจับแบบที่ไม่เคยเกิด แม้แต่ในรัฐบาลประยุทธ์หลังปี 2562

เช่นเดียวกับนักวิชาการก็ถูกตำรวจฟ้องคดี 112 จากโพสต์ที่ไม่ควรโดน

ขณะที่ในสภาก็มีแต่ ส.ส.พรรคก้าวไกลที่ตั้งคำถามนี้กับปรากฏการณ์นี้อยู่แค่พรรคเดียว

 

ถ้ามองว่าประชาธิปไตยเท่ากับการเลือกตั้งและการวิจารณ์รัฐบาล สังคมไทยในยุครัฐบาลเศรษฐาก็เป็นสังคมที่เป็นประชาธิปไตยแล้วสมบูรณ์แบบ

แต่ถ้ามองประชาธิปไตยในแง่ขยายสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของความเป็นคน สังคมที่คนติดคุกเพราะคำพูดคือสังคมซึ่งมีสัญญาณที่น่ากังวล

คำพูดทำให้คนต่างกับสัตว์ เพราะสัตว์พูดไม่ได้จนเราไม่รู้ว่าสัตว์มีเจตจำนงอะไรเลย

ส่วนคนพูดและสื่อสารได้ คนจึงแสดงเจตจำนงได้ว่าคิดอะไร, ต้องการอะไร และไม่ยอมรับอะไร

พื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยจึงได้แก่การสร้างระบบการเมืองที่ทุกคนแสดงเจตจำนงของตัวเองได้โดยเสรี

ในภาพยนตร์แฟนตาซีอย่าง Rise of the Planet of the Apes ซึ่งพูดถึงสังคมทิ่ลิงเป็นเจ้าโลกแทนมนุษย์ที่ในปี 2011 ถูกสร้างใหม่จนเต็มไปด้วยสัญลักษณ์การต่อสู้ของคนดำเพื่อปลดแอกจากคนผิวขาว

ฉากหนึ่งที่ทรงพลังที่สุดคือฉากที่ตัวละครชื่อ “ซีซาร์” พูดว่า “ไม่” และไม่ยอมให้คนทุบตีต่อไป เพื่อประโยชน์ในการตามประเด็น “ซีซาร์” คือลิงที่ถูกเลี้ยงในห้องแล็บเพื่อผ่าตัดทดลองพันธุกรรม ซีซาร์จึงถูกผู้คุมที่เป็นคนขาวทุบตีมาตั้งแต่เล็ก

แต่ด้วยอุบัติเหตุทางวิทยาศาสตร์ ซีซาร์กลายเป็นลิงที่พูดได้ที่พูดคำแรกว่า “ไม่” จนคนขาวที่กำลังทำร้ายต้องตกตะลึงที่เห็นซีซาร์ลุกขึ้นมาป้องกันตัวเอง

ทันทีที่ซีซาร์พูดว่า “ไม่” ตัวตนของซีซาร์ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าคนขาวซึ่งเปรียบได้กับชนชั้นปกครอง

และทันทีที่ได้ยินคำว่า “ไม่” คนขาวจึงตระหนักว่าเวลาแห่งการย่ำซีซาร์ได้จบลงแล้ว

หลังจากนั้นจักรวาลในหนังเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของซีซาร์กับเพื่อนลิงที่ลุกขึ้นพูดว่า “ไม่” ต่อคนขาวทั้งมวล

 

สําหรับคนที่อาจถามว่า “เจตจำนงเสรี” คืออะไร คำตอบง่ายๆ คือเรากำลังพูดถึง Free Will นั่นก็คืออิสรภาพมนุษย์แต่ละคนจะประกาศความเชื่อ, ความใฝ่ฝัน และความไม่เห็นด้วยกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีอำนาจภายนอกมาคุกคามหรือเอาผิดการกระทำแบบนั้นแม้แต่นิดเดียว

หนึ่งในนักปรัชญาการเมืองแนวเสรีประชาธิปไตยที่สำคัญที่สุดคือ ฌอง ฌากส์ รุสโซ และหนึ่งในแนวคิดของรุสโซที่โด่งดังที่สุดคือคำพูดว่า “มนุษย์เกิดมาเสรี แต่ทุกหนแห่งพวกเขาล้วนถูกพันธนาการ” ซึ่งเชื่อว่ากฎหมายหรือ “โครงสร้าง” ต่างๆ ที่จำกัดเสรีภาพมนุษย์ต้องหมดไป

ขณะที่สื่อฝ่ายรัฐประโคมข่าวว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ การที่ใครคนใดคนหนึ่งติดคุกเพราะคำพูดคือหลักฐานว่าประเทศนี้มีการลงโทษคนที่แสดงเจตจำนงเสรีได้เสมอ

ส่วนรัฐบาลที่ไม่พูดอะไรเรื่องนี้ก็คือรัฐบาลที่จรรโลงการลงโทษและการใช้กำลังแบบนี้เอาไว้เหนือประชาชน

ภายใต้สถานการณ์ที่สิทธิเสรีภาพของประชาชนมีสัญญาณอันตราย รัฐบาลกลับเป็นองค์กรที่หายไปเฉยๆ จากเรื่องนี้ราวกับรัฐบาลไม่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ไม่ตระหนักว่าเรื่องแบบนี้เป็นปัญหา และไม่สนใจที่จะยุติการยัดคุกและการยัดคดีคนที่แสดงความเห็นเกินกว่ากรอบที่รัฐบาลต้องการ

เพื่อไทยเชื่อจนชอบบอกให้คนอื่นเชื่อว่าเพื่อไทยจะทำให้ทุกคนอยู่ดีกินดี คนบางกลุ่มถึงขั้นเชื่อต่อ ไปว่าถ้าทุกคนทำมาหากินแล้วใช้ชีวิตแบบสงบปากสงบคำ รัฐบาลก็จะทำให้ทุกคนปากท้องดีจนไม่มีปัญหาการเมืองและไม่มีความขัดแย้งอีก ทั้งที่ทั้งหมดนี้เป็นแนวคิดที่ไม่มีความจริงรองรับเลย

ที่ผ่านมีคำเรียกคนที่ทำมาหากินโดยไม่สนใจปัญหาการเมืองรอบตัวเลยว่าเป็น “อิกนอแรนต์” และที่จริงเราอาจใช้คำนี้เรียกรัฐบาลที่ต้องการให้คนคิดแค่เรื่องปากท้องโดยไม่คำนึงถึงเรื่องอื่นเลยว่าเป็นรัฐบาล “อิกนอแรนต์” ก็ได้ด้วย เพราะในที่สุดทั้งคู่เชื่อว่าท้องอิ่มจะทำให้คนไม่สนใจปัญหาอื่นเลย

 

ล่าสุด ผู้นำรัฐบาลเดินทางไป 3 จังหวัดชายแดนใต้ก็พูดแต่เรื่องมัสยิดสวย วัดสะอาด หาดน่าเที่ยว ขนมอร่อย เด็กร้องเพลงเพราะ ฯลฯ โดยไม่มีประโยคเดียวที่พูดถึงความรุนแรงในพื้นที่, การละเมิดสิทธิมนุษยชน, การเลือกปฏิบัติต่อคนมุสลิมจากเจ้าหน้าที่รัฐ หรือบทบาททหารที่มากจนล้นเกิน

ขณะที่ความรุนแรงในชายแดนใต้ยืดเยื้อมานานจนสภาต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญมาพิจารณา และขณะที่คดีกรือเซะ ตากใบกำลังใกล้จะหมดอายุ คุณเศรษฐาในฐานะนายกรัฐมนตรีกลับไม่แสดงถึงความตระหนักถึงปัญหานี้แม้แต่นิดเดียว

สำหรับคนที่คิดว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไร ลองเปรียบเทียบง่ายๆ ว่าจะเกิดอะไรหากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไปยูเครนแล้วแนะนำคนสหรัฐว่ายูเครนสวย น่ามาเที่ยว สเต๊กอร่อย กาแฟดี โบสถ์น่าถ่ายรูป ฯลฯ

แต่ไม่พูดถึงสถานการณ์สงคราม, ความอดอยาก และการรุกรานของรัสเซียในยูเครนแม้แต่คำเดียว

 

หกเดือนของรัฐบาลคือหกเดือนที่คุณเศรษฐาบริหารประเทศโดยเน้นการทำมาหากิน แต่ไม่สนใจเรื่องอื่นอย่างรัฐธรรมนูญ, คดี 112, ลดบทบาททหาร หรือนิรโทษกรรมคดีการเมือง แต่ยิ่งคุณเศรษฐาบริหารแบบนี้ โอกาสที่รัฐบาลจะคลี่คลายปัญหานี้ก็ยิ่งหมดไปเพราะผู้นำรัฐบาลไม่สนใจเลย

กองเชียร์บางคนขโมยทฤษฎีรัฐศาสตร์ไปอ้างมั่วๆ ว่าคุณเศรษฐาทำแบบนี้เพราะเป็น “รัฐบาลระยะเปลี่ยนผ่าน” เพื่อไม่ให้ขัดแย้งกับทหารเกินไป แต่หัวใจของทฤษฎี “เปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย” (Democratic Transition) คือลดอำนาจรัฐที่กดขี่ประชาชน ไม่ใช่แค่เปลี่ยนรัฐบาลแบบตอนนี้ทำ

มองในแง่นี้ รัฐบาลเศรษฐายังไม่ได้ทำอะไรเพื่อ “เปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย” เพราะกฎหมายและโครงสร้างที่ทำให้รัฐใช้อำนาจแบบกดขี่ยังคงอยู่อย่างครบถ้วน เพียงแต่การใช้อำนาจในรัฐบาลนี้จำกัดขอบเขตลงมาเหลือแค่คนกลุ่มซึ่งพูดในเรื่องที่รัฐไม่อนุญาตให้พูดเท่านั้นเอง

ประเทศไทยต้องการรัฐบาลที่จะพาสังคมไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ไม่ใช่รัฐบาลที่แค่ประคองอำนาจตัวเองโดยอ้างว่าอายุของรัฐบาลเท่ากับการกลับคืนสู่ประชาธิปไตย หรืออีกนัยคือเราต้องการรัฐบาลที่ตั้งคำถามกับระบอบการเมืองเพื่อแก้ปัญหาระบอบมากกว่าสยบยอมตลอดเวลา