‘ทีวีวาที 2566’ ‘สุขุม นวลสกุล’ อำการเมือง แบบ ‘เจ็บปนฮา’

หมายเหตุ “รศ.สุขุม นวลสกุล” อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง นักโต้วาที นักพูด และนักวิจารณ์การเมืองอาวุโส ขึ้นเวที “Talks for Thailand : รัฐ ลวง ลึก” จัดโดยหนังสือพิมพ์มติชน เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมฝากลีลาวิพากษ์การเมืองแนวขำขัน ตามสไตล์รายการโทรทัศน์ “ทีวีวาที” ในอดีต ไว้อย่างน่าประทับใจ

ทีมข่าวการเมือง มติชนทีวี ขออนุญาตนำเนื้อหา/มุขตลกบางส่วนของทอล์กโชว์ดังกล่าว มาเผยแพร่ซ้ำอีกครั้ง ณ ที่นี้

ต้นกำเนิด “ทีวีวาที”

“ขอให้นึกว่าปีนี้เป็นปี 2526 หลายท่านบอกต้องกลับไปฉากเก่า ปีนั้น ทีวีมันไม่มีรายการการเมือง รายการของทีวีไม่ค่อยมีรายการสด ต้องมี กบว.ควบคุม ก็เป็นความอัดอั้นตันใจของผู้คนหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางการเมือง เพราะสมัยนั้น นายกฯ คือ พล.อ.เปรม (ติณสูลานนท์) ท่านไม่ค่อยพูด ก็เลยไม่อยากให้คนอื่นพูด

“เพราะฉะนั้น จะมีรายการสด ก็มีรายการสนทนาปัญหาบ้านเมืองอันเดียวนะครับ นอกนั้น ก็ต้องผ่าน กบว.ก่อน หลายรายการ คนพูดพะงาบๆ ไม่ใช่เพราะว่าใกล้ตายนะครับ แต่เป็นเพราะว่าเขาตัดเสียง ไอ้ที่เขาเห็นว่าเป็นมลพิษแก่รัฐบาล

“ก็เกิดรายการ ‘ทีวีวาที’ ขึ้น คือรายการเอาเรื่องจริงมาพูดให้มันเล่น พูดเรื่องไม่จริงให้มันดูจริงจัง คนพิจารณารายการจะได้เวียนหัว แล้วปล่อยออกมา กว่าจะรู้ก็สายเสียแล้ว

“นี่ถ้าเป็นรายการ ‘ทีวีวาที’ แบบปี 2526 แต่มาพูดปี 2566 ผมอยู่มาหลายปีเหลือเกิน รายการวันนี้สำคัญมากนะครับ สำคัญถึงขนาดอดีตนายกฯ ทักษิณ (ชินวัตร) ยังจะกลับมาดูรายการนี้ ท่านตั้งใจเต็มที่เลย เผอิญเมื่อคืนป่วย ไม่งั้นมาแล้ว”

 

ความสุขวันสุดท้ายของ “เศรษฐา”

“เมื่อวานดูหรือเปล่าครับทีวี ผมไม่เคยเห็นคุณเศรษฐา (ทวีสิน) อยู่ในภาวะมีความสุขมากขนาดนั้น ท่านต้องเก็บไว้นะครับ เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ท่านจะมีความสุข ต้องเก็บภาพนี้ไว้ เพราะหลังจากนั้นนี่หน้าท่านจะเขียว เพราะอะไร? ถูกบีบตลอด

“มีอย่างที่ไหน ไปตั้งรัฐบาลร่วมกับคนคิดไม่เหมือนกัน แล้วนายกฯ เมืองไทยนี่เหมือนถูกสาปนะครับ เห็นดีๆ อยู่ ขึ้นเป็นนายกฯ เสียผู้เสียคนทั้งนั้น

“พูดถึงนายกฯ จากเลือกตั้งเป็นหลัก ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อยู่เป็นหัวหน้าขบวนการเสรีไทย กลายเป็น ‘ฤๅษีเลี้ยงลิง’ ทำไม? เพราะมาเป็นนายกฯ ประเทศไทย

“เสาหลักประชาธิปไตย ท่านคึกฤทธิ์ ปราโมช พอเป็นนายกฯ เขาเรียกกัน ‘เฒ่าสารพัดพิษ’

“ผมจะรู้สึกว่าคนที่เป็นนายกฯ แล้วมีความสุขที่สุด น่าจะเป็นน้าชาติ (พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ) เพราะแกพูดอยู่คำเดียวคือไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา กว่าคนจะรู้ว่าท่านคือตัวปัญหานี่นานไหม? นานอยู่เหมือนกันนะครับ”

 

เรื่องวุ่นๆ ของ “นักการเมือง”

“นักการเมืองหลายคน เวลาเขาจะเปลี่ยน (จุดยืน) เขาก็จะบอกว่าสถานการณ์เปลี่ยนบ้าง ข้อมูลใหม่บ้าง เสียสัตย์เพื่อชาติบ้างล่ะ ล่าสุดคือคำว่า ‘เทคนิคหาเสียง’ แต่รวมแล้วจะเขียนกี่คำก็แล้วแต่ คำเดียวใหญ่ๆ ‘โกหก’

“คนเป็นนักการเมืองบางทีมันก็ไม่รู้ว่าตัวเก่งนะ ผมเคยเป็นเทรนเนอร์นักการเมืองให้เขาหัดพูด โอ้โห! ขึ้นไปพูดนี่ เราฟังแล้วตบมือๆ ตัวแกเองลงมาถามผม ‘อาจารย์ อาจารย์ว่าผมทำได้อย่างที่ผมพูดมั้ยน่ะ?’ คือพอขึ้นเวทีแล้วมันลืมทุกอย่าง ทุกอย่างที่พูดออกไปมันเป็นเทคนิคการหาเสียงทั้งนั้น

“ปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งที่ผมเป็นห่วงท่านเศรษฐา ก็คือ ปัญหาการจัดตั้งรัฐบาล ผมไม่ได้ไปเป็นกับเขาหรอก แต่ว่าผมเคยถาม คือนักการเมืองส่วนใหญ่ ส.ส.มักอยากเป็นรัฐมนตรี

“ผมถามเขานะ อยากเป็นรัฐมนตรี ทำไมถึงอยากมากขนาดนั้น? (เขา) ก็บอกว่า พวก ส.ส.อยากเป็นรัฐมนตรี คนไม่เป็น ส.ส.ยังอยากเป็นรัฐมนตรีเลย แล้วอาจารย์เนี่ยนะถึงจะมีประสบการณ์ยังไง อาจารย์ก็ไม่เคยเป็นรัฐมนตรี อาจารย์ไม่รู้หรอก ความสุขมันแค่ไหน อาจารย์เชื่อไหม? ขับรถนี่มีมอเตอร์ไซค์นำตลอด

“แค่นี้ บางคนก็มีความสุขนะครับ ทำไมไม่เช่ารถป่อเต็กตึ๊งไปเลยล่ะ? เสียงมันดังสนั่นดี

“ท่านคึกฤทธิ์เคยเขียนเป็นหนังสือเลยนะครับ เป็นหลักเป็นฐาน ว่าสมัยที่ท่านเป็นนายกฯ ปัญหาใหญ่ของท่านอย่างหนึ่งคือปัญหาคนอยากเป็นรัฐมนตรีแล้วขอพบ วันๆ มาขอพบเยอะ บางคนนะครับพิมพ์มาให้เสร็จเลย (ร่าง) พระบรมราชโองการ แล้วท่านก็เขียนเปิดเผยเลยนะครับว่า ‘ใครเอามาผมก็เซ็นให้ แต่ผมสั่งหน้าห้องผมแล้ว มึงอย่าส่งต่อเชียวนะ’

“เพราะฉะนั้น ท่านบอกว่า ‘ผมฝากรอยแค้นไว้หลายคน’ เพราะบางคนมาส่งแล้วก็นึกว่าเรื่องผ่านตลอด เซ็นกันแล้ว ถือมากับมือแท้ๆ ไปส่งให้สำนักเลขาฯ แล้ว ไปถึงบ้านก็เกณฑ์พรรคพวกญาติพี่น้องมาเลี้ยงฉลอง รอฟังสองทุ่ม คืนแรกก็ไม่ทัน ต้องเลี้ยงเพิ่มอีกคืนหนึ่ง พอรอสักสามคืน แน่ใจได้ ถูกไอ้เฒ่าสารพัดพิษหลอกอีกแล้ว”

 

นายกฯ ที่พูดอยู่คนเดียว ก็ “ยัวะ” ได้

“ผมเรียนถามท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย ในบรรดานายกฯ นี่ท่านว่าใครก้าวร้าวที่สุด?

“หลายคนบอกเลยว่าสมัคร สุนทรเวช จำภาพลักษณ์ของท่านได้ นักข่าวรุมถามมากๆ ท่านว่า ‘หุบปากซะทีเถอะ’ นักข่าวตกใจเลย ‘ท่านน่ะสิหุบปาก’ บางคนกลั้นใจเถียง ท่านก็สวนอีกที ‘ให้ผมหุบ แล้วถามหาหอกอะไร?’ ทีนี้ก็ตัวใครตัวมันเท่านั้น

“ผมไปบรรยายที่ไหน ถามนายกฯ คนไหนก้าวร้าวที่สุด? คนบอกว่าคุณสมัคร จนตอนมีนายกฯ คนที่ 29 นี่ครับ ตอนหลัง คนชักตอบบิ๊กตู่ๆ

“แต่ผมเห็นว่าสองท่านนี่คล้ายกันอยู่อย่าง เป็นคนมีความสามารถพิเศษทั้งสองท่าน สามารถตรงไหน? พูดคนเดียวก็ยัวะได้ ไม่มีใครพูดสักคำ ท่านพูดๆ อยู่ นึกอยากยัวะ กูยัวะขึ้นมาดื้อๆ หาที่ไหนได้นะครับ”