เรื่องน่าสนใจของหมวกเบสบอล MLB

พิศณุ นิลกลัด

คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

เรื่องน่าสนใจของหมวกเบสบอล MLB

 

การแข่งขันเบสบอล รอบ Playoff ของลีก MLB (Major League Baseball) ในอเมริกา จะเริ่มขึ้นวันที่ 3 ตุลาคมที่จะถึงนี้ มี 12 ทีมผ่านเข้ารอบ Playoff จากทั้งสิ้น 30 ทีมในลีก

สองทีมสุดท้าย จะแข่งชิงแชมป์ประจำฤดูกาลที่เรียกว่า World Series ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม โดยทีมที่ชนะ 4 เกม จะเป็นทีมชนะ

หากเสมอกัน 3-3 เกม จะแข่งเกมที่ 7 เป็นเกมตัดสิน

 

เบสบอลเป็นกีฬาที่ไกลตัวคนไทย แต่มีสิ่งหนึ่งของเบสบอลที่อยู่ใกล้ตัวคนไทยมาก มีที่มาจากกีฬาเบสบอล

นั่นคือ หมวกเบสบอล

ในกีฬาเบสบอล นักกีฬาทุกคนจะสวมหมวกแก๊ปปีกโค้งลงแข่งขันตลอด

จุดประสงค์หลักของการสวมหมวกเบสบอลก็เพื่อป้องกันแสงแดดตอนกลางวัน และแสงสปอตไลต์ตอนกลางคืนที่ส่องเข้าตานักเบสบอล และเป็นสิ่งที่ช่วยแยกให้เห็นผู้เล่นทั้งสองทีมออกจากกันอย่างชัดเจน

ดังนั้น หมวกแก๊ป (baseball cap) ที่มีโลโก้ของทีมจึงเป็นส่วนสำคัญในเครื่องแบบนักกีฬาเบสบอลที่สืบทอดเป็นประเพณีกันมายาวนาน

 

ในอดีต หมวกเบสบอลมีรูปทรงที่หลากหลาย กว่าจะมาเป็นหมวกแก๊ปอย่างในปัจจุบัน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 24 เมษายน 1849 ทีมเบสบอล New York Knickerbockers (นิวยอร์ก นิกเกอร์บ๊อกเกอร์ส) ได้ผลิตเครื่องแบบพร้อมหมวกสำหรับนักกีฬาเบสบอลออกมาใช้งานเป็นทีมแรก ในตอนนั้นหมวกเบสบอลยังเป็นแบบหมวกฟางมีปีกรอบ

หลังจากนั้นไม่นานก็เปลี่ยนมาใช้หมวกแก๊ป

หมวกเบสบอลยุคแรกๆ ที่มีรูปทรงใกล้เคียงกับหมวกในปัจจุบันมากที่สุด เกิดขึ้นในช่วงปี 1860 โดยทีม บรู๊กลิน เอกเซลซิเออร์ (Brooklyn Excelsiors) สวมลงแข่งเป็นทีมแรก

จากนั้นก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ภายหลังมีการเรียกหมวกแก๊ปลักษณะนี้ว่า “Brooklyn style” ซึ่งนับจากตอนนั้นจนถึงปี 1900 หมวกเบสบอลยังไม่ได้ออกแบบมาอย่างทนทานรอบคอบเท่าไร ส่วนปีกหมวกก็ยังไม่ยาวพอที่จะป้องกันแสงแดดได้ ต่อมาภายหลังมีการออกแบบปีกหมวกให้ยาวขึ้น

ปี 1940 ผู้ผลิตหมวกนำยางลาเท็กซ์มาใช้เป็นส่วนประกอบในโครงหมวกแทนที่จะเป็นผ้าบักแร็ม (buckram) เพื่อให้ด้านหน้าของหมวกมีโครงสร้างอยู่ทรง และก็เป็นสิ่งที่ใช้กันมาเรื่อยๆ

โดยผู้ผลิตหมวกเบสบอลปัจจุบันบอกว่าตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้สิ่งที่เรียกว่า ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สุดคือสีของผ้าที่ใช้บนหมวก ส่วนโครงสร้างอื่นๆ บนหมวกแทบไม่ต่างจากในอดีตเลย

 

ทีม Detroit Tigers คือทีมเบสบอลทีมแรกที่นำโลโก้รูปตัว D แปะที่ด้านหน้าของหมวกในปี 1905 หลังจากนั้นโลโก้ทีมก็กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้บนหมวกเบสบอล

โลโก้ทีมที่อยู่บนหมวกจะเป็นงานเย็บปักถักร้อยหลายพันจุด ซึ่งโลโก้ที่มีงานเย็บละเอียดซับซ้อนที่สุดคือโลโก้บนหมวกของทีม Florida Marlins (ปัจจุบันคือ Miami Marlins) โดยโลโก้บนหมวก 1 ใบจะใช้การเย็บทั้งหมด 10,966 จุด

สมัยก่อนหมวกเบสบอลผลิตเป็นขนาดมาตรฐานเท่ากันทุกใบ พอหลังจากปี 1980 ในตลาดก็เริ่มมีหมวกเบสบอลที่มีสายปรับขนาดด้านหลังเพื่อใช้ปรับขนาดหมวกได้พอดีกับศีรษะของคนสวม

แต่ในปัจจุบันหมวกเบสบอลส่วนใหญ่ไม่ค่อยออกแบบให้มีสายปรับขนาดแล้ว แต่ผลิตจากผ้าไลคร่า (lycra) ที่สามารถยืดหดได้พอดีกับศีรษะ ซึ่งเรียกหมวกประเภทนี้ว่า “stretch-fit”

 

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันหมวกเบสบอลยังเป็นที่นิยมสวมในหมู่คนอเมริกันทุกเพศทุกวัยทั้งในและนอกสนามเบสบอล สวมได้แทบทุกโอกาส จนอาจเรียกได้ว่าหมวกเบสบอลคือหมวกประจำชาติของสหรัฐอเมริกาไปแล้ว

สหรัฐอเมริกาขายหมวกเบสบอลได้ปีละมากกว่า 40 ล้านใบ หนึ่งในโรงงานผลิตหมวกที่ใหญ่ที่สุดคือ New Era (นิว เอร่า) ผลิตหมวกได้สัปดาห์ละ 72,000 ใบ

การผลิตและขายหมวกได้มากมายขนาดนี้เป็นที่ชัดเจนว่าหมวกเบสบอลไม่ได้ผลิตเพื่อส่งไปยังทีมเบสบอลเพียงอย่างเดียว กีฬาอื่นๆ อย่างเทนนิส หรือกอล์ฟ ก็นำหมวกเบสบอลไปสวมเพื่อกันแดด

แม้แต่ในเครื่องแบบกองทัพทหารก็มีหมวกเบสบอลที่ติดตราประจำกองทัพอยู่ด้วย อย่างเช่น United States Submarine

สำหรับหลายประเทศทั่วโลก หมวกเบสบอลไม่เพียงแค่ดูดีมีสไตล์ แต่ยังมีความอเนกประสงค์กว่าหมวกแบบอื่น ทุกวันนี้หมวกเบสบอลกลายเป็นส่วนหนึ่งของการแต่งตัวแบบสบายๆ

โดยตั้งแต่ช่วงต้นปี 90 ศิลปินฮิพฮอพในยุคนั้นอย่างไอซ์ คิวบ์ (Ice Cube) และอีซี่อี (Eazy-E) ชอบสวมหมวกเบสบอลตลอดเวลาจนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่คนจดจำ

แม้แต่ผู้กำกับฯ ชื่อดังอย่างสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) และสไปก์ ลี (Spike Lee) ก็สวมหมวกเบสบอลเวลาทำงานและแทบทุกโอกาส…

ก็เลยทำให้หมวกเบสบอลกลายมาเป็นแฟชั่นในการแต่งตัว