หลังให้ค่ายญี่ปุ่นรายอื่นๆ ส่งรถรุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกมาทำตลาดไม่กี่มากน้อย

“โตโยต้า” ไม่รอช้าส่ง “โคโรลล่า ครอส” ใหม่ เอสยูวี ที่อัพเกรดความพรีเมียมมากขึ้น มาร่วมเขย่าตลาดด้วย

ถือว่าปรับเปลี่ยนค่อนข้างมากทีเดียวโดยเฉพาะด้านหน้า ที่รุ่นเก่ามีเสียงแซวว่าเหมือนคน “หน้าบึ้ง” ตลอดเวลา

มาคราวนี้ดูหล่อเหลากว่าเดิม แถมมีกระจังหน้าต่างกัน 2 แบบ

ทั้งยังใส่ออปชั่นต่างๆ เพิ่มเข้ามาในแต่ละรุ่นย่อยชนิดอัดแน่นไปหมด

ที่สำคัญ โตโยต้าไม่ปรับราคาขายเสียด้วย

ถือว่าได้ใจแฟนานุแฟนไม่น้อย

“โคโรลล่า ครอส” นั้นเป็นเอสยูวี ที่ออกมาซัดกับ “ฮอนด้า เอชอาร์-วี”

แม้ตั้งราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่ที่ผ่านมากวาดยอดขายนับจากเปิดตัวถึงปลายปี 2566 ไปกว่า 7.1 หมื่นคัน

ขุมพลังยังมี 2 บล็อกหลักๆ คือ เบนซิน 1.8 ลิตร และไฮบริด HEV 1.8 ลิตร

ในรุ่นปรับโฉมถือว่าออกแบบด้านหน้าได้ใหม่หมดกระจังหน้าแบบ “Multi-Dimensional Design”

ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Headlamp ถือว่าใส่เข้ามาใหม่

รุ่นท็อป (HEV GR-Sport) มาพร้อมระบบเปิดปิด และปรับไฟสูงอัตโนมัติ

ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential นี่ก็ใส่เพิ่มเข้ามาในรุ่นปรับโฉมเช่นกัน

ส่วนไฟเลี้ยวด้านหลังเป็นแบบหลอดธรรมดา

กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว มีทั้งแบบสีเดียวกับตัวรถ และสีดำ ล้อกับหลังคาในรุ่นสีทูโทน

ซุ้มล้อติดตั้งคิ้วขนาดไม่ใหญ่มาก เช่นเดียวกับกันกระแทบบริเวณชายล่างประตูใช้สีดำในรุ่นธรรมดา และสีเงินในรุ่น HEV GR-Sport

ล้ออัลลอยขนาด 17-18 นิ้ว แล้วแต่รุ่นย่อย

ส่วนประตูท้ายมีทั้งเปิด-ปิดธรรมดา และควบคุมด้วยไฟฟ้า

รุ่นท็อปเพิ่มชุดแต่ง GR-Sport ดูดุขึ้นและมีความสปอร์ตในที

ด้านในยังใกล้เคียงของเดิม เบาะมีทั้งแบบสีดำ และสีแดง

พวงมาลัย 3 ก้านมัลติฟังก์ชั่น มาตรวัด Full Digital ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว เปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้

หน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

อันนี้ก็เพิ่มเข้ามาใหม่ในรุ่นปรับโฉม

ติดตั้ง USB type C ทั้งด้านหน้าและสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

ระบบแอร์อัตโนมิติ 2 โซน แยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless charger

มีระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electronic Parking Brake) และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Brake Hold) ที่เพิ่มพิเศษเข้ามา

เบาะนั่งเดินด้ายสีขาว บริเวณแผงข้างประตูใช้วัสดุแบบนุ่ม

เบาะหลังปรับพับแบบ 60-40 เพิ่มพื้นที่บรรทุกได้ พร้อมที่เท้าแขนกลาง

หลังคา Panoramic Roof ขนาดใหญ่ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า

ไฟในห้องโดยสารเป็นแบบ LED ทั้งหมด

มีแผ่นบังตาปิดกั้นบริเวณที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย

ขุมพลังอย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่ามี 2 บล็อก

แบบแรกเบนซิน 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FBE 4 สูบ กำลังสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร

ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด รองรับน้ำมันทางเลือกสูงสุด E85

และเครื่องยนต์ไฮบริดรหัส 2ZR-FXE เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร

ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 53 kW แรงบิดสูงสุด 163 นิวตัน-เมตร กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า

ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT รองรับน้ำมัน E20

เครื่องยนต์ทั้ง 2 บล็อกแม้จะไม่ต่างจากของเดิม แต่วิศวกรโตโยต้าปรับให้อัตราเร่งมีความกระชับขึ้น

เช่นเดียวกับช่วงล่างที่ปรับจูนใหม่ โดยเฉพาะรุ่นท็อป ส่งผลให้เพิ่มความมั่นใจและขับขี่สนุกมากขึ้น

ในรุ่นเครื่องยนต์ HEV ทุกรุ่นติดตั้งระบบ Toyota Safety Sense

มาพร้อมกับ Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-speed

พร้อม Stop & Go ลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่ง และเร่งกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้ เมื่อคันหน้าเคลื่อนตัว

ส่วนความปลอดภัยอื่นๆ ยังมากันครบ อาทิ ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM ช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA

ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ Parking Support Brake

ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ Tire Pressure Monitoring System

กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) 360 View ปรับปรุงให้ภาพคมชัดมากขึ้นกว่าของเดิม

สัญญาณเตือนกะระยะ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวม 6 จุด

ติดตั้งกล้องบันทึกภาพทั้งด้านหน้าและหลัง ฯลฯ

มีให้เลือก 5 สีภายนอก 2 สีภายใน

และหากเป็นรุ่นท็อป มีรุ่นหลังคาดำให้เลือกอีก 3 สี

โตโยต้า โคโรลล่า ครอส ใหม่ มี 4 รุ่นย่อย

1.8 Sport Plus ราคา 999,000 บาท

HEV Premium ราคา 1,094,000 บาท

HEV Premium Luxury ราคา 1,204,000 บาท

HEV GR-Sport ราคา 1,254,000 บาท •

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022