ธุรกิจ ‘รัสเซียน โอนลี’ ที่จังหวัดภูเก็ต

In this picture taken on February 13, 2023, tourists enjoy Mai Khao Beach in Phuket province. (Photo by Madaree TOHLALA / AFP)

ภูเก็ต เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศไทย มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในระดับโลก ด้วยเหตุนี้จังหวัดที่เป็นเกาะแห่งนี้จึงเป็น “ขุมทอง” ในการก่อร่างสร้างตัว สร้างครอบครัวของทั้งคนไทยในท้องถิ่นและคนจากต่างจังหวัด

แต่พอได้อ่านรายงานของ วิจิตรา ดวงดี ผู้สื่อข่าวของอัลจาซีรา เมื่อ 6 กันยายนที่ผ่านมา ถึงได้รับรู้ว่า สภาพการณ์ที่ว่านั้นกำลังเปลี่ยนแปร เปลี่ยนไปในทางร้ายมากกว่าดีอีกด้วย

รายงานของอัลจาซีรา แสดงให้เห็นว่า ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา มีคนรัสเซียทะลักเข้ามาปักหลักอยู่ในประเทศไทยมากมายเหลือเกิน ส่วนใหญ่เข้ามาพำนักอาศัยแบบ “อยู่ยาว” ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พัทยาและภูเก็ต

เฉพาะที่ภูเก็ต อัลจาซีราระบุว่า ในช่วงระหว่างเดือนมกราคมเรื่อยมาจนถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้ มีคนรัสเซียแห่เข้ามาอยู่ในภูเก็ตมากกว่า 400,000 คน เปรียบเทียบแล้วมากกว่าตอนก่อนเกิดสงครามกับยูเครนถึงเท่าตัว

มีรัสเซียนจำนวนมากไม่ใช่เล่นที่สามารถจัดทำวีซ่าแบบ “ลอง สเตย์” ได้ แล้วก็เข้ามาซื้อหาอสังหาริมทรัพย์ หาธุรกิจประกอบกิจการกันเป็นหลักเป็นฐานขึ้นที่ภูเก็ต ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ตั้งแต่เพื่อหลบเลี่ยงภาวะผันผวนปั่นป่วนทางเศรษฐกิจในรัสเซียที่เกิดจากการถูกตะวันตกแซงก์ชั่น เรื่อยไปจนถึงการหลบหนีการถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเพื่อทำศึกในยูเครน

คนเหล่านี้มีจำนวนมากเสียจน เมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียถึงกับต้องเยือนภูเก็ตเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเปิด “สถานกงสุล” รัสเซียขึ้นที่นั่น เพื่อรองรับพลเรือนของตนเองที่เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ ตลอดจน “หางานทำ” ในดินแดนท่องเที่ยวเลื่องชื่อของโลกแห่งนี้

นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย เปิดที่ทำการสถานกงสุลใหญ่สหพันธรัฐรัสเซียประจำจังหวัดภูเก็ตอย่างเป็นทางการ

รายงานของอัลจาซีราชี้ว่า คนรัสเซียนที่หลั่งไหลกันเข้ามาทวีจำนวนขึ้นมากจนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็วที่ภูเก็ต

ราคาที่ดิน ราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งพรวด ในทางหนึ่งเป็นผลดีต่อผู้เป็นเจ้าของและผู้ประกอบการด้านนี้ แต่ในอีกทางหนึ่ง ค่าเช่าที่ถีบตัวสูงส่งผลให้ยากต่อการที่ผู้คนในท้องถิ่นจะสรรหาแหล่งทำมาหากินที่สมน้ำสมเนื้อพอเอาตัวรอดได้

ถัดมาก็คือการที่ธุรกิจของคนรัสเซียผุดขึ้นตามมาเป็นดอกเห็ดหน้าฝน อาศัยการบริหาร ประกอบกิจการ ผ่านทางแอพพลิเคชั่นที่ใช้ภาษารัสเซีย คนที่ได้รับการว่าจ้างก็เป็นชาวรัสเซียด้วยกันเองที่ลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย แน่นอน ลูกค้าหลักก็ต้องเป็นคนรัสเซียด้วยกันนั่นเอง

อัลจาซีราระบุว่า นี่คือธุรกิจ “รัสเซียน โอนลี” โดยแท้

ธุรกิจ “รัสเซียน โอนลี” ที่ว่านี้แทบครอบคลุมทุกอย่าง ตั้งแต่รถตู้-มินิบัส นำเที่ยว ร้านเสริมสวย มีแม้กระทั่งแหล่งขายบริการทางเพศโดยผู้หญิงรัสเซีย ที่ถนนบางลา ให้บริการผู้ชายรัสเซียนเป็นหลักเช่นเดียวกัน

 

ประยุทธ ทองมุสิก ประธานชมรมคนขับรถตู้ภูเก็ต ที่มีสมาชิกมากกว่า 200 คันบอกกับอัลจาซีราว่า นักธุรกิจรัสเซียเข้ามาสร้างผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตทั้งระบบ คนพวกนี้ใช้รถตู้ส่วนตัว ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนให้บริการกับกรมการขนส่งทางบก แล้วก็ให้บริการผ่านการจองผ่านแอพพ์ภาษารัสเซีย ในสนนราคาที่ถูกกว่าทั่วไปถึงเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์

แน่นอน คนไทยแท้ๆ ในท้องถิ่นก็ต้องโวย เสียงบ่น เสียงต่อว่าต่อขานเรื่องการเข้ามา “ขโมยอาชีพ” ที่สงวนไว้สำหรับคนไทยมีมากถึงขนาดเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องลงมือจัดการ จับกุมผู้ที่เข้ามาลักลอบทำงาน ลักลอบเปิดกิจการโดยผิดกฎหมาย เป็นชาวรัสเซียน 3 รายที่เข้ามาเปิดร้านเสริมสวยที่ภูเก็ตเมื่อเดือนที่ผ่านมา

แนวโน้มที่น่าวิตกอีกประการก็คือว่า ในจำนวนคนรัสเซียที่หลั่งไหลกันเข้ามาในไทย มี “มาเฟีย” หรือพวกอาชญากรรัสเซียเจือปนอยู่ด้วยไม่น้อย อัลจาซีราระบุว่า ในช่วง 2-3 ปีมานี้ พัทยาได้ชื่อว่าเป็นฐานใหม่ของมาเฟียรัสเซียที่หลบหนีการจับกุมไปแล้ว

ที่ภูเก็ตเองเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ก็มีกรณีสังหารนักธุรกิจรัสเซีย ดมิตรี อาเลย์นิคอฟ กลางวันแสกๆ โดยมือปืนชาวคาซัคสถาน

ดังนั้น แม้ว่าทางการภูเก็ตยังคงเน้นย้ำว่า ชาวรัสเซียส่วนใหญ่ที่นี่ยังคงปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ความกังวลก็ยังไม่เสื่อมคลาย

 

เซอร์เกย์ มาลินิน ชาวรัสเซียที่เข้ามาปักหลักทำมาหากินเป็น “ทัวร์ โอเปอเรเตอร์” ในภูเก็ตอยู่นาน 25 ปีบอกว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากความเข้าใจผิดๆ คนที่ลงมือก่ออาชญากรรมอาจเป็นอุซเบ็กส์ เป็นคนยูเครนหรือคนจอร์เจีย แต่ในสายตาคนไทย ทั้งหมดคือรัสเซียน

อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะกฎหมายเกี่ยวกับการทำงานในไทยมีความเข้มงวด มีข้อจำกัดมากมาย ผลก็คือ ผลักดันให้คนรัสเซียที่ต้องการทำงานต้องละเมิดกฎหมายไปโดยปริยาย

แต่ในเวลาเดียวกันการเข้ามาของชาวรัสเซียก็ส่งผลต่อเศรษฐกิจของภูเก็ตไม่ใช่น้อยเช่นกัน

ซิมป์สันมารีน ภูเก็ต บริษัทขายเรือหรูที่นั่นยอมรับกับอัลจาซีราว่า ลูกค้ารัสเซียนคือกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัท ที่เข้ามาซื้อเรือยอชต์คิดเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์

โซเฟีย มาลีเกวา เอเย่นต์อสังหาริมทรัพย์ชาวรัสเซีย บอกว่า มีรัสเซียนไม่น้อย หอบเงิน 20-30 ล้านบาทเข้ามาซื้อหาอสังหาริมทรัพย์ที่ภูเก็ต

มีทั้งที่มาจากเมืองใหญ่อย่างมอสโก หรือรอบนอกอย่างในไซบีเรีย คนเหล่านี้ยังคงมีธุรกิจอยู่ที่นั่น ใช้วิธีการเดินทางไปกลับเอา หรือไม่ก็ทำงานจากที่นี่ แต่ที่คนเหล่านี้ต้องการมากที่สุดก็คือ อยากให้ครอบครัวมาใช้ชีวิตอยู่ที่ภูเก็ต เพราะปลอดภัยกว่าหลายเท่าตัวนัก

คำถามในเวลานี้ก็คือ ทางการไทยจะแยกแยะและจัดการกับเรื่องละเอียดอ่อนเช่นนี้ให้เหมาะสมได้อย่างไรนั่นเอง