ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 พฤศจิกายน 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | The Gratitude Diary ขอบคุณที่ทำให้ชีวิตนี้มีความหมาย |
ผู้เขียน | ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ |
เผยแพร่ |
1
Good morning America ทำการสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงในโรงเรียนที่สหรัฐอเมริกาจากตลอด 10 ปี โดยขอให้ผู้รอดชีวิตเหล่านี้เขียนจดหมายถึงผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงในอนาคต ในฐานะที่เคยผ่านเหตุการณ์ที่แสนเจ็บปวดมาก่อน
มีแต่ผู้รอดด้วยกันเท่านั้นที่รู้ว่า ไม่ง่ายเลยที่จะรักษาบาดแผลในจิตใจได้ แต่อย่างน้อยผู้รอดก็เข้าใจและเป็นกำลังใจให้กันและกัน
การเขียนจดหมายดังกล่าวไม่ใช่เพียงแต่เป็นการส่งสารถึงผู้รอดในอนาคต แต่ยังเป็นการเขียนจดหมายที่ผู้รอดเองได้พูดคุยกับตัวเองและเยียวยาวจิตใจตัวเองไปด้วย
นี่คือข้อความบางส่วนที่ผู้รอดชีวิตฝากบอกถึงผู้รอดในอนาคต (ผมได้ตัดส่วนที่เล่าถึงรายละเอียดความรุนแรงออกไปแล้วครับ)
“Dear Future Survivor” จดหมายทุกฉบับขึ้นต้นแบบนี้
2
“ฉันเขียนจดหมายฉบับนี้มาหาคุณเพราะฉันรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร ฉันหวังว่าจดหมายฉบับนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นจากความเจ็บปวด”
ผู้รอดบอกว่า แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาสุขภาพจิต ไม่ว่าจะเป็นซึมเศร้า PTSD และ Anxiety บางคนได้รับบาดเจ็บจนปัจจุบันเป็นอัมพาต ต้องใช้ชีวิตบนรถเข็น ทุกคนสูญเสียเพื่อน คุณครู บางคนสูญเสียพี่น้อง มันไม่ง่ายเลยที่จะกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติ
สิ่งที่ทุกข์ทรมานคือ แม้จะรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว บางครั้งบางแวบพวกเขาก็รู้สึกผิด รู้สึกโทษตัวเอง และนั่นคือความรู้สึกที่พวกเขาต้องต่อสู้เป็นปีๆ
“ความรู้สึกผิดจะกัดกร่อนคุณไปบ้าง แต่นั่นแหละคือจุดที่คุณต้องการความช่วยเหลือหรือ Support system”
“ฉันเคยอยู่ในจุดเดียวกับคุณ และฉันอยู่ตรงนี้เพื่อคุณ”
3
ผู้รอดบอกตรงกันว่า ไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นคนเดิมแบบที่เป็นก่อนเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนชีวิต
“ฉันคนเดิมไม่มีวันกลับมาแล้ว แต่แม้ว่าความเจ็บปวดจะยังอยู่ แต่ฉันคนใหม่ก็ได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นมาก”
“คุณจะไม่มีวันกลับไปเป็นคนเดิม แต่คุณจะได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับความเจ็บปวดได้ดีขึ้น บอกตามตรงว่าฉันเองก็ยังไปไม่ถึงจุดนั้น แต่ด้วยความรักจากคนที่รักเรา เราจะไปถึงจุดนั้นได้”
แม้ไม่อาจกลับไปเป็นคนเดิมที่เราเคยรัก แต่ตัวเรา ณ ปัจจุบันที่กำลังเป็นอยู่ก็สมควรได้รับความรักจากตัวเองเหมือนกัน และเรายังคงเป็นความรักของคนรอบข้างอยู่
“การได้เชื่อมโยงกับผู้คนที่ไม่ได้มองฉันด้วยความสงสารหรือตัดสินฉัน ผู้คนที่เป็นเหมือนฉัน เข้าใจฉัน ทำให้ฉันมีกำลังใจมากขึ้น”
“ผมหวังว่าคุณจะได้รู้ว่าคุณเป็นที่รัก และคุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวผู้รอด ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีใครอยากต้องมาเป็นผู้รอด แต่โชคดีที่เรายังมีกันและกัน”
4
แล้วเราจะจัดการกับความเสียใจที่ต้องจากคนรักอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวอย่างไร
“สิ่งที่ยากที่สุดในการสูญเสียคนที่รักจากการกราดยิงคือการที่คุณไม่มีโอกาสได้บอกลา แต่ขอให้คุณจำไว้ว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเขารักคุณ ไม่ว่าคุณจะเคยทะเลาะกัน หรือไม่ทันได้บอกรักกันมากนัก แต่พวกเขารู้นะว่าคุณรักเขา”
“น้องสาวของฉันเป็นคนกล้าหาญมาก เธอบาดเจ็บและพยายามต่อสู้กับความเจ็บปวดมาตลอด 77 นาทีเพื่อมีชีวิตให้ได้ แม้สุดท้ายเธอจะจากไป แต่ฉันบอกตัวเองเสมอว่าฉันจะสู้ จะเข้มแข็งให้ได้เหมือนที่เธอเป็นตลอดชีวิตของฉัน”
ความรักยังคงอยู่ ชีวิตยังคงดำเนินต่อ
5
ทุกอย่างต้องใช้เวลา แต่มันจะค่อยๆ ดีขึ้น ทั้งในแง่การทำใจยอมรับสิ่งที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ และการตั้งใจที่จะประคองชีวิตต่อไปอย่างเท่าทันจิตใจที่อ่อนไหวได้
“ฉันอยากบอกให้คุณรู้ว่าความรู้สึกจะค่อยๆ ดีขึ้น ตอนที่เกิดเหตุกราดยิงที่ Columbine High School ปี 1999 ฉันเป็นนักเรียนมัธยมปลาย และตอนนี้ฉันกลายมาเป็นครูชั้นมัธยมปลายแล้ว”
“ฉันคือผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิง Sandy Hook แต่นั่นไม่ใช่ตัวตนเดียวของฉัน ฉันเป็นลูกสาว พี่สาว เพื่อน และอีกหลายบทบาท”
อย่าให้เหตุการณ์เดียวในชีวิตมากำหนดตัวตนเราทั้งหมด เพราะชีวิตมีอีกหลายเหตุการณ์ หลายมิติ หลายบทบาท ที่ประกอบเป็นตัวเรา
ผู้รอดหวังว่าจะไม่มีใครต้องเจ็บปวดจากการกราดยิงอีก แต่หากในอนาคตจะต้องมีใครที่อยู่ในฐานะผู้รอดคนใหม่ ขอให้รู้ว่า พวกเขาไม่ได้เจ็บปวดเพียงลำพัง
และการมีอยู่ของชีวิตก็ยังมีความหมาย
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022