จัตวา กลิ่นสุนทร : หนีไม่พ้นจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง กับ (บรรดา) ช่าง การซ่อมแซม ก่อสร้าง? (จบ)

วันเวลาเปลี่ยนเร็ว ขณะนิตยสารฉบับนี้อยู่กับท่านผู้อ่านเป็นต้นเดือนแรกของปี พ.ศ.2561 แต่ยังไม่ถึงกับเลยเวลาที่จะกล่าว “สวัสดีปีใหม่ 2561” และ “ขออวยพรให้ท่านมีความสุขด้วยสุขภาพอันสมบูรณ์แข็งแรง”

อยากได้อะไรต้องไขว่คว้าหาเอาเอง อย่างเช่น “ประชาธิปไตย” ซึ่งมาในรูปแบบ “ผู้แทน” ไม่มีใครจะมาหยิบยื่นให้ เราต้องพยายามหาเอาด้วยตัวเอง

ปี พ.ศ. นี้ทำท่าเหมือนประชาชนจะได้รับการปลดปล่อยมีสิทธิเสรีภาพ จะได้คิดเองทำเองเลือกเอง ปกครองตัวเอง เมื่อกลิ่น “เลือกตั้ง” โชยแผ่วมา ถึงแม้ “รัฐธรรมนูญ” จะออกแบบมาอย่างไร? เพื่อใคร? กลุ่มไหน ก็ยังดีกว่าผู้ปกครองซึ่งเหาะเหินเดินอากาศมาเพราะมีกำลัง ซึ่งทำท่าเป็นเจ้าของประเทศ สั่งโน่นนี่ แต่ตรวจสอบไม่ได้ต่างหาก

ประสบการณ์สอนให้ได้รู้เห็นว่าแรกๆ ก็ทำท่าแข็งขันเน้นเข้มเรื่องกฎหมาย ทั้งๆ ที่ได้ล้ม “กฎหมายใหญ่” แล้วก็มาเป็นโน่นเป็นนี่กันตามสบาย ปล่อยประชาชนทุกข์ยากนั่งมองตาปริบๆ

ตั้งคำถามในใจว่า “ใครเลือกพวกท่านมา”

 

3ปีกว่าผ่านเลย ประชาชนส่วนใหญ่ทุกข์ยากเมื่อสภาพเศรษฐกิจกลายเป็นเฉื่อยชาขาลงไม่ตอบสนองรัฐบาลซึ่งต่างชาติไม่ค่อยจะยอมรับ การดำเนินงานค้าขายนำเข้าส่งออกจึงไม่คล่องตัวเป็นไปตามเป้าหมาย ความยากลำบากจึงมาเยือนประชาชนโดยเฉพาะเหล่าเกษตรกร เมื่อผลิตผลทางการเกษตรราคาลดน้อยถอยต่ำลงเรื่อยๆ

รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชนย่อมไม่เข้าใจความเป็นอยู่ ความเดือดร้อนของประชาชน

ขณะเดียวกันก็ไม่มีใครสามารถไปเรียกร้องอะไรได้

ไม่เหมือนรัฐบาลที่มาจากประชาชน อย่างน้อยก็มีสภาสามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตรวจสอบได้ นักการเมืองจะถูกกล่าวหาว่าชั่วช้าเลวทรามอย่างไร พวกเขาก็ยังพอรู้ว่าชาวบ้านต้องการอะไร? ผู้แทนราษฎร อย่างน้อยย่อมรู้ว่าราษฎรต้องการอะไร?

เกิดมาเป็นคนซื่อ ไม่มีชั้นเชิง แต่ที่ผ่านๆ มาก็พอรู้ว่ารัฐบาลที่มาจาก “ปฏิวัติรัฐประหาร” แย่งชิงอำนาจของประชาชนมาไม่เคยเห็นว่าอยู่ยั้งยืนยงยาวนาน ตอนลงจากอำนาจที่เรียกกันว่าหลังเสือนั้นไม่เคยสง่างามประสบความสำเร็จสักชุด โดยเฉพาะ “นายกรัฐมนตรี” ซึ่งมาจาก “กองทัพ”

ก็ได้แต่หวังว่ากลิ่นเลือกตั้ง “แผ่วเบา” ที่โชยมานั้นมันจะเป็นจริง อย่างน้อยประชาชนจะได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง ให้มันรู้ไปว่าคนที่พวกเขาเลือกเข้าไปนั้นมันทรยศประเทศชาติทุกคน เลว น่าเกลียดน่าชังดังข้อกล่าวหาทุกคน รัฐบาลที่ได้อำนาจเพราะพวกมากเท่านั้นที่ดีพร้อม บริสุทธิ์ยุติธรรม

ยังไงก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอคอยการ “เลือกตั้ง” ถึงมันยืดเวลาออกไปอีกนานแรมปี ประชาชนจะได้รู้ว่าเขาตัดสินใจผิดพลาด ถ้ารัฐบาลที่เลือกมากับมือมันทรยศคดโกงทุกรัฐบาล ให้มันรู้กันว่าประเทศนี้ไม่มีคนดี นักการเมืองที่ดี เหลืออยู่บ้าง?

 

ถึงเวลาต้องปรับปรุงซ่อมแซม “ทาวน์เฮ้าส์-ตึกแถว” ครั้งใหญ่อีกหนหนึ่ง ทั้งๆ ที่ได้ดูแลตลอดมาอย่างต่อเนื่องหลังจากหุ้นส่วนชีวิตได้รับมรดกตกทอดมาเพียงไม่กี่ห้อง

เอาเป็นว่าเมื่อผู้เช่าซึ่งย้ายเข้าออกเปลี่ยนหน้ากันไปตลอดเวลาอยู่ยาวบ้าง หรือแค่เพียงระยะเวลาสั้นๆ บ้าง ก็ต้องทำการซ่อมปรับปรุงทุกครั้ง

ไม่มีผู้อยู่อาศัยแสนดีจากไหนมาดูแลรักษาบ้านเช่าเหมือนเป็นบ้านของตัวเองทั้งๆ ที่ในสัญญาการเข้าอยู่อาศัยจะมีการเรียกค่าเสียหายโดยการหักเอาจากเงินซึ่งเรียกเก็บไว้ล่วงหน้า

เรื่องอย่างนี้เจ้าของบ้านเช่าต้องเตรียมทำใจไว้พร้อมกับงบประมาณสำหรับการซ่อมแซม โดยเฉพาะกับอาคารอายุเกินกว่า 30 ปีที่พร้อมจะชำรุดเสียหายได้ตั้งแต่หลังคาลงมาถึงท่อระบายน้ำใต้พื้นดิน

สิ่งหนึ่งซึ่งน่ากลัวจะเกิดอันตรายได้เสมอ เห็นจะเป็นเรื่องของไฟฟ้าเนื่องจากสายไฟน่าจะมีอายุการใช้งานมายาว ซึ่งไม่รู้ว่าส่วนอื่นๆ มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกันบ้างหรือไม่ อย่างไร?

แต่สำหรับห้องซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของหุ้นส่วนชีวิตนั้นได้ทำการเปลี่ยนใหม่แล้วเกือบทั้งหมด รวมการปรับปรุงหลายสิ่งอย่าง หลังจากได้รับตกทอดมาจะเรียกว่าเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ก็ได้

 

นอกจากการปรับปรุงบ้านพักของครอบครัวซึ่งได้เคยบอกเล่าให้ฟังบ้างว่าก่อสร้างมานานในเวลาใกล้เคียงกับ “ทาวน์เฮ้าส์-ห้องแถว” แต่ไม่เสร็จสมบูรณ์เพราะกำลังทรัพย์ ต้องต่อเติมปรับปรุงครั้งใหญ่ๆ ไม่น้อยกว่า 4-5 ครั้ง เอาเป็นว่าพอเก็บเงินได้บ้างก็ใส่ลงไปกับบ้าน

จนเมื่อ 2-3 ปีมานี้จำเป็นต้องต่อเติมห้องรับแขกเพิ่มขึ้นมาอีก แต่สิ่งที่ต้องการจริงๆ ถ้าหากมีการยก ดีดพื้นบ้าน ให้สูงขึ้นได้ก็คงทำไปนานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเคยคิดจะทุบบ้านหลังเก่าทิ้งเพื่อก่อสร้างใหม่ ติดตรงไม่มีปัญญาหางบประมาณจำนวนมากได้อีกแล้ว

ด้วยเวลายาวนานที่ได้เข้ามาพัวพันเกี่ยวข้องกับ “การปรับปรุง-ซ่อมแซม-ก่อสร้าง” ซึ่งต้องรู้จักกับผู้รับเหมา ช่างก่อสร้าง เริ่มต้นจากไม่ค่อยจะรู้อะไรเลยเพียงแค่มีเพื่อนเคยศึกษาในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ระหว่างเรียนอยู่ในสถาบันเดียวกัน ก็ได้กลายเป็นพอเข้าใจอะไรได้มากขึ้นเกี่ยวกับการก่อสร้าง ช่างก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างทั้งหลาย

แต่ไม่เคยเห็นมีอะไรเกี่ยวกับการ “รับรองมาตรฐานช่างก่อสร้าง” หากเราจะว่าจ้างช่างก่อสร้างโดยไม่ผ่านผู้รับเหมา

ในเวลาเดียวกันเมื่อช่างก่อสร้างทำงานผิดพลาดทำให้ต้องเสียหายมาก ไม่สวยงามมั่นคง ไม่เป็นไปตามแบบดังที่ต้องการ โดยเฉพาะเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างซึ่งมีราคาแพงมากขึ้นในเวลานี้เราจะทำอย่างไร เช่น หักค่าแรงซึ่งย่อมเป็นไปได้ยาก

ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมีการต่อว่า ” หักค่าแรง” ปรากฏว่าในเวลาต่อมาทิ้งงานหายหน้ากันไปหมด

 

อีกอย่างหนึ่งไม่เคยปรากฏว่ามีสมาคมช่างก่อสร้างเพื่อรับรองมาตรฐานฝีมือ ถึงยังไงการก่อสร้างซ่อมแซมรายย่อยเล็กๆ คงต้องเสี่ยงกันเอาเอง หรือไม่ก็จะต้องคลุกคลีสืบเสาะจนรู้จักฝีมือ คือได้เห็นผลงานมาแล้ว ไม่อย่างนั้นขอเสนอให้ผ่านผู้รับเหมาจะดีกว่า

การก่อสร้างบ้านอยู่อาศัยสักหลังจะรวมทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่จากในดินขึ้นมาบนดินจนกระทั่งพุ่งขึ้นสู่อากาศ กว่าจะเสร็จเรียบร้อยย่อมต้องมีการตกแต่งสารพัด

สิ่งเหล่านี้ช่างจะมีความถนัดแตกต่างกันออกไปบางคนเป็นช่างปูน ช่างเหล็ก ช่างประชา ช่างไม้ ช่างปูหิน ปูกระเบื้อง ช่างสี ช่างไฟฟ้า และ ฯลฯ ช่างคนเดียวคงทำไม่ได้ทุกอย่าง

อันที่จริงก็เป็นเรื่องค่อนข้างละเอียดอ่อนพอสมควรสิ่งต่างๆ ดังกล่าวมีความจำเป็นต้องไปรวมอยู่ในตัวผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งมีประสบการณ์มากๆ จนกระทั่งรวมช่างทุกอย่างอยู่ในสังกัด หรือเครือข่ายโดยเจ้าของบ้าน เจ้าของงานไม่จำเป็นต้องไปวิ่งหาด้วยตัวเอง

ปัญหากลับมาอยู่กับความเสี่ยงในตัวผู้รับเหมาซึ่งมักจะไม่ค่อยมีความรับผิดขอบสักเท่าไร? และรับงานเปรอะไปหมด พอหมุนช่างไม่ทันงานเกิดความผิดพลาดล่าช้ากว่ากำหนดการมักจะหายหน้าไป เอะอะอะไรไม่เป็นไปตามสัญญามักแก้ปัญหาโดยการทิ้งงาน

 

ตัดสินใจเสี่ยงกับการปรับปรุงซ่อมแซม (Renovate) “ทาวเฮ้าส์-ตึกแถว” อีกครั้งแค่เพียงห้องเดียวแต่มี 2 ชั้น ชั้นละประมาณ 80 ตารางเมตร โดยทำใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หลังคาที่แตกร้าวรั่วซึม ระบบการระบายน้ำ ยกพื้นห้องน้ำ ห้องส้วมให้สูงขึ้น ขณะเดียวกันต้องถูกตามสุขลักษณะของการกำจัดน้ำเสียสิ่งปฏิกูลทั้งหลาย เนื่องจากพื้นที่บริเวณก่อสร้างเดิมเป็นที่ต่ำ ขณะเดียวกันผู้ก่อสร้างเดิมทำไว้แบบลวกๆ และเป็นส้วมซึมนั่งยองราคาถูก

ติดต่อช่างซึ่งได้รู้เห็นฝีมือกันดีแล้ว บังเอิญเขามีงานประจำก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ล้นมือ แต่ด้วยความสนิทสนมชอบพอที่เคยเกื้อกูลกันมาเขาอาสาจัดหาช่างจากจังหวัดบ้านเกิดของภรรยามาให้ ซึ่งได้ตกลงพร้อมทั้งมีการวางเงินมัดจำจำนวนหนึ่งเป็นค่าเดินทาง รวมทั้งจะนำไปซื้อเครื่องมือด้วย แต่ ในที่สุดได้กลายเป็นเหมือนค่าจัดหาช่างไปฉิบ

ต้องบอกว่าไม่มีทางเลือกเหมือนกับว่าผีถึงป่าช้าแล้ว เมื่อเขายกโขยงกันมาแบบเป็นเครือญาติประเภทลูกตัวลูกสะใภ้ มากันพร้อมหน้าพร้อมตา 3 คู่ 6 คน และต้องพักอาศัยอยู่บนบ้านหลังที่จะทำการปรับปรุงนั่นเอง

เขาเรียกค่าแรงซึ่งดูจะไม่เอาเปรียบเท่าไร เพียงแต่จำนวนคนมันมาก ฝ่ายว่าจ้างต้องจ่ายหมด น้ำไฟทั้งหลายทั้งปวง บรรดาลูกมือคือฝ่ายเมียๆ ของช่างเหล่านี้ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าส่งโน่นนี่ เตรียมอาหารให้ฝ่ายชาย เก็บกวาด ซึ่งก็ไม่ค่อยจะทำความสะอาดอะไรนอกจากบริเวณสำหรับใช้นอน

เรื่องของเรื่องก็คืองบประมาณบานปลายจนคิดตัวเลขออกมาแล้วน่าใจหาย แต่จะทำอย่างไรได้ หวานอมขมกลืนต้องดันกันไปให้สุดซอย เสร็จสรรพ

คิดดูเอาเองละกันถ้ามีงานก่อสร้างจะ “จ้างตรง” หรือผ่าน “ผู้รับเหมา” ก่อสร้าง