คอลัมน์ประจำ

‘เซลส์แมน’ ถุงเท้าชมพู ทะลุมิติ | ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน
ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2566
คอลัมน์ลึกแต่ไม่ลับ
ผู้เขียนจรัญ พงษ์จีน
เผยแพร่

ลึกแต่ไม่ลับ | จรัญ พงษ์จีน

‘เซลส์แมน’ ถุงเท้าชมพู ทะลุมิติ

ช่วงนี้ “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อยู่ระหว่างพักเบรกสักแป๊บหนึ่ง หลังรับตำแหน่งแล้วชีพจรลงเท้า เดินสายตะลอนทัวร์ต่างประเทศ คิวไม่ว่างเว้น ภารกิจสุดท้าย คือการเดินทางเข้าร่วมประชุม “สุดยอดอาเชียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ” ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย

นับเป็นการเดินทางเข้าร่วมประชุมบนเวที “นานาชาติครั้งที่ 3” แล้ว ทั้งที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งผู้นำประเทศคนใหม่ได้ยังไม่ถึง 2 เดือน สร้างผลงานรวดเร็ว ฉับไวดุจกามนิตหนุ่มได้มากมายหลายเรื่อง

จับต้องได้ กับบทบาท “เซลส์แมน” ทะลุหลายมิติ เปิดการค้าขาย ทั้งเจรจาส่งสินค้า และผลผลิตทางการเกษตรต่างๆ ของไทยออกไปสู่ตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น เชิญชวนนักธุรกิจและบริษัทชั้นนำระดับโลกมาลงทุนในประเทศไทย ทั้งระดับภาครัฐ-เอกชน สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยว และแรงจูงใจ มีผลเชิงประจักษ์ สัมผัสได้ มากมหาศาล

แต่กลับมีประเด็นดราม่ามากวนปีก ว่อนโลกโซเซียล เว็บ ออนไลน์ ทอล์กออฟเดอะทาวน์ กลับเป็นเรื่อง “ถุงเท้า” ที่คนเห็นต่างนำมาเมาธ์กระจายกันสนั่นลั่นทุ่งมากที่สุด ขึ้นเทรนด์ แฮชแท็กแตก คือภาพที่ “นายกฯ นิด” มีโอกาสเข้าพบปะหารือทวิภาคีกับ “นายวลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย สวมถุงเท้าสีชมพู ปากหอยปากปูหยิบมาวิจารณ์เมามันว่า เป็นการแต่งตัว วิ่งตามเทรนด์แฟชั่น แซะแบบแสบๆ คันๆ ว่า ผู้นำไทยแต่งตัวแบบตุ๊กตาบาร์บี้

ภาพที่นั่งกับผู้นำรัสเซีย ภาษากายสยบสมยอม เมื่อเผชิญหน้ากับผู้มีอำนาจ บารมีที่เหนือกว่าแสดงว่าประสบการณ์ด้านการบริหารประสบผลสำเร็จ หรือธุรกิจไม่ได้ช่วยให้เกิดความมั่นใจในตัวตน

การนั่งเจรจา เหมือนคนไม่สู้ ปรับแต่งถุงเท้า หมุนเก้าอี้ เอามือจับกระดาษบนโต๊ะ ขณะที่ “ปูติน” วางเอกสารลงข้างหน้า เหมือนคนหนึ่งสั่ง คนหนึ่งน้อมรับคำสั่งจากคนที่เข้มแข็งกว่า

นอกจากนั้น ยังนั่งหดตัว มีรอยยิ้มแห้งๆ ก้มศีรษะ หันทั้งร่างกาย ลำตัว หัวเข่า ศีรษะ กระสับกระส่าย ไม่นิ่ง มองโน่นมองนี่อยู่ตลอดเวลาที่สนทนา เพื่อเตรียมพร้อมจะพูดคุย “ภาษากาย” บ่งบอกว่า หวาดกลัว ตึงเครียด มีความกังวลสูงมาก

ไม่เพียงแต่ “ถุงเท้าสีชมพู” ปมเดียววันที่พบกับ “ปูติน” เท่านั้น ตอนไปจีน แชร์ทวิตเตอร์กันสนั่น ตอนที่ “นายเศรษฐา” ลงจากเครื่องบิน ภาพเหมือนกับว่า เจ้าตัวใส่สูทสีลายพร้อย ชวนปวดลูกกะตา แฟชั่นเว่อร์มากไป เหมือนนักร้องขึ้นเวทีคอนเสิร์ต แบบนี้ไม่ใช่แต่งไปร่วมประชุมงานระดับนานาชาติ

แต่ต่อมามีการไขปริศนาว่า เกิดจากภาพถ่าย ปัญหาของการถ่ายวิดีโอ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อผู้ถูกถ่ายสวมเสื้อที่มีลายเส้นถี่ๆ จะสร้างปัญหาของเซ็นเซอร์กล้องถ่ายวิดีโอบางรุ่น ที่ความเร็วของการสแกนภาพ ทำให้ภาพออกมาเพี้ยน ภาพจึงออกมาลักษณะลายพร้อย เป็นลายตาข่าย

ก่อนหน้านี้ ก็โด่นมาแล้วเมื่อครั้ง “นายเศรษฐา ทวีสิน” เดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาติ หรือ “ยูเอ็นจีเอ” ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พบปะกับ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้นำของประเทศต่างๆ พร้อมเอกชนยักษ์ใหญ่ บริษัทธุรกิจหลายแขนง เป็นการเปิดบริสุทธิ์การประชุมนานาชาติหนแรกบนตำแหน่งนายกฯ คนที่ 30

ประเด็นว่าด้วยเสื้อผ้า หน้า ผม ถูกนำมาขยาย ว่างานรัฐพิธี หรือการประชุมระดับโลก ไม่ใช่งานประกวดหนังที่เมืองคานส์ หรือเวทีแสดงแฟชั่น การแต่งตัว มี Dress Code กำหนดไว้เป็นมาตรฐากลางไว้เลย เช่น ผู้ชายต้องเป็นชุดสีเข้ม จะดำ หรือเทา น้ำเงินเข้มได้ ต้องไม่สวมใส่สีอ่อน เน็กไทควรเป็นสีพื้นเรียบๆ ไม่ฉูดฉาด สีแปร๋น ไม่ลายดอก

ถุงเท้า รองเท้าก็เช่นกัน สำคัญมากในระดับสากลต้องเป็นรองเท้าหนังสีดำ หุ้มส้น สมัยก่อนต้องเป็นรองเท้าหนังผูกเชือกสีดำ ต้องขัดมัน รองเท้ากีฬา หรือสปอร์ต ชู ห้ามเด็ดขาด ไม่ให้ใส่ไปร่วมงานรัฐพิธี หรือประชุมระดับนานาชาติเด็ดขาด ขณะที่ถุงเท้าก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ต้องใช้สีเข้มดำ เทาเข้ม น้ำเงินเข้ม ต้องแมตช์กับรองเท้าหนัง ไม่นิยมใช้ถุงเท้าสีอ่อน เช่น ถุงเท้าขาว กับรองเท้าดำ และห้ามใช้ถุงเท้าสั้น ต้องยาวคลุมหน้าแข้ง เพราะกรณีที่อาจเผลอนั่งไขว่ห้าง มีรอยแผล ขนหน้าแข้งโผล่ ดูไม่สง่างาม

ผู้นำหลายประเทศ ถ้าไม่ใส่ชุดสากลสีเข้ม เขาจะอนุโลมให้ใช้ชุดประจำชาติ แบบนี้ถือว่าไม่ผิดกติกา

จริงๆ แล้ว “นายเศรษฐา ทวีสิน” ไม่ใช่ไอ้เท่ง ไอ้หนูนุ้ย นายกฯ จับเบอร์ ลุงเชยเข้ากรุง “หมวดคุณสมบัติ” ในการเป็นผู้นำประเทศ เรี่ยมเร้ พร้อมสรรพทุกองคาพยพ “ทรงลูกพระยานาหมื่น” ครบบริบูรณ์ ประวัติการศึกษา เรียนจบปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจด้านการเงิน เป็นบัณฑิตวิทยาลัยแคลมอนต์ สหรัฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทแสนสิริ ก่อนลาออกมาลงการเมือง

“รสนิยม” ไม่ต้องพูดถึง ของใช้ส่วนตัวระดับแบรนด์เนมลักชัวรี่ ก่อนหน้านี้เป็นนักสะสมนาฬิกา สมฐานะเจ้าของอสังหาฯ ทั้งแอปเปิล โอเมก้า โรเล็กซ์ ปาเต๊ะ ขณะที่รถยนต์พาหนะ มีหลายคัน หลายยี่ห้อดังๆ ล่าสุดตอนเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถอยเลกซัส แอลเอ็ม 350-เอ็กซคลูซีฟ ราคาคันละ 7.5 ล้านบาท สร้างความฮือฮาให้ดูชมมาแล้ว

กล่าวได้ว่า ครบทุกรส สดทุกเรื่อง แต่กลับมาดราม่ากับเรื่อง “ถุงเท้าสีแดง-สีชมพู” แต่ล่าสุด ปลุกกระแสได้พักเดียว เรื่องก็เงียบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อมีผู้รอบรู้ออกมาให้ข้อมูลว่า ถุงเท้าลายสีสัน อย่าว่าแต่ “นายกฯ นิด”เลย อดีตผู้นำสหรัฐ ระดับ “จอร์จ เอช ดับเบิลยู. บุช” อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐผู้ล่วงลับก็นิยมชมชอบ เลือกที่จะสวมใส่ถุงเท้าลายหลากสี ไปร่วมงานในโอกาสต่างๆ อยู่ทุกบ่อย หลายกรรมหลายวาระ

ในทางกลับกัน เมื่อจิ้งจกร้องทัก ถุงเท้าคู่เดียว เปลี่ยนได้ก็เปลี่ยน ไม่เห็นมีอะไรน่าหนักใจ