2 ตัวตึง ‘ชูวิทย์-จตุพร’ Offside-Inside ฟันธงสวนกระแส 10 ส.ค. ทักษิณ ‘เลื่อน’ กลับบ้าน

กลางกระแสข่าวอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จะกลับบ้านในรอบ 17 ปี วันที่ 10 สิงหาคมนี้

แต่ดูเหมือนข้อมูลจาก 2 ตัวตึง นั่นก็คือ หนึ่ง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ สอง จตุพร พรหมพันธุ์ จะเห็นต่าง โดยใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวแพร่กระจายข่าวว่าทักษิณจะไม่ได้กลับอย่างต่อเนื่อง

จากเฟซบุ๊กกระจายไปสู่สื่อออนไลน์ และสื่อกระแสหลัก อย่างรวดเร็ว

ปรากฏการณ์ Offside-Inside ของชูวิทย์ และจตุพร ที่ให้มุมมองที่แตกต่างนั้น ทำให้ทั้งสองถูกเชิญไปออกรายการวิเคราะห์ข่าวการเมืองที่มีคนเสพข่าวนับแสนนับล้าน หลายช่องหลายสำนักข่าวยอดนิยม กลายเป็นกระแสข่าวที่ “เห็นต่าง” ซึ่งได้รับความสนใจอย่างสูง บนสมมุติฐานคือ ทักษิณไม่ได้กลับ

จากปลายเดือนกรกฎาคม เรื่อยมาจนถึงต้นสิงหาคม ชูวิทย์และจตุพร เปิดบทวิเคราะห์ เกาะติด ประเด็นทักษิณกลับบ้าน แบบรายวัน พร้อมเปิดประเด็นใหม่ที่เร้าใจ และชวนติดตาม จนกลายเป็นการสร้างกระแสชี้นำการเมือง ที่เชื่อมโยงการกลับบ้านของทักษิณกับดีลจัดตั้งรัฐบาล และสูตรจัดตั้งรัฐบาลที่ต้องไม่มีพรรคก้าวไกล

Offside-Inside ของชูวิทย์และจตุพร แบบรายวัน ทำให้ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ตกเป็นฝ่ายตั้งรับกระแสข่าวที่กึ่งจริงกึ่งเท็จ และข่าวลือที่ปลิวว่อนไปทั่วตลาดการเมือง จนแยกไม่ออกระหว่างเฟกนิวส์ และข้อเท็จจริง

 

ชูวิทย์เปิดประเด็นฮือฮา เรื่อง “ฮ่องกงซูเปอร์ดีล” เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม โดยชูประเด็นว่า ทักษิณกลับไทย ในสถานการณ์การเมืองที่ประธานสภาเลื่อนการโหวตนายกฯ พรรคเพื่อไทยยกเลิกหมายประชุม 8 พรรค ขณะที่พรรคก้าวไกลไม่ถอย ไม่ลดเพดานมาตรา 112 ขณะที่ ส.ว.ยืนยันเสียงแข็ง “มีก้าวไกล ไม่มี ส.ว.”

“ทุกอย่างก้าวไปไหนไม่ได้ ถึงทางตันของแท้ เพราะไม่มีใครยอมถอย แต่ภาวะเงียบสงบเชื่อมโยงไปถึงสัญญาณเจรจาที่ ‘ฮ่องกง’ กับทักษิณ แกนนำเพื่อไทย ศาสดาก้าวไกล อำนาจเก่า ทหาร นายทุนใหญ่ แกนนำพรรคขั้วอำนาจเดิม ทุกอำนาจไปเคลียร์เพื่อปิด ‘ซูเปอร์ดีล’ ที่ฮ่องกง ก่อนข่าวออก ‘ทักษิณกลับบ้าน 10 สิงหาคม’ ตกลงซูเปอร์ดีลได้ปิดจ๊อบให้ความมั่นใจระดับทักษิณเตรียมแพ็กกระเป๋ากลับบ้าน ทุกอำนาจพยักหน้ายอมรับ ‘ซูเปอร์ดีล’ เกมเหนือเมฆ ลงตัวที่นายกฯ ตัวสูงๆ แต่ซูเปอร์ดีลจะคุ้มกับความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้หรือไม่? หนึ่งคนแลกกับ 26 ล้านเสียง อนาคตไม่กี่วันได้คำตอบ”

การเปิดประเด็นของชูวิทย์ กลายเป็นประเด็นข่าวใหญ่ทางการเมือง ที่สภากาแฟถกกันอย่างเผ็ดร้อน โดยถัดมาอีก 3 วัน 29 กรกฎาคม 2566 ชูวิทย์ออกมาฟันธงว่า “ทักษิณยกเลิกกลับไทย”

จนทำให้อุ๊งอิ๊ง ทายาททักษิณและแคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทย ต้องออกมาตอบโต้ว่า “เพ้อเจ้อ”

แต่ชูวิทย์ก็ดูจะเชื่อข้อมูลของตนเอง โดยโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลว่า “หากใครคิดว่าทักษิณจะกลับมาไทยวันที่ 10 สิงหาคม แล้วมีตำรวจ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปรับตัว และนำหมายศาลพาตัวเข้าเรือนจำเพื่อรับโทษ 3 คดี รวม 10 ปี ตามปกติ ต้องถือว่าคิดผิด ไม่รู้ใจทักษิณ”

“หากจะทำแบบนั้นจริงคงคิดได้ไปนานแล้ว ไม่ต้องรอถึง 15-16 ปี ทักษิณออกจากไทยในสมัยอดีตนายกฯ สมัคร สุนทรเวช เมื่อปี พ.ศ.2551 แล้วไม่กลับมาอีกเลย ยิ่งจะมากลับเอาช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ที่กำลังร้อนแรงเรื่องการโหวตหานายกฯ และจัดตั้งศูนย์อำนาจใหม่บริหารประเทศ กำหนดการกลับบ้านวันที่ 10 สิงหาคม จึงต้องมี ‘วาระพิเศษ’ แน่นอน”

ชูวิทย์ชี้อีกว่า คนระดับอดีตนายกฯ จากบ้านไป 16 ปี ย่อมต้องการกลับมาบ้านเกิดเป็นเรื่องปกติ แต่ครั้นจะกลับมาโดยไม่มีอำนาจคงกลับมานานแล้ว ไม่ต้องมากลับเอาช่วงนี้ เกมแห่งอำนาจ แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ หากไม่มั่นใจทักษิณไม่กลับแน่นอน จึงบอกได้ว่า 4 สิงหาคมนี้ ต้อง “ยื้อ” ดึงเช็งสุดฤทธิ์ ตอนนี้ขอถอยไปตั้งหลักก่อน ยกเลิกแผนกลับไทยไม่มีกำหนด จนกว่าจะตั้งรัฐบาลลงตัว

“ส่วนใครว่าผม ‘เพ้อเจ้อ’ ผมไม่โกรธหรอกครับ เข้าใจดีว่าคุณอุ๊งอิ๊งอยากให้คุณพ่อกลับบ้าน เป็นเรื่องของความกตัญญู ส่วนผมพูดในฐานะคนไทยคนหนึ่งเท่านั้น”

 

คู่ขนานไปกับการเปิดประเด็นของชูวิทย์ จากทักษิณกลับบ้านไปจนถึงจุดเปลี่ยน ทักษิณยกเลิกแผนกลับไทย ก็คือ “จตุพร พรหมพันธุ์” วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ที่ฟันธงเสียงดัง ทักษิณไม่ได้กลับบ้าน

26 กรกฎาคม 2566 จตุพร พรหมพันธุ์ เฟซบุ๊กไลฟ์ตอนหนึ่งว่า ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา ทักษิณประกาศโกหกเรื่องการกลับบ้านได้ 100% โดยไม่เคยเกิดขึ้นเป็นจริงเลยร่วม 20 ครั้งที่ได้ประกาศไว้ มาครั้งนี้อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวรีบแจ้งกำหนดวันทักษิณจะกลับวันที่ 10 สิงหาคมนี้ มาลงเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง ดังนั้น จึงต้องฟังหูไว้หูก่อนจะเชื่อเป็นความจริง

ถัดมาอีก 3 วัน 29 กรกฎาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ชี้ว่า ดีลตั้งรัฐบาล พร้อมเงื่อนไขเดินทางกลับไทยอย่างเท่ๆ ของทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ได้จบสิ้นลงแล้ว เนื่องจากไม่แน่ใจกรณีติดคุกค้างคืนจะได้รับอภัยโทษคดีทุจริต จึงเป็นความผิดพลาดไม่รู้จักจำกับการดีลถึง 20 ครั้งในรอบ 17 ปีที่พยายามหาทางกลับบ้าน

“ทักษิณกลับไทยเพื่อมาติดคุกนั้น คุกไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่ต้องตัดใจได้และไม่คิดอะไรมาก ขอเพียงให้มีจิตใจผ่องแผ้วจะได้รับรู้ถึงเวลาในคุกเดินทางได้รวดเร็ว หากตัดใจไม่ได้ การประกาศกลับบ้านกี่ครั้งก็เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ผมยังเชื่อว่าวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ทักษิณจะไม่มาตามที่ประกาศเอาไว้”

 

ตู่ จตุพร ออกตัวว่า ถ้าประเมินผิด ทักษิณกลับบ้าน 10 สิงหาคม ก็พร้อมยินดีจะหน้าแตก และยินดีหากจะมีรถทัวร์แวะลงที่ตนเอง เหตุผลและความเชื่อของจตุพร ก็คือ ไม่เคยมีผู้ต้องคดีทุจริตคอร์รัปชั่นได้รับอภัยโทษ

“ความเป็นจริงแล้ว เมื่อเข้าไปอยู่ในคุก สิ่งที่รับปากกันง่ายๆ จะไม่มีอยู่จริงเลย ทั้งการขอพระราชทานอภัยโทษ แม้สามารถยื่นได้ แต่กระบวนการต้องใช้เวลา และที่สำคัญคดีทุจริตแทบไม่เคยได้รับการอภัยโทษเลย ผลลัพธ์การดีลกลับไทยนั้น คงยุติลงสิ้นเชิงแล้ว”

“ผมเชื่อว่า 10.30 น.ของวันที่ 10 สิงหาคม จะไม่เห็นเครื่องบินลงที่สนามบินดอนเมือง เพียงแต่ว่า เวลาถัดจากนี้ไปจะหาเหตุผลอะไร อย่างที่ผมบอกก็อ้างป่วยเสียเถอะ เพราะเมื่อเข้ามาจริงๆ แล้ว ถ้าไม่เป็นตามที่ประกาศไว้ จะติดคุกมากกว่า 3 ปีแน่”

นายจตุพรยกกรณีนายวัฒนา เมืองสุข ที่ติดคุกว่า ต้องติดอยู่ถึง 8 ปีก่อนจะยื่นลดโทษได้ และคดีทุจริตไม่เคยมีการอภัยโทษให้ด้วย จึงอยากให้คิดให้ดี แต่เชื่อว่า ทักษิณจะไม่กลับมา เพราะที่รับฟังมานั้นเป็นการเข้าใจผิด ดังนั้น ถ้าจะกลับมาแล้ว หลังจากลงเครื่องบินจะต้องสูญเสียอิสรภาพไปอีกนาน

“ผมจึงสรุปความชัดเจนได้ว่า วันที่ 10 สิงหาคม ทักษิณไม่กลับไทย เวลา 10.30 น. จะไม่เห็นตัวที่สนามบิน หากหาเหตุผลไม่ได้ก็อ้างป่วยเสียเถอะ เพราะความจริงแล้วสุขภาพก็ไม่ดีอยู่แล้ว ผมว่าไปรักษาตัวดีกว่า”

นับเป็นคำแนะนำและความหวังดีของตู่ จตุพร ที่คนในครอบครัวชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ไม่คิดจะรับไว้พิจารณา

เพราะไม่เพียงจะชี้ว่าทักษิณไม่ได้กลับบ้านเท่านั้น จตุพรยังแฉว่า เบื้องหลังเหตุการณ์ปฏิวัติ 2557 ผู้เปิดประตูให้ทหารยึดอำนาจคือ ทักษิณ

จนทำให้เกิดการโต้ตอบกันอย่างเผ็ดร้อนระหว่าง ตู่ จตุพร กับ เต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ไม่เชื่อ

 

การเปิดประเด็นทักษิณ เปลี่ยนแผนไม่กลับไทยแล้วของทั้งชูวิทย์ และจตุพร สอดประสานไปในทิศทางเดียวกัน ราวกับได้มาจากแหล่งข่าวหรือบทวิเคราะห์ชุดเดียวกัน

10 สิงหาคม ถ้าทักษิณกลับไทย ชูวิทย์กับจตุพรก็คงหน้าแตก ทัวร์ลง ต้องเอาปี๊บคลุมหัว

แต่ถ้าทักษิณเปลี่ยนแผน “ไม่กลับ” สำนักข่าวชูวิทย์และจตุพร คงจะได้รับการยอมรับมากขึ้นไปอีกช่วงเวลาหนึ่งอย่างแน่นอน