‘สิงคโปร์’ ส่งเข้าประกวด Shou Zi Chew ‘เบอร์ 1’ TikTok

บทความพิเศษ | จักรกฤษณ์ สิริริน

 

‘สิงคโปร์’ ส่งเข้าประกวด

Shou Zi Chew

‘เบอร์ 1’ TikTok

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา TikTok ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของ Generation ใหม่ สร้างทั้งกระแสความนิยม และสร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก

โดยในปัจจุบัน TikTok มิได้เป็นเพียง Platform ที่สนับสนุนให้ผู้คนสร้าง “วิดีโอสั้น” แต่เป็นการส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ผ่านสาระความรู้คู่ความบันเทิง

เพราะ TikTok เป็นแหล่งรวม Content ที่หลากหลาย ที่สร้างทั้งแรงบันดาลใจ และสร้างทั้งประโยชน์ด้านต่างๆ มากมาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปิดตัว TikTok for Business ซึ่งเป็น Platform ด้าน Digital Marketing

ตั้งแต่ Brand ยักษ์ใหญ่ระดับโลก ลงมาจนถึงธุรกิจ SME ต่างก็ใช้ TikTok for Business เป็นช่องทางในการกระตุ้นยอดขาย และสร้างการรับรู้ของ Generation ใหม่ไปพร้อมๆ กัน

 

ทั้งหมดนี้ เป็นผลงานในยุคทองของ TikTok ภายใต้ CEO ที่ชื่อ Shou Zi Chew

ที่แม้จะผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว จากการที่ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ได้ประกาศแต่งตั้ง Shou Zi Chew ให้เป็น CEO

แต่เชื่อว่าหลายท่านอาจจะยังไม่รู้จัก Shou Zi Chew ว่าเป็นใครมาจากไหน และมารับตำแหน่งบริหารระดับสูงของ TikTok ได้อย่างไร

Shou Zi Chew เกิดและเติบโตที่สิงคโปร์ในครอบครัวชนชั้นกลาง ชีวิตวัยเยาว์จึงไม่ลำบากยากแค้น และก็เหมือนกับลูกหลานชนชั้นกลางส่วนใหญ่ในโลก ที่มักได้รับการศึกษาที่ดี

Shou Zi Chew เรียนชั้นอนุบาลและประถมในสถาบันการศึกษาขั้นพื้นฐานชั้นนำของสิงคโปร์ ซึ่งจัดการเรียนการสอนด้วยภาษาจีนเป็นหลัก และเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนชั้นยอด

ทำให้ Shou Zi Chew สามารถใช้ทั้งภาษาจีนกลาง และภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาราชการของสิงคโปร์ได้อย่างคล่องแคล่ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครั้งที่ Shou Zi Chew ถูกเรียกให้เข้าประจำการเป็นทหารเกณฑ์ เขามีผลงานด้านวิชาการที่โดดเด่น จนได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรติด้วยการติดยศนายทหารชั้นสัญญาบัตรของกองทัพสิงคโปร์

Shou Zi Chew จบปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์จาก University College London หรือ UCL ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ.2006

 

หลังสำเร็จการศึกษา เขาไปฝึกงานในแผนกที่ปรึกษาด้านการเงินที่ Goldman Sachs วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา

จากนั้น Shou Zi Chew ไปลงทะเบียนเรียนต่อหลักสูตรปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ หรือ MBA ที่ Harvard Business School มหาวิทยาลัย Harvard ประเทศสหรัฐอเมริกา

หลังจากเรียนจบเป็นมหาบัณฑิต MBA เขาเริ่มต้นอาชีพการงานใหม่อีกครั้งด้วยการสมัครเป็นเด็กฝึกงานที่ Facebook ซึ่งเป็นบริษัท Startup ที่กำลังมาแรงในขณะนั้น

นี่คือหมุดหมายสำคัญ จากการที่ Shou Zi Chew ก้าวเท้าแรกเข้าสู่แวดวงธุรกิจทางด้านเทคโนโลยี ที่จะเป็นอุตสาหกรรมที่มีสถานะมั่นคงในอนาคต

 

Shou Zi Chew เริ่มต้นทำงานในระดับบริหารอย่างเต็มตัวในตำแหน่งวาณิชธนากรที่บริษัททางด้านการลงทุนระดับยักษ์ใหญ่ระดับโลก คือ DST Global

โดย DST Global เป็นบริษัทผู้ลงทุนใน Tech Company ชั้นนำของจีน ไม่ว่าจะเป็น JD.com, Alibaba, Xiaomi และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ByteDance

สั่งสมประสบการณ์ที่ DST Global จนกล้าแกร่ง นานถึง 5 ปี จนได้มีโอกาสได้ขึ้นสู่ระดับบริหาร

โดยในเวลาต่อมา DST Global ภายใต้คำแนะนำของ Shou Zi Chew ได้มีสถานะเป็นผู้ลงทุนรุ่นบุกเบิกในปี ค.ศ.2013 ที่ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ซึ่งจะรับเขาเข้าทำงานต่อไปในอนาคต

ซึ่งตอนนั้น ByteDance ยังเป็นเพียง Startup เล็กๆ ตั้งอยู่ในแฟลตชานกรุงปักกิ่ง ทว่า ในตอนนี้ ByteDance ได้กลายเป็น Unicorn ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกไปแล้ว

ที่อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Zhang Yiming ผู้ก่อตั้ง ByteDance ประกาศคว้าตัว Shou Zi Chew มาเป็น CEO ของ TikTok เมื่อ 3 ปีก่อน

 

หลังออกจาก DST Global ไม่นาน Shou Zi Chew กลับไปทำงานที่ Goldman Sach อีกครั้ง โดยในครั้งนี้เขาทำงานอยู่ที่ Goldman Sach เป็นเวลา 2 ปีด้วยกัน

จากนั้น Shou Zi Chew ขยับขยายเข้ามามีบทบาทสำคัญที่ Xiaomi บริษัทสัญชาติจีน ผู้ผลิต Smart Phone รายใหญ่ของโลก โดยรับตำแหน่ง CFO (Chief Financial Officer) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน ในปี ค.ศ.2015

ถือได้ว่า Shou Zi Chew สร้างสถิติเป็น C-Level (Chief Level) หรือ “พนักงานระดับบริหาร” ที่อายุน้อยที่สุดของ Xiaomi ในขณะนั้นอีกด้วย

นอกจากตำแหน่ง CFO แล้ว Shou Zi Chew ยังควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจระหว่างประเทศ หรือ Chief International Business Officer (CIBO) อีกตำแหน่งหนึ่ง

ผลงานชิ้นโบแดงของ Shou Zi Chew ก็คือ การนำ Xiaomi เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้เป็นผลสำเร็จในปี ค.ศ.2018 ในหน้าที่สำคัญ คือดูแลการ IPO หรือการเสนอขายหุ้นใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกของบริษัท

ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ IPO ของบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

 

ต่อมาในเดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2021 ทาง ByteDance ได้ยื่นข้อเสนอให้ Shou Zi Chew รับตำแหน่ง CFO

โดยหลังจากที่ Shou Zi Chew ดำรงตำแหน่ง CFO ได้เพียง 3 เดือน ByteDance ได้ขอให้เข้าขยับขึ้นไปรับตำแหน่ง CEO ของ TikTok

ภายหลังจากที่ CEO คนก่อน คือ Kevin Mayer ลาออกอย่างกะทันหัน ในช่วงที่ TikTok เผชิญแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐ ในยุคประธานาธิบดี Donald Trump ที่พยายามบังคับขายทรัพย์สินของ TikTok ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง

โดย ByteDance ได้แต่งตั้ง Shou Zi Chew ให้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ TikTok และมอบหมายให้ Vanessa Pappas ที่เคยทำหน้าที่รักษาการ CEO แทน Kevin Mayer ไปดำรงตำแหน่ง COO (Chief Operating Officer) ของ TikTok แทน

โดยเป้าหมายสำคัญของ Shou Zi Chew ที่ TikTok ก็คือ การพา TikTok ทำ IPO เพื่อเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา

 

Zhang Yiming ผู้ก่อตั้ง ByteDance ได้กล่าวยกย่อง Shou Zi Chew ในวันที่ Shou Zi Chew รับตำแหน่ง CEO ของ TikTok ว่า Shou Zi Chew มีความรู้อย่างลึกซึ้ง เกี่ยวกับบริษัท ByteDance และอุตสาหกรรม Hi-tech

ผลงานอันโดดเด่นในตำแหน่ง CEO ของ Shou Zi Chew ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เขาได้รับการยอมรับ และติดอันดับ 40 บุคคลที่ทรงอิทธิพลระดับโลกที่อายุไม่ 40 ปี หรือ 40 Under 40 ของนิตยสาร Fortune ในปี ค.ศ.2021

ตามด้วยหนังสือพิมพ์ The New York Times ให้การยกย่อง Shou Zi Chew ว่าเป็น CEO ที่เหมาะต่อการเชื่อมโลกธุรกิจระหว่างตะวันออกกับตะวันตก

โดย New York Times ระบุข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยว่า ByteDance มีวิสัยทัศน์คัดเลือก CEO ของ TikTok เป็น Shou Zi Chew เพราะเขาเป็นคนสิงคโปร์

แม้ก่อนหน้านี้ มีการอธิบายเหตุผลที่ Kevin Mayer ได้รับตำแหน่ง CEO ของ TikTok ก็เนื่องจากว่า Kevin Mayer นั้นเป็นชาวอเมริกัน

ซึ่งในช่วงเวลานั้น TikTok ต้องการแสดงตัวให้รัฐบาลสหรัฐรู้สึกว่า TikTok กำลังวางตัวออกห่างจากการเป็นบริษัทสัญชาติจีน

ขณะที่ Shou Zi Chew มีประสบการณ์ และบทบาทการทำงานในโลกธุรกิจทั้งฟากตะวันออก และฝั่งตะวันตก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ Shou Zi Chew เป็นชาวสิงคโปร์ ก็มีส่วนช่วยป้องกันความเสี่ยงจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้น จากทั้งจีน และทั้งสหรัฐ

 

มีการคาดการณ์กันว่า การที่ ByteDance ได้มีวิสัยทัศน์คัดเลือก CEO ของ TikTok เป็น Shou Zi Chew ก็เนื่องมาจากว่า เขาเป็นคนสิงคโปร์

สัญชาติสิงคโปร์ของ Shou Zi Chew น่าจะไม่เป็นปัญหา หรือก่อผลกระทบใดๆ เพิ่มจากปมขัดแย้งหลักที่ TikTok กำลังเผชิญอยู่

นั่นก็คือ ความไม่ไว้วางใจ และความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล และความเป็นส่วนตัวของพลเมืองอเมริกันที่ใช้ Platform สัญชาติจีน