คุยกับทูต | ฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ การกลับมาครั้งที่สอง ของนักการทูตเมืองน้ำหอม ณ สยามเมืองยิ้ม (จบ)

มีอาชีพเป็นนักการทูตเป็นงานที่ทำแล้วมีความสุข

“การจะเป็นเอกอัครราชทูตได้นั้นจะต้องไม่ขัดต่อเจตจำนงของตน และต้องปฏิบัติงานโดยยึดภาพรวมเป็นหลักให้ได้ทั้งในส่วนข้อดีและข้อจำกัด”

“งานนี้เหมาะกับผมมาก เพราะทำให้ผมมีความตื่นตัวต่อการค้นพบสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เหนือสิ่งอื่นใด คือการได้เผชิญกับสิ่งใหม่ๆ ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน”

“สำหรับผมซึ่งมักจะมีความสงสัยในทุกสิ่ง แต่จะมีความสุขเสมอแม้จะต้องประหลาดใจในอีกหลายๆ ครั้งก็ตาม”

ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมปี 2023 นายฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ (Jean-Claude Poimbœuf) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยได้มีการหารือถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกปารีส 2024 ที่กำลังจะมีขึ้นในประเทศฝรั่งเศส รวมถึงแนวทางความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานโดยรวมของทั้งสองประเทศ

โดยปัจจุบันฝรั่งเศสยังคงเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ เดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกไม่ต่ำกว่าปีละ 80 ล้านคน

นายฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ (Jean-Claude Poimbœuf) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย

นอกจากนี้ ในช่วงเดียวกัน ยังได้เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยได้หารือเกี่ยวกับความเสมอภาคหญิงชายและความหลากหลายของบุคคล โดยเฉพาะประเด็นความรุนแรงทางเพศและความรุนแรงบนฐานของเพศสภาพ รวมถึงสถานการณ์ของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศและผู้พิการ ตลอดจนการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประชากรในประเทศไทย

และเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมปี 2024 เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสก็ได้เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการศึกษา โดยเฉพาะการเรียนการสอนภาษาฝรั่งเศสในประเทศไทย ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสได้ให้การสนับสนุนและความร่วมมือด้านการศึกษากับกระทรวงศึกษาธิการมาโดยมาตลอด ภายใต้โครงการครูผู้ช่วยสอนภาษาฝรั่งเศส (French Assistants Teaching Project – FTA) ซึ่งจัดขึ้นทุกปี

นอกจากนี้ สมาคมฝรั่งเศส (Alliance Française) ก็มีความร่วมมือกับโรงเรียนในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด ทั้งการสอนภาษาฝรั่งเศสให้แก่บุคลทั่วไป และการอบรมครูผู้สอนภาษาฝรั่งเศสในประเทศไทย ปัจจุบันมีโรงเรียนไทยที่เปิดสอนภาษาฝรั่งเศสทั่วประเทศ โดยมีความร่วมมือกับสมาคมฝรั่งเศสซึ่งมีสาขาในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย และภูเก็ต

นายฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ (Jean-Claude Poimbœuf) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย

กิจกรรมที่ช่วยสร้างความเพลิดเพลิน

“เอกอัครราชทูตมีงานที่ยุ่งเหยิง เวลาว่างก็จะน้อยตามไปด้วย แน่นอนว่ามีกิจกรรมมากมายทั้งในกรุงเทพฯ และนอกกรุงเทพฯ ซึ่งผมก็พยายามไปร่วมทั้งในหน้าที่และส่วนตัวเพื่อค้นพบประเทศที่สวยงามแห่งนี้”

“ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผมและภรรยามีความสุขที่ได้ไปเยือน จ.สุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร ซึ่งเราไม่เคยไปมาก่อน และมีความประทับใจในอุทยานประวัติศาสตร์ของสามเมืองนี้มาก”

“นอกจากนี้ การได้อ่านหนังสือ ฟังเพลง และชมภาพยนตร์ ก็ถือเป็นงานอดิเรกที่ผมชื่นชอบมาก”

นายฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ (Jean-Claude Poimbœuf) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย

ประเพณีไทย และอาหารไทย

“ผมซาบซึ้งกับการมีมนุษยสัมพันธ์ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แสดงออกด้วยการไหว้ เป็นกิริยาอาการที่ผมคิดว่าสง่างามยิ่ง ประเทศไทยสมควรได้รับการขนานนามว่า เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม”

“ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังชอบประเพณีการเรียกชื่อคนอื่นด้วยชื่อเล่น ซึ่งบางครั้งก็สร้างความประหลาดใจให้ไม่น้อยทีเดียว เช่น หนู หรือหมูน้อย”

“ถ้าเกี่ยวกับเรื่องอาหารไทย ผมบอกได้เลยว่าอาหารไทยเป็นส่วนหนึ่งของการทำอาหารในครอบครัวของเรามาเป็นเวลานานแล้ว เพราะตอนที่มาประจำกรุงเทพฯ ครั้งแรกในช่วงปลายทศวรรษที่ 80 เราโชคดีที่มีแม่ครัวไทยฝีมือดี และเมื่อไปประจำที่ญี่ปุ่นเธอก็ได้ติดตามไปทำงานให้เราด้วยถึงห้าปี พร้อมกับสอนวิธีการทำอาหารไทยให้ภรรยาผมหลายอย่าง เช่น ยำวุ้นเส้น ต้มข่าไก่ ห่อหมกปลา และแกงประเภทต่างๆ ซึ่งก็ได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากบรรดาแขกเหรื่อของเราในฝรั่งเศส”

ความรู้สึกของการใช้ชีวิตในต่างแดน

“การได้ใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศนานหลายๆ ปี บางทีผมก็หวนคิดถึงชีวิตทางด้านวัฒนธรรมที่เราเพลิดเพลินในกรุงปารีสมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิทรรศการ คอนเสิร์ต และภาพยนตร์ดีๆ มากมายจากทั่วทุกมุมโลก แน่นอนว่าผมก็คิดถึงครอบครัวและเพื่อนฝูง แต่วิธีการสื่อสารสมัยใหม่ทำให้เราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นอีกนิด”

“อย่างไรก็ตาม เสน่ห์ของประเทศไทยก็ทำให้เพื่อนๆ ของเราพากันเดินทางมาเยี่ยมเยียนเราถึงที่นี่”

เอกอัครราชทูตปวงเบิฟสรุปตอนท้ายอย่างน่าสนใจว่า

“ผมดีใจที่ได้มาอยู่ในประเทศไทยในช่วงเวลาที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะผมเข้ารับตำแหน่งในขณะเดียวกับที่ประเทศไทยมีรัฐบาลผสมชุดใหม่ ซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน นอกจากนี้ ผมกำลังได้รับประโยชน์จากพลวัตของความร่วมมือทวิภาคีไทย-ฝรั่งเศสเชิงบวกอย่างมาก องค์ประกอบทั้งหมดพร้อมแล้วสำหรับภารกิจที่น่าตื่นเต้นของผม” •

นายฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ (Jean-Claude Poimbœuf) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย

รายงานพิเศษ | ชนัดดา ชินะโยธิน

Chanadda Jinayodhin