คลี่ปมลักเด็กจาก รพ. ตร.ล็อกกะเทยแสบ โยงคดี ‘น้องต่อ’ หาย ผงะเงินโอนปริศนา

อาชญากรรม | อาชญา ข่าวสด

 

คลี่ปมลักเด็กจาก รพ.

ตร.ล็อกกะเทยแสบ

โยงคดี ‘น้องต่อ’ หาย

ผงะเงินโอนปริศนา

 

กลายเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่สร้างความหวาดผวาให้กับอีกหลายครอบครัว

สำหรับกรณีคนร้ายบุกลักพาตัวทารกน้อยแรกเกิด วัยเพียง 2 วัน หนีหายออกจากโรงพยาบาลบางเลน ที่ จ.นครปฐม

ทำเอาพ่อแม่ครอบครัวใจสลายด้วยความเป็นห่วง และแม้จะได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิด จนสามารถติดตามคนร้ายและช่วยเหลือเด็กออกมาได้อย่างรวดเร็ว

แต่ก็ส่งผลต่อสุขภาพของทารกน้อยในระดับหนึ่ง โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีอาการเลือดออกในสมอง ไม่รู้จะส่งผลถึงพัฒนาการในอนาคตหรือไม่อย่างไร

กลายเป็นคำถามถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาล

นอกจากนี้ ยังสร้างประเด็นถกเถียงในสังคม เมื่อพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ อยู่บ้านใกล้เคียงกับน้องต่อ เด็ก 8 เดือนที่หายตัวปริศนา ก่อนแม่แท้ๆ จะยอมรับว่าทำพลัดตกเสียชีวิต แล้วกลัวความผิดเอาไปทิ้งน้ำ ซึ่งสุดท้ายยังหาร่างไม่เจอ

เพราะนอกจากจะอยู่ใกล้เคียงกันแล้ว ยังเป็นช่วงที่มีเงินโอนเข้าบัญชีถึง 6 หมื่นบาท

วิพากษ์วิจารณ์ตั้งคำถามถึงขั้นเชื่อมโยงกับเรื่องดังกล่าว หรือเกี่ยวพันกับขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ อย่างไร

เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันทางคดีให้สิ้นสงสัย โดยยึดพยานหลักฐานเป็นหลัก!!!

หน้าห้องคลอด

บุกลักทารก 2 วันจาก รพ.

เหตุการณ์ลักเด็กออกจากโรงพยาบาลนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา โดย สภ.บางเลน จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุทารกแรกเกิดถูกลักขโมยหายไปจาก รพ.บางเลน จึงเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นเด็กชาย อายุเพียง 2 วัน เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 น้ำหนักแรกคลอด 3 กิโลกรัม สุขภาพแข็งแรง เป็นบุตรของ น.ส.ยุพารัตน์ เทศนาม อายุ 26 ปี ชาว อ.บางเลน

โดย น.ส.ยุพารัตน์ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณตี 3 ของวันที่ 13 สิงหาคม นอนให้นมบุตรอยู่บนเตียงโรงพยาบาล ก่อนเผลอหลับไปในช่วงเวลา 04.00 น. พอตื่นขึ้นมาไม่พบลูก ตอนแรกเข้าใจว่าพยาบาลอุ้มไปไว้ที่ห้องเด็กแรกคลอด แต่เมื่อสอบถาม พยาบาลบอกว่าไม่ได้อุ้มไป เมื่อหาโดยรอบไม่พบ และคนไข้เตียงข้างๆ ระบุว่ามีผู้ชายคนหนึ่งมาอุ้มเด็กไป คิดว่าเป็นญาติกันเลยไม่ได้บอก

เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบจากวงจรปิด พบชายต้องสงสัย เข้ามาอุ้มเด็กใส่ถุงผ้าออกไป เช็กภาพด้านนอกโรงพยาบาล พบว่านำถุงผ้าที่คิดว่ามีทารกวัย 2 วันอยู่ในนั้นห้อยแฮนด์จักรยานยนต์ ขี่ออกไป จึงเร่งตรวจสอบหาเบาะแสชายคนดังกล่าว

ขณะที่แม่เด็กก็ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย โพสต์ตามหาลูกในเฟซบุ๊ก จนกระทั่งเวลา 11.00 น. มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเข้ามา ว่ามีชายลักษณะเหมือนกับในวงจรปิด อยู่บ้านในพื้นที่หมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม จึงประสานให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น ก็พบเด็กทารกคนดังกล่าวอยู่ในบ้าน จึงควบคุมตัวนายนันทจักษ์ ศิลป์ประเสริฐ อายุ 43 ปี ผู้ก่อเหตุลักทารกคนดังกล่าวออกจากโรงพยาบาลมาสอบสวน

โดยเจ้าตัวให้การวกวน ไม่เหมือนกัน โดยบางครั้งระบุว่า คิดว่าเด็กคนดังกล่าวเป็นลูกของแฟนเก่า ที่เป็นผู้ชาย และเลิกรากันไปก่อนหน้านี้ ที่มีกับแฟนใหม่ จึงต้องการแก้แค้น บุกห้องคลอดชิงตัวเด็กมา แต่บางครั้งก็บอกว่า อยากมีลูก จึงเข้าไปลักเด็กมาเพื่อจะไปเลี้ยง

ขณะที่แม่ของผู้ก่อเหตุระบุว่า วันเกิดเหตุมีคนโทรศัพท์มาสอบถามว่ามีข่าวออกเรื่องการลักเด็กออกจากโรงพยาบาล โดยภาพชายต้องสงสัยจากวงจรปิดเหมือนกับลูกชายตัวเอง จึงเข้าไปสอบถามลูกว่าทำจริงไหม ก็สารภาพว่าลักเด็กมาจริง โดยคิดว่าเป็นลูกของแฟนเก่า ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่เกี่ยวข้องกันเลยสักนิดเดียว

เชื่อว่าที่ลูกก่อเหตุไปอาจเพราะความหลอน เนื่องจากชีวิตล้มเหลว เลิกกับแฟนที่เป็นผู้ชาย ก็เกิดอาการซึมเศร้า มีการดื่มแอลกอฮอล์ และเสพยาเสพติดเป็นบางครั้ง

ยืนยันครอบครัวไม่ได้รู้เห็นและไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องขบวนการค้ามนุษย์

วงจรปิดมัด

สอบบัญชี-พัวพันน้องต่อ

ขณะที่การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าบ้านที่นายนันทจักษ์อาศัยอยู่นั้นอยู่ตรงข้ามกับบ้านของน้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน ที่หายตัวปริศนาและเป็นข่าวครึกโครมเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยหลังจากสืบสวนสอบสวนนานนับเดือน “นิ่ม” แม่ของน้องต่อ ก็ยอมรับว่าทำน้องต่อหล่นจนเสียชีวิต ก่อนนำร่างไปทิ้งคลองหลังบ้าน แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่พยายามงมหาร่าง ก็ไม่พบ

จึงถูกนำมาเชื่อมโยงกับกรณีดังกล่าว กลายเป็นข้อสงสัยว่า นายนันทจักษ์เกี่ยวพันกับเรื่องนี้หรือไม่

นอกจากนี้ ยังพบพิรุธเกี่ยวกับบัญชีธนาคารของนายนันทจักษ์ ที่เปิดไว้กว่า 10 บัญชี และมีเงินโอนเข้ามานับแสนบาท รวมทั้งอัลบั้มภาพในโทรศัพท์มือถือ ที่มีการบันทึกภาพเด็กไว้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งน้องต่อด้วย

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่เดินทางมาตรวจสอบคดีด้วยตนเอง เปิดเผยว่า สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวนติดตามบัญชีที่ผู้ต้องหาเปิดไว้มากกว่า 10 บัญชี และเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะในวันที่น้องต่อวัย 8 เดือนหายตัวไปคือวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พบมีเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหาจำนวนมากถึง 60,000 บาท โดยโอนเข้ามาในบัญชีถึงสามครั้ง ยอดโอนครั้งละ 20,000 บาท

เมื่อสอบถามตัวผู้ต้องหาไม่สามารถตอบได้ถึงที่มาของเงิน ว่าเงินดังกล่าวมาจากไหน แต่เพื่อให้ความจริงปรากฏตำรวจจะสืบสวนต่อไป ว่ามีการลักเด็กมากกว่านี้หรือไม่ พร้อมนำโทรศัพท์ไปกู้ข้อมูลทั้งหมด พบว่ามีภาพเด็กจำนวนมาก รวมทั้งภาพของน้องต่อด้วย จึงจะเร่งตรวจสอบว่าเด็กคนอื่นๆ ในภาพมีตัวตนหรือไม่ ยังอยู่รอดดีหรือไม่ และเกี่ยวพันข้องกับคดีลักเด็กหรือไม่

ทั้งนี้ ต้องรอผลตรวจของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภายในบ้านผู้ก่อเหตุ เช่น เส้นผม เส้นขน รวมถึงดีเอ็นเอต่างๆ จะพยายามเร่งให้เร็วที่สุด ขณะนี้ให้น้ำหนักไปในเรื่องของการลักเด็ก แต่ก็ต้องดูพฤติกรรมว่าทำประจำหรือไม่ มีความเชื่อมั่นว่ายอดเงินที่โอนเข้ามา 60,000 บาท มีความเกี่ยวพันกับเด็กแน่นอน

ล่าสุด มีการตรวจสอบบัญชีพบว่ามีเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหา 100,000 บาท โอนห้าครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท อยู่ในช่วงคาบเกี่ยวหลังคดีน้องต่อหายตัวไป รวมเงินเข้าบัญชี 160,000 บาท

อย่างไรก็ตาม นิ่ม แม่ของน้องต่อ ก็ยืนยันว่านายนันทจักษ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เคยเห็นหน้าเพราะมาซื้อเบียร์ หรือตะโกนสั่งให้เอาเบียร์ไปส่ง ไม่เคยมายุ่งกับน้องต่อ ส่วนคดีน้องต่ออยู่ในกระบวนการยุติธรรม ให้การไปหมดแล้ว

อย่างไรก็ต้องรอผลสอบสวนจากเจ้าหน้าที่อย่างเป็นทางการ

สอบเครียด

รพ.เร่งมาตรการป้องกัน

โดยนายนันทจักษ์ชี้แจงว่า บัญชีที่เปิดไว้นั้น เป็นการเปิดพอร์ตเกี่ยวกับการลงทุนในสมัยที่ยังทำงานอยู่ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการลักเด็กหรือค้ามนุษย์ ส่วนรูปเด็กที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ เป็นเพราะชอบเด็ก รูปน้องต่อที่มีก็เป็นรูปที่เซฟมาจากข่าว ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ

ทั้งนี้ ระหว่างรอผลสืบสวนเพิ่มเติม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับนายนันทจักษ์ 4 ข้อหา คือ 1.ความผิดฐานพรากผู้เยาว์ 2.บุกรุกสถานที่ราชการในยามวิกาล 3.เสพยาเสพติด และ 4.กักขังหน่วงเหนี่ยว

ขณะที่ทารกวัย 2 วันที่ช่วยเหลือออกมาได้นั้น พบว่ามีอาการสมองบวม ต้องเฝ้าดูแลใกล้ชิด และส่งตัวไปเฝ้าดูอาการที่โรงพยาบาลนครปฐม

โดย นพ.กมลลักษณ์ จินดาไตรรัตน์ ผอ.รพ.บางเลน อ.บางเลน ระบุว่า โรงพยาบาลขออภัยและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันโรงพยาบาลมีมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่คาดว่าคนร้ายน่าจะเคยมาดูลาดเลาไว้ก่อนหน้านี้ จึงรู้ทางหลบหลีกเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี

หลังจากเกิดเหตุเด็กหาย ทางโรงพยาบาลแจ้งตำรวจ สภ.บางเลนทันที และเร่งติดตามจากกล้องวงจรปิดจนสามารถจับตัวคนร้ายและได้เด็กคืนมา อาการของเด็กตอนนี้หลังจากผู้ต้องหาซื้อนมกล่องให้เด็กกินทำให้เด็กท้องเสีย ให้ยาฆ่าเชื้อ 5 วัน และให้สารอาหารแบบน้ำ

ทั้งนี้ โรงพยาบาลพร้อมรับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากกรณีนี้ และติดตามอาการอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องไปตลอดจนกว่าน้องจะหายดี

ซึ่งผลสแกนสมองพบว่าเด็กมีเลือดคั่งในสมองบริเวณด้านท้ายศีรษะ มีเลือดไหลออกทั่วบริเวณด้านหลัง ซึ่งคาดว่าเกิดจากการกระแทกขณะที่นำเด็กใส่ถุง แขวนบนแฮนด์จักรยานยนต์ แต่ว่ายังไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัด ทั้งนี้ ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ยาที่เกี่ยวกับอาการชักด้วย และต้องติดตามอาการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับพัฒนาการเด็กในระยะยาว

เป็นเรื่องที่ต้องดูแลใกล้ชิดต่อไป