100 วัน : ชีวิตภาค 2 ของ ‘นายกฯ เดอะซีรีส์’

อภิญญา ตะวันออก

เร็วปานกามนิตหนุ่มมากสำหรับนายกฯ ยุคนี้ คือ 100 วัน

การเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยนี้ มีการวิพากษ์กันหนักมาก นาทีต่อนาทีชนิดนี้อาจมี “เหวอ” ได้! โดยเฉพาะนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน แห่งประเทศไทย ซึ่งก็ดุเดือดมาก สมกับการทำงานเพียง 60 วัน ท่านก็แถลงผลงาน

แต่นั่นแหละ ฮุน มาแนต แห่งกัมพูชา จู่ๆ ก็ได้อานิสงส์ 100 วันไปด้วย!

สองท่านนี้ เขามีความพ้องกันมาตั้งแต่ต้น

เริ่มแต่วันรับตำแหน่งเป็นนายกฯ วันเดียวกัน (22 สิงหาคม) เคยร่ำเรียนในสหรัฐ, แต่งงานกับสตรีที่จบการศึกษาเวชศาสตร์การแพทย์ และต่างก็เป็น “เศรษฐี” แถวหน้าของประเทศ

ทั้งสองยังถูกมองว่า มีผู้มากบารมีทางการเมืองเป็นแบ๊กอัพ มีดีกรีเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร และสมเด็จฮุน เซน

กัมพูชายังเป็นชาติแรกที่นายกฯ ไทยถูกปักหมุดไปเยือนเจิมแต้มความสัมพันธ์ ประกาศความร่วมมืออบอุ่นแนบแน่นแบบ “ทวิ-ทวิภาคี”

รวมถึงความไม่แผ่วทางการเมือง นี่คือเรื่องหลักๆ ที่พ้องกัน

มีก็แต่ตำแหน่งเสนาบดีที่ฮุน มาแนต ได้รับการแต่งตั้งชั้นบวรสมเด็จ แต่ท่านเศรษฐาไม่มี ถึงอย่างนั้น คำว่า “บวรเศรษฐา” ที่กัมพูชาเคยใช้มาในวงการเมือง หมายถึงประเสริฐทางเศรษฐกิจ นี่ล่ะ ความพ้องกัน!

แต่ช่างไม่บังเอิญที่นายกฯ ไทยเจอเรื่อง “อ่วม” มากมายทุกทิศทางอย่างเป็นระยะตั้งแต่ 60 วัน 100 วันเป็นต้นมา

ขณะที่นายกฯ เขมรนั้น สดชื่นสบายกว่า กล่าวคือ เมื่อครบ 100 วันนั้น ท่านไปนั่งเป็นประธานในพระราชพิธีบุญประเพณีการแข่งเรือที่กลับมารื้อฟื้นใหม่ หลังจากบิดาของตนยกเลิกไปในรัชกาลกษัตริย์สีหนุ

จึงเรียนแจ้งให้ทราบว่า 100 วันนายกฯ กัมพูชา สมเด็จฮุน มาแนต เป็นอะไรที่ชิวมาก และมากถึงระดับ “ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง” ที่ไม่ค่อยจะมีให้เห็นแล้วในยุคนี้!

อาทิ ที่สภาเขมรนั้น ไม่น่าจะมีพรรคฝ่ายค้าน การแถลงนโยบายในรัฐสภา ก็ไม่มี จึงไม่มีธรรมเนียมสัญญาอะไรไว้กับประชาชนสักอย่าง นั่นเลยทำให้รอดไป ไม่ต้อง 100 วันอะไร สำแดงผลงาน!

สมเด็จฮุน เซน ก็ผูกขาดเป็นนายกฯ มาตั้ง 6 สมัย ไม่เคยแถลงผลงานอะไร เลยกลายเป็นธรรมเนียม “คล้ายๆ” ที่ไม่มีใครกล้า “จิก” ถาม ซ้ำเกือบทั้งหมดก็ยังเป็นคนของรัฐอีก

ธรรมเนียม 100 วันที่ว่า แต่ไหนแต่ไรในกัมพูชา จึงไม่เคยมี!

ไม่ว่าจะพิธีการเมืองหรือเรื่องของความตาย? งานศพยิ่งแล้วใหญ่ เขมรไม่มีธรรมเนียมนิยมเก็บศพ 100 วันแล้วรอ “ขึ้นเมรุ” แบบไทยแต่ไหนแต่ไร

ขนาดลุงของฮุน มาแนต พี่ชายของสมเด็จฮุน เซน คือสมเด็จฮุน เนง ที่ตายไปเมื่อปีกลาย ก็ยังจัดพิธีเคารพศพใน 7 วัน แล้วบรรจุศพลงในโถงเจดีย์เป็นอันว่าเสร็จสิ้น นี่เป็น 1 ในตัวอย่างบุคคลระดับสูงของประเทศ

เรื่อง 100 วัน จึงไม่ใช่ธรรมเนียมนิยม ทั้งคนตายและคนเป็นทางการเมือง

นั่นคือ สมเด็จนายกฯ ฮุน มาแนต ที่ไม่ถูกกดดันใดๆ

แต่คนที่ “คล้ายๆ” เหมือนจะถูก “เผา” ทุกๆ วัน ราวกับขึ้น “เมรุ” สุมไฟ กลับเป็นบิดาของเขา คือสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเตโชฮุน เซน ที่ไม่เชื่อว่า “เมื่อหมดอำนาจวาสนา” ก็นำพาให้เป็นแบบนี้!

อะไรที่ไม่เคยเห็น ก็จะได้เห็น!

ฮุน เซน นั้น กล่าวได้ว่า เขาไม่ได้เป็นนายกฯ มาครบ 100 วันแล้ว

ที่เคยถูกห้อมล้อมไปด้วยเหล่าองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ไม่ว่าจะเป็นความโอ่อ่าในการเดินทาง ขบวนรถยนต์ผู้ติดตาม จากที่เคยเป็นเบอร์ใหญ่มากคับสร๊ก รองจากตำแหน่งพระมหากษัตริย์ ซึ่งบางทีนายคนถือฉัตร ยังเผลอกางร่มให้สมเด็จฮุน เซน จนเป็นที่ฮือฮา!

ผ่านมาวันนี้ กลับตกที่นั่งเป็นเบอร์ 3 เบอร์ 4 หรือรองกว่านั้น เมื่อนับจากประธานสภาขึ้นไป รองจากลูกชายไม่พอ บางทีในการร่วมงานพิธีการยังต้องนั่งถัดจากโลกจุมเตียวเพชร จันมุนี ศรีสะใภ้ ไปอีก!

ดูๆ ก็น่าประดักประเดิดไม่ค่อยจะมี คนที่เคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีบ้านไหนเมืองไหน เขามานั่งเสนอหน้ากันแบบนี้!

แบบที่ต้องมีคนมาแสดงความเคารพนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ต่อหน้าอดีตผู้นำคนก่อน ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในงานกรมกองพิธีการต่างๆ

สร้างความหนักใจต่อสื่อยิ่งนัก จะเสนอภาพให้ปรากฏเป็นลำดับอย่างไรดี?

มัน มันประดักประเดิด กระอักกระอ่วน เก้ๆ กังๆ อยู่บ้างพิกล

บรรดาผู้ที่ล้อมที่ห้อมล้อมก็เช่นกัน ที่เคยยอมกายทำความเคารพสมเด็จนายกฯ คนก่อน บัดนี้ ก็ย่อกายทำความเคารพนายกฯ ลูกชาย ก่อนนายกฯ เก่าตลอดกาลผู้นั้น…แต่ที่ยากกว่านั้น คือการต้องไปตั้งแถวยืนกึ่งทำความเคารพ ทักทายสมเด็จลูกชายตามระเบียบธรรมเนียม

คิดดูเถอะ จากที่คนกลุ่มเดิมๆ ที่เคยมายืนรอทำความเคารพตน บางคนยืนมาตลอด 25 ปีเป็นคนแรกเสมอ แต่วันนี้ คนกลุ่มเดิมกลุ่มนี้กลับมีตน-สมเด็จฮุน เซน ยืนต่อแถว รอต้อนรับนายกฯ ลูกชาย-ลูกสะใภ้อยู่ด้วย

และตามธรรมเนียมที่ให้เบอร์ 1 นั่งก่อนเรียบร้อย ตนจึงค่อยนั่งตาม!

อุ๊แม่เจ้า! เป็นเบอร์รองมันลำบากแบบนี้เอง ทีวี สปอตไลต์ใดๆ จึงพยายามไม่จับภาพสมเด็จเตโชให้วุ่นวาย เป็นเรื่องจริงที่ยากจะทำใจ แต่ใครเลยจะนึกว่า สมเด็จฮุน เซน ที่มีบุคลิกแข็งกร้าวไม่ยอมลงให้ใคร?

จะทำใจได้!

100 วันที่ผ่านมา อย่างที่เห็น ราบรื่นและเรียบง่าย

พิสูจน์ความเป็นมืออาชีพทางการเมืองของบุรุษผู้แข็งกร้าว ว่าสามารถทำได้หมดทุกบทบาท อยากให้นักการเมืองไทยได้ดูไว้ หลังจากที่เคยที่ถูกล้อเลียนเรื่องความเถื่อนถ่อยมามาก แต่วันนี้ สมเด็จฮุน เซน กลับเป๊ะปังมากทางการทูต!

ทำได้ขนาดนี้ ฮุน มาแนต ก็เลยต้องทำให้ดี ดีและดี ขึ้นไปอีก!

โอ เท่ากับ ฮุน เซน ได้เสียสละมากมายขนาดไหน ในการเล่นผู้ร้ายจนติดตาผู้คนตลอดการนำประเทศที่ผ่านมา

ครั้นหลุดจากนายกฯ 100 วันมานี้ ภาพที่คนจดจำ คือความสง่างามของมาแนต เมื่อเปรียบกับบิดา

นั่นคือสิ่งที่ผู้คนเห็น

ไม่ว่าจะเป็นการรื้อฟื้นพระราชพิธี “บุญอมตุ๊ก” ที่อดีตนายกฯ ยกเลิก นัยว่า จะให้คนจดจำภาพอันดีงานของระบอบกษัตริย์สีหนุ/สีหมุนี ที่คนเขมรส่วนใหญ่ยังเทิดทูน

ดังที่เห็น ฮุน มาแนต กำลังคืนความสุขให้ประชาชน ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ๆ เหมือนพล็อตละครทีวีไทยที่ชอบเขียนให้ตัวละครย้อนเวลาไปแก้ไขอดีต หรือมิฉะนั้น ก็กลับมาเกิดใหม่ในร่างคนหนุ่มคนสาว! และได้ทำอะไรใหม่ๆ ที่ตนนั้นไม่เคยทำ!

สมเด็จฮุน เซน นั้น กำลังแสดงละครพิสดารแบบละครไทยๆ ใน “ชีวิตภาค 2” จนสมควรได้รางวัลออสการ์ ทั้งในฐานะผู้กำกับการแสดง มือเขียนบท และพีกคือบทนักแสดงนำชายตลอดกาลสูงสุด!

ส่วน ฮุน มาแนต ก็น่าจะติดรับรางวัลนักแสดงสมทบหน้าใหม่ที่กำลังมาแรง จากบท “คน 2 ภาค” บทที่เล่นยาก อย่าว่าแต่ 100 วันเลย ทุกๆ วันของฮุน มาแนต ที่ต้องตามรอยบิดา ไหนจะต้องเล่นเป็นตัวเองในการเมืองเขมรที่เร้าใจ ไม่อาจคาดหมายใดๆ ในพล็อตเรื่องทุกวัน

สำหรับ “สมเด็จนายกฯ โปรดักชั่น” ที่ผลิต “ซีรีส์” การเมืองกัมพูชาให้เราชมทุกวัน มันมีอะไรที่สนุก สุดตื่นเต้น แม้จะรู้ว่า นักแสดงนำทั้ง 2 จะปรองดองกัน

ให้ตายสิ! ฉันอยากจะบ้า ยิ่งกว่าดูซีรีส์ Netflix

แล้วคุณคิดว่า มหากาพย์การละคร ระหว่าง “ชีวิตภาค 2” ของพ่อ กับ “คน 2 ภาค” ของลูก เรื่องไหนจะถูกใจคนดู?