โคจรรอบ”จันทร์” | สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

 

โคจรรอบ”จันทร์”

 

หลังวันที่ 18 กุมภาพันธ์ “จันทร์” ที่ไม่ได้หมายถึง”ดวงจันทร์”

หากแต่หมายถึง “จันทร์ส่องหล้า”

จะกลายเป็น ศูนย์กลางแห่งจักรวาลการเมือง

ที่มี”แรงดึงดูด” ให้ “ดาว”ทั้งที่ เป็น ดาวบริวารและไม่ใช่ดาวบริวาร มาโคจรรอบ”จันทร์”

กล่าวถึงดาว ที่ไม่ใช่ “บริวาร”ก่อน

หลังจาก ที่ไม่สามารถ จุดไฟสวรรค์ชั้นที่ 14 ให้ติดได้

ทำให้นายทักษิณ ชินวัตร สามารถก้าวเดินไปตามไทม์ไลน์ “ไม่เข้าคุกแม้แต่วันเดียว” สำเร็จ

ก็คงต้องติดตาม เหล่าดาวที่ไม่ใช่บริวาร จะขับเคลื่อนกันต่อไปอย่างไร

จะหยิบประเด็นไหน มาเช็กบิล นายทักษิณอีก

ที่แลเห็นอยู่ตอนนี้ ก็คือ กรณีที่นายทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี 112 ซึ่งอยู่ระหว่างการ”อายัดตัว” และกำลังอยู่ในการพิจารณาของ อัยการสูงสุด ว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง

แน่นอนคดีนี้ ละเอียดอ่อน และสามารถพลิกสถานการณ์ไปสู่เหตุอันไม่คาดฝันได้ง่าย

ดังนั้นเหล่าดาวที่ไม่ใช่บริวาร คงขับเน้นและกดดันเรื่องนี้ อย่างหนักแน่

และด้วยกระแสที่เกี่ยวพันกับเรื่องนี้กำลัง”ขึ้นสูง” ฝ่ายไม่เอานายทักษิณ จึงอาจคาดหวังว่ากรณีนี้อาจเป็น”หมัดเด็ด”ที่ทำให้บ้านจันทร์ส่องหล้า ร้อนระอุได้

ซึ่งก็คงต้องต้องติดตาม ต่อไปว่าจะบรรลุผลขนาดไหน

จะจุดไม่ติด เหมือนกรณี สวรรค์ชั้น 14 หรือไม่

มาดูในส่วน “ดาวบริวาร”

แน่นอนที่สุด ปรากฏการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างหวังหรือ จะโคจรเข้าไปอยู่วงโคจร”ใน” คงเป็นไปอย่างเข้มข้น

ยิ่งหาก คนในบ้านจันทร์ส่องหล้า แสดงท่าที เปิดบ้านต้อนรับ หลังจากกลายเป็น คนนอกมากว่า 17 ปี คงเกิดภาวะอลหม่านอย่างมาก

และย่อมส่งผลกระทบไปถึง พรรคเพื่อไทย และทำเนียบรัฐบาล อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก

เพราะจะเกิดปรากฏการณ์ อย่างที่มีการพูดถึงกันมากในตอนนี้ นั่นก็คือ จะมีนายกฯคนที่ 2 คนที่ 3 ขึ้นมาแข่งบารมีกันหรือไม่

แต่หากยังก้าวไปไม่ถึงจุดนั้น สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นก่อน และมีความเป็นไปได้ไม่น้อย

นั่นคือ การปรับคณะรัฐมนตรี ที่แม้ว่าคนในรัฐบาลจะปฏิเสธว่า ยังไม่มี

แต่กระนั้น ความคาดหมายทางการเมืองนี้ แรง และไปไกล และยิ่ง นักการเมือง มีส่วนได้เสียโดยตรง

ดังนั้น ย่อมแข่งขันที่จะไปโคจรรอบ”จันทร์”ในระดับใกล้ชิดให้ได้

อันจะทำให้ ศูนย์นำทางการเมือง อาจจะไม่ได้มีที่ทำเนียบแห่งเดียว

ซึ่งนั่นจะกลายเป็นปัญหาของผู้นำฝ่ายบริหารและฝ่ายการเมืองอย่างมากเพราะไม่อาจเดินถือธงนำหน้าได้

และยิ่งหากก้าวไปอีกระดับ คือ การเตรียมการสร้างผู้นำขึ้นใหม่ มาประกบ ภาวะแห่งสับสนทางการเมืองก็ยิ่งมีมากขึ้น

ดังนั้น ท่าทีของ “จันทร์”ที่จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ กับการเป็นศูนย์กลางให้ดาวบริวารแห่มาโคจรรอบตัวเองมากๆ จะเป็นสิ่งสำคัญ

เมื่อได้พักโทษแล้ว จะพักการเมืองไปอีกสักระยะไกลๆหรือไม่ เพื่อให้ สถานการณ์ “นิ่ง”

ซึ่งแม้จะเป็นคำแนะนำที่หวังดี แต่ก็ไม่มีใครฟันธง ว่าผู้เป็นศูนย์กลางแห่งการโคจร จะเชื่อ

เพราะปรากฏการณ์ในอดีต เราได้เห็น สิ่งที่เหนือการคาดหมาย หลายครั้ง

และในหลายครั้งนั้น ได้ก่อให้เกิดปัญหาตามมาหลายครั้งเช่นกัน

แต่ เราก็ได้เห็น สิ่งเซอร์ไพรส์ เกิดขึ้นเสมอ

ครั้งนี้ก็เช่นกัน “จันทร์”จะยอมบังหลังเมฆเงียบๆ อดทน อดกลั้น ไม่ “ส่องหล้า”

จริงหรือ?!?