ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 15 - 21 ธันวาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | สำเริงคดี |
เผยแพร่ |
เมื่อแผ่นดินก่อน ในรัชสมัยอดีตสมเด็จควีนอลิซาเบธที่ 2 เราเคยเมาธ์กันหลายหน ถึงเกร็ดการเสวยของพระองค์
ลุถึงรัชสมัยปัจจุบัน จะเมินมิเมาธ์เรื่องเดียวกันนี้ของคิงชาร์ลส์ที่ 3 ได้อย่างไร
ใครที่คิดว่าบนโต๊ะเสวยในพระราชวังบักกิ้งแฮมยุคนี้ จะเพียบพูนไปด้วยพระกระยาหาร หมู เห็ด เป็ด ไก่ เนื้อ ปลา สารพัดสารพัน บอกได้เลยว่าคุณคิดผิด เพราะคิงชาร์ลส์เป็นกษัตริย์ที่ ‘ติดดิน’ ในเรื่องเสวยจริงๆ
เมื่อปี 2021 คิงชาร์ลส์ตรัสเล่าไว้ในการพระราชทานสัมภาษณ์กับ BBC ตอนหนึ่งว่า “เป็นปีๆ มาแล้วล่ะ ที่ข้าพเจ้างดเสวยเนื้อสัตว์ หรือปลาอาทิตย์ละ 2 วัน แล้วก็งดนมเนยอาทิตย์ละ 1 วัน”
ทีนา บราวน์ นักเขียนเรื่องพระราชวงศ์อังกฤษ เมาธ์ถึงเรื่องอาหารเช้าของคิงชาร์ลส์ไว้ใน The Palace Peppers ที่เธอเขียนว่า…เมื่อทรงตื่นบรรทมขึ้นในตอนเช้า สิ่งแรกๆ ที่กษัตริย์อังกฤษองค์ปัจจุบันเสวยก็คือ นัทและเมล็ดพืช!
เนื่องจากชาร์ลส์โปรดให้เลี้ยงไก่ไว้ที่พระตำหนักไฮโกรฟในกลอสเตอร์เชียร์ พระองค์จึงมีไข่ไก่ออร์แกนิกส์อยู่ในเมนูเบรกฟาสต์เป็นประจำ วิธีปรุงที่โปรดปรานคือ ไข่ต้มยางมะตูม
สำหรับมื้อกลางวัน กอร์ดอน เรย์เนอร์ อดีตนักข่าวสายพระราชวงศ์ประจำพระองค์ชาร์ลส์ เคยบอกว่า อาหารกลางวันเป็นของฟุ่มเฟือยที่เข้ามาขัดจังหวะการทรงงานของพระองค์
งั้น การเมาธ์ก็เลื่อนลิ่วไปที่มื้อเย็น
อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า คิงชาร์ลส์ทรงอุทิศพระองค์ให้แก่ความยั่งยืนของโลก พระกระยาหารมื้อเย็นจึงมีพืชผักเป็นพื้นฐาน และด้วยเหตุที่คิงและควีนแห่งอังกฤษชมชอบการทำสวน พืชผักส่วนใหญ่ที่เสวยจึงมาจากที่ดินของพระองค์เอง
เครื่องเสวยที่ทรงโปรด ได้แก่ อาหารอิตาเลียน และไข่ ไข่นั้นนอกจากต้มแล้ว ยังโปรดให้ยีลงผสมผักสลัดแทนน้ำสลัดต่างๆ อีกด้วย
สำหรับอาหารที่ไม่โปรดเลย คือ กระเทียม ช็อกโกแลต และกาแฟ
ส่วนเครื่องดื่มที่ทรงโปรด คือ พระสุธารสชา นิตยสาร Sunday Times เคยรายงานว่า คิงชาร์ลส์โปรดให้ชงชาในสัดส่วนใบชา 1 ช้อนชา ต่อน้ำร้อน 1 ถ้วย หรือ 2 ช้อนชา ต่อน้ำร้อน 1 กาชา
ชนิดของชาที่เสวยมี 2 อย่าง คือ ชาเขียว ต้องชงกับน้ำร้อน 70 องศาเซลเซียส กับชาเอิร์ล เกรย์ ที่ต้องชงกับน้ำร้อน 100 องศาเซลเซียส นั่นแล •
สำเริงคดี | ทรงวาด
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022