นักรักบี้กับความไม่พอใจรูปร่างของตนเอง

พิศณุ นิลกลัด

คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

นักรักบี้กับความไม่พอใจรูปร่างของตนเอง

 

การแข่งขัน Rugby World Cup 2023 หรือ รักบี้ชิงแชมป์โลก 2023 เริ่มวันที่ 8 กันยายน ปีนี้ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ มีทีมรักบี้จาก 20 ประเทศเข้าร่วมแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 48 แมตช์ รอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นวันที่ 28 ตุลาคม

แข่งกันยาวนานถึง 51 วัน เพราะรักบี้เป็นกีฬาที่มีการกระทบกระทั่งกันรุนแรง ดังนั้น ผู้จัดการแข่งขันจึงต้องให้นักรักบี้ได้มีเวลาพักร่างกาย

หลายคนคงเคยชมกีฬารักบี้ซึ่งเป็นกีฬาสุดโหด คนเล่นต้องใช้พละกำลังสูงมากเพราะรักบี้อาศัยการวิ่งเข้าปะทะร่างกายกันโดยตรงแบบไม่มีเครื่องป้องกันเหมือนอเมริกันฟุตบอล หุ่นของนักรักบี้ส่วนมากจะใหญ่กำยำเป็นพิเศษกว่าคนธรรมดาหรือนักกีฬาประเภทอื่นๆ เพื่อสามารถวิ่งชนกับคู่แข่งได้อย่างเต็มกำลัง

เคยมีรายงานการสำรวจมากมายเปิดเผยว่าเพราะมาดแมนและหุ่นบาดใจสาวนี่เอง ทำให้สาวๆ สนใจที่จะออกเดตกับนักกีฬารักบี้มากเป็นอันดับต้นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับนักกีฬาทุกประเภท

แต่ก็มีการศึกษาหนึ่งพบว่าปัจจุบันนี้นักกีฬารักบี้โดยเฉพาะวัยหนุ่มเกิดความไม่พอใจในรูปร่างของตัวเอง ให้ความสนใจเรื่องรูปร่างภายนอกมากเกินไปจนลืมใส่ใจประสิทธิภาพในการแข่งขัน

 

มหาวิทยาลัยโอทาโก (Otago University) ประเทศนิวซีแลนด์ ได้ทำการศึกษากับนักรักบี้อาชีพจำนวน 26 คนที่แข่งขันอยู่ใน Super Rugby ซึ่งเป็นลีกรักบี้ที่แข่งขันในญี่ปุ่นและเขตขั้วโลกใต้ คือ ออสเตรเลีย, นิวซีเแลนด์, อาร์เจนตินา และแอฟริกาใต้

โดยให้ทุกคนตอบแบบสอบถามจำนวน 49 ข้อในช่วงต้นของการซ้อมพรีซีซั่น

เป็นคำถามเกี่ยวกับภาพลักษณ์ทางกาย (Body Image) และนิสัยในการกินอาหาร (Dietary Habits)

เพื่อจะดูว่านักรักบี้แต่ละวัยมีพฤติกรรมและมุมมองแตกต่างกันอย่างไร

 

จากการศึกษาพบว่านักรักบี้วัยหนุ่มจะให้ความสำคัญกับเรื่ององค์ประกอบต่างๆ ของร่างกายมากเกินความจำเป็น ทำให้มีแนวโน้มเลือกจะกินอาหารด้วยวิธีผิดๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการเล่น

ดร.แคทเธอรีนแบล็ก (Dr. Katherine Black) อาจารย์คณะโภชนาการของมนุษย์จากมหาวิทยาลัยโอทาโก ซึ่งเป็นหัวหน้าการศึกษาครั้งนี้ บอกว่ารู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ทราบผลการศึกษา แต่ก็เข้าใจว่าเหตุผลหลักน่าจะเป็นเพราะแรงกดดันจากโซเชียลมีเดียและการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องรูปร่างในอุดมคติของผู้ชายและผู้หญิงที่ทำให้หลายๆ คนรวมถึงนักกีฬารักบี้หนุ่มๆ เกิดห่วงภาพลักษณ์และรู้สึกไม่พอใจรูปร่างของตัวเองขึ้นมา

ในแบบสอบถาม 49 ข้อนั้นเป็นการประเมินคะแนนด้านภาพลักษณ์ของนักกีฬารักบี้ โดยคะแนนวัดจากความต้องการผอม (Drive for Thinness), การกินอาหารมากเกินไปแล้วทำให้อาเจียน (Bulimia) และความไม่พอใจในรูปร่างของตัวเอง (Body Dissatisfaction)

ซึ่งถ้าคะแนนรวมมากกว่า 20 (จาก 100) แสดงว่านักกีฬาคนนั้นมองว่าตนมีภาพลักษณ์ทางกายที่ไม่ดี

 

ดร.แคทเธอรีนพบว่า แม้โดยภาพรวมคะแนนจะออกมาดี แต่ระยะของคะแนนอยู่ระหว่าง 8-39 ซึ่งหมายความว่ามีนักรักบี้บางคนที่มีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ ส่งผลต่อการเลือกกินอาหารอย่างไม่ถูกวิธี

ในบรรดาพฤติกรรมการกินอาหารผิดๆ พบว่ามีนักรักบี้ 4 คนเคยกินอาหารครั้งละมากๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง, มี 1 คนที่เคยใช้วิธีคุมน้ำหนักแบบผิดๆ (เช่นล้วงคอ, ใช้ยาระบายหรือยาลดความอ้วน) และอีก 20 คนหลีกเลี่ยงการกินอาหารบางชนิดที่ทีมโภชนาการจัดหาให้

ซึ่งส่วนใหญ่นักกีฬารักบี้วัยหนุ่มบอกว่า ตนเองชอบกินอาหารเข้าไปเยอะๆ เพื่อต้องการสร้างหุ่นมากกว่าจะกินเพื่อบรรเทาความหิว

 

เดน เบเคอร์ (Dane Baker) หัวหน้านักโภชนาการของ High Performance Sport New Zealand บอกว่า อิทธิพลของโซเชียลมีเดียและโทรทัศน์สร้างความกดดันให้นักกีฬารู้สึกไม่พอใจกับภาพลักษณ์ของตัวเองจนมองข้ามความสำคัญเรื่องฝีมือ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาดังๆ สมัยนี้ต้องออกโชว์ตัวทางโทรทัศน์และโซเชียลมีเดียบ่อยๆ ความกดดันเรื่องภาพลักษณ์ก็โถมเข้ามาใส่พวกเขา จึงมีหลายคนประสบปัญหาเกี่ยวกับการกินอาหาร เช่น กินมากเกินไปเพราะอยากสร้างกล้าม หรือกินน้อยลงเพื่อต้องการลดหุ่น

สิ่งเหล่านี้สร้างผลกระทบต่อการแข่งขันทั้งสิ้น

เบเคอร์บอกว่า ในแต่ละวันนักกีฬาต้องกินอาหารอย่างเหมาะสมเพื่อนำพลังงานมาในใช้การฝึกซ้อม ต่างจากคนทั่วๆ ไปที่สามารถเลือกกินโน่นกินนี่ และหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภทได้

แต่มีนักกีฬาบางคนที่ยังไม่เข้าใจเรื่องโภชนาการกีฬาดีนัก เลือกกินอาหารอย่างที่คนทั่วไปทำกันเพื่อรักษาหุ่น

หากนักกีฬาเข้าใจเรื่องโภชนาการแบบผิดๆ ก็จะส่งผลเสียอย่างมหาศาลต่อการเล่นกีฬา