Canton Vento 30 ผู้พิฆาต ‘2-ทาง,วางหิ้ง’ ในดวงใจ

ตอนที่ฟังลำโพงคู่นี้ในความหมายของการทำงานเสร็จใหม่ๆ ผมบอกกับตัวเองแบบรวบรัดได้สั้นๆ ว่า – ดุดันมาก!!!

คือมันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ครับ ตอนฟังแผ่นสุดท้ายจบแล้วกะว่าจะแพ็กใส่กล่องเก็บเพื่อส่งคืน เป็นตอนที่เดินไปเอาแผ่นออกจากเครื่องเล่น แล้วจู่ๆ มันก็มีคำที่ว่านั้นผ่านเข้าหัวมาเองแบบยังไม่ทันได้นึกอะไรด้วยซ้ำไป อารมณ์เหมือนอยู่ดีๆ ก็อยากพูดอะไรกับตัวเองในใจสักอย่าง, อย่างไรก็อย่างนั้นเลย

ย้อนกลับไปสามสี่วันแรกที่พา (ลำโพงคู่นี้) เข้าห้อง หลังจากเอาเข้าไปแทนที่ลำโพงคู่เดิมที่กำลังฟังแบบไม่มีอะไรยุ่งยากนัก เนื่องเพราะเป็นลำโพงประกอบเข้าขาตั้งเหมือนกัน ทั้งยังมีขนาดใกล้เคียงกันอีกด้วย

ปลดสายลำโพงจากคู่เก่ามาต่อเข้าคู่ใหม่เสร็จสรรพ ก็เปิดฟังภาพรวมของเสียงก่อนที่จะไปขั้นตอนอื่นต่อ ซึ่งก็คือหาที่ทางวางตั้งให้เหมาะสมกับห้องและตำแหน่งนั่งฟังนั่นแหละครับ

ปรากฏว่าสามสี่วันแรกที่ว่ายังทำอะไรต่อจากนั้นไม่ได้ เนื่องเพราะรู้สึกสุ้มเสียงมันยังไม่เป็นใจ คือไม่ใช่ให้ออกมาแบบขาดๆ เกินๆ นะครับ เพราะกระเดียดไปข้างให้รู้สึกยังไม่เข้าที่เข้าทางมากกว่า

อาจจะเป็นเพราะยังไม่คุ้นห้อง ไม่ชินซิสเต็ม เหมือนเป็นคนแปลกหน้าพลัดหลงเข้ามาเจอกันแบบยังงงๆ อยู่ ก็เป็นได้

ก็เลยเปิดแบบอัดทิ้งกะให้เวลาสักอาทิตย์ คิดว่าน่าจะได้ความ

เพราะส่วนใหญ่ หรือโดยเฉลี่ยแล้วเวลาที่เจอกับลำโพงคู่ใหม่ๆ ที่ไม่มักคุ้นกันมาก่อน มักจะใช้เวลาประมาณนั้นแหละครับ ถึงจะจับทางกันได้

แต่ที่ไหนได้ พ้นจากเวลาสามสี่วันที่ว่าเท่านั้นเอง ลำโพงคู่นี้เข้าที่เข้าทางเร็วเกินคาดครับ ทั้งยังรู้สึกดีพอในความหมายของสุ้มเสียงที่ได้ยินนั้น มันถูกหูจนไม่รู้สึกอยากไปหาตำแหน่งวางใหม่ด้วยซ้ำไป

และตรงนี้นี่เอง ที่เป็นความรู้สึกประทับใจแรกครับ

คือมันบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นลำโพงคู่หนึ่งที่ไม่จุกจิก ไม่มากเรื่องเลย ก็เลยตั้งวางอยู่ตรงนั้นจนจบความ (หรืออาจจะเป็นเพราะขี้เกียจเองด้วย, ก็ว่าได้ – ฮา)

Canton Vento 30 ให้ภาพรวมของเสียงที่น่าตื่นเต้นมาก พร้อมที่จะทำงานกับดนตรีทุกรูปแบบอย่างไม่มีอิดออดหรือเกี่ยงงอน ออกจะกระตือรือร้นที่ใคร่ถ่ายทอดสุ้มเสียงของสำเนียงดนตรีนั้นๆ ออกมาให้เราได้สัมผัสในทุกแง่มุมด้วยซ้ำไป คือสามารถพาเข้าถึงแก่นของแต่ละตัวโน้ตที่กำลังโลดแล่นอยู่ระหว่างขั้นบันไดเสียง แบบให้รับรู้ได้อย่างไม่มีกั๊กหรือเก็บงำอะไรไว้แม้แต่เพียงน้อย

ทั้งยังสื่อออกมาแบบลื่นไหล ให้ความต่อเนื่องของเสียงดนตรีอย่างถึงอารมณ์ และที่สำคัญคือชวนให้ติดตามเอามากๆ

ฟังแล้วรู้สึกสนุกจริงๆ ว่างั้นเถอะครับ

และอีกประการ (ที่สำคัญ) คือเป็นน้ำเสียงที่สัตย์ซื่อ ตรงไปตรงมา บันทึกมาอย่างไรก็นำเสนอออกมาให้สัมผัสได้แบบไม่มีปิดบัง จนแทบอยากจะบอกว่าเป็นลำโพงไม่มีบุคลิกที่เป็นอัตลักษณ์แต่อย่างใดด้วยซ้ำ เพราะทำหน้าที่ ‘สื่อความ’ จากต้นฉบับที่ป้อนเข้ามาให้รับรู้ได้ด้วยความเที่ยงตรงอย่างชนิดที่ต้องบอกว่าเคร่งครัดยิ่งนัก, ไม่ค่อยจะได้พบเจอนะครับกับลำโพงระดับนี้

บอกตามตรงว่าก่อนหน้านี้ผมมีลำโพงในดวงใจอยู่คู่หนึ่ง ที่กล่าวได้ว่าอยู่ในระดับพอๆ กับลำโพงคู่นี้อย่างมาก ทั้งในแง่ขนาดของโครงสร้าง และราคา คือมีความใกล้เคียงกันมากจริงๆ และอยู่ในความชอบของผมแบบช่วงสี่ซ้าห้าปีที่ผ่านมานี่, หาใดแทนไม่ได้เลย

แต่พอได้ฟัง Canton Vento 30 (หลังจากเข้าที่เข้าทางแล้ว) มันกุมความชอบของผมในฐานะลำโพง 2 ทาง วางหิ้ง (ประกอบเข้าขาตั้ง) ราคาต่ำกว่าแสน เอาไว้ได้อย่างรวดเร็วและแบบเบ็ดเสร็จจริงๆ คือไม่ต้องใช้เวลาฟังนานเพื่อค่อยๆ สังเกตความแตกต่างตรงโน้น ตรงนี้ ตรงนั้น แต่อย่างใด ซึ่งหากให้บอกความแตกต่างแบบเทียบกับคู่ที่บอกว่าเคยอยู่ในดวงใจมาก่อน ผมให้คำจำกัดความแบบสั้นๆ (อีกหน) ได้ว่า – มันไปได้สุดกว่าในทุกๆ ทาง, ครับ

โดยเฉพาะเวลาเล่นเพลงฟังดนตรีที่มีเบสลึกๆ หนักๆ กระแทกกระทั้น มันถ่ายทอดออกมาให้สัมผัสรู้ถึงความรุนแรงอย่างที่บอกข้างต้นว่า ‘ดุดันมาก’ นั่นแหละครับ

และไม่ใช่แค่ให้เบสออกมาดีอย่างโดดเด่นแบบน่าสะพรึง (มาก) เท่านั้น หากฟังเพลงหวานมันก็หวานจนใจแทบละลายก็ว่าได้ หรือฟังเสียงร้อง (ไม่ว่าหญิงหรือชาย) ก็ละม้ายคล้ายเธอและเขามายืนร้องปากเปล่า (คือไม่ผ่านไมค์) ให้ฟังอยู่เบื้องหน้า

อย่างไรก็อย่างนั้น คือเป็นเสียงธรรมชาติที่มีความสมจริงสูงมาก และที่ชอบเป็นส่วนตัวเอามากๆ ยิ่งนัก ก็คือเวลาฟังออร์เคสตราวงใหญ่บรรเลงงานซิมโฟนีครับ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลข 5 ของเบโธเฟน หรือจากโลกใหม่ของดโวรชาค ตลอดจนนกไฟของสตราวินสกี รวมทั้ง 1812 โอเวอร์เจอร์ ของไชคอฟสกีก็ด้วย

บางช่วงบางตอนของบางลีลา (Movement) มันให้ออกมาได้อย่างโอ่อ่า ยิ่งใหญ่ และกระแทกกระทั้นด้วยความดุดัน (อันสุนทรีย์) ที่ช่างถึงอกถึงใจดีแท้ แบบที่ฟังจบแล้วปักษ์ใต้บ้านผมถึงกับต้องออกปากว่า ‘ฮาย-ย-ย-ย-ย-ย ฉาดได้แรงอกนิ่’ นั่นแหละครับ

ฟังงานซิมโฟนีชิ้นใหญ่ๆ กับออร์เคสตราเต็มวงแบบบรรเลงด้วยนักดนตรีร่วมร้อยชีวิตนี่ ต้องได้ลำโพง ‘ใจถึงพึ่งได้’ อย่างคู่นี้แหละครับ ถึงจะได้อรรถรสแบบได้ฟังแล้วให้รู้สึกว่าได้ปลดปล่อยอารมณ์จริงๆ

Canton Vento 30 ถ่ายทอดงานซิมโฟนีออกมาแบบว่าหากได้ยินเสียงโดยไม่เห็นตัวแล้ว หัวเด็ดตีนขาดเป็นต้องยืนกระต่ายขาเดียวว่า เป็นเสียงจากลำโพงวางพื้นแน่ๆ

ยํ้าอีกครั้งนะครับ ว่ากำลังพูดถึงลำโพงสองทาง วางหิ้ง ราคาต่ำกว่าแสน!!!

แล้วหากถามว่าตั้งแต่พลัดหลงเข้ามาในแวดวงเครื่องเสียงจากช่วงปลายทศวรรษที่ 70s มานี่ ไม่เคยได้ยิน ‘สองทางวางหิ้ง’ คู่ไหนให้เสียงออกมาเหนือกว่าคู่นี้เลยหรือ ซึ่งก็ตอบได้ทันทีแบบไม่มีลังเลเหมือนกัน – ว่ามี, และมีมากกว่าหนึ่งแบบนับนิ้วมือได้ด้วย

แต่ที่ว่ามีและมีแบบไล่นับนิ้วไปได้เรื่อยนั้น มันแสนขึ้นทั้งหมดนะครับ!!!

ไล่ตั้งแต่แสนกลางๆ จนข้ามสองสามแสนไปถึงสองทางวางหิ้งคู่ละร่วมครึ่งล้าน, ก็ยังมี อย่างที่บอกนั่นแหละครับ คือมีที่ให้สุ้มเสียงออกมาได้ ‘สุด’ กว่า Canton Vento 30 คู่นี้ ซึ่งไม่ขอไปเทียบเคียงอะไรด้วยเพราะมีเรื่องของราคาค้ำอยู่ แต่ถ้าหากเทียบกับบรรดาแสนขึ้นไปยันเพดานที่แสนกลางล่ะ ก็ต้องพิจารณาล่ะครับ ว่ากับสิ่งที่ได้เพิ่มมาผ่านสุ้มเสียงที่เป็นนามธรรมนั้น มันคุ้มพอกับที่จะจ่าย (เงิน) เพิ่มอย่างเป็นรูปธรรมหรือเปล่า ซึ่งประเด็นนี้ใครก็คิดหรือตัดสิน (ความพึงพอใจ) แทนใครไม่ได้ดอกนะครับ

ท้ายสุด, อย่าเชื่อผม (จริงๆ แล้ว ตั้งแต่เขียนหนังสือมา ก็ไม่เคยบอกหรือชี้นำให้ใครต้องมาเชื่อเลยนะครับ) แต่จงหยิบแผ่นโปรดของคุณขึ้นมา แล้วนำออกไปฟังกับลำโพงคู่นี้ด้วยตัวคุณเองดู

ซึ่งผมเชื่อว่าใช้เวลาไม่นานหรอกครับ เผลอๆ อาจจะฟังไม่จบแผ่นด้วยซ้ำ คุณก็ได้คำตอบให้ตัวคุณเองแล้ว

เป็นคำตอบที่ตัดสินลำโพงคู่นี้ได้ในทุกๆ ด้านด้วยหูคุณเอง •

เครื่องเสียง | พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]