คดีก๊วน ‘ผู้การชลบุรี’ รีด 140 ล้าน หมากร้อนบนกระดาน ‘อำนาจ’

ไม่ใช่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เท่านั้นที่เป็น “นกรู้” คดี “ผู้การอ๊อด” พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี และนายตำรวจอีก 7 คน ถูกกล่าวหารีดทรัพย์เว็บพนันออนไลน์ “Foxbet 168” จากกลุ่มของ “เป้” นายธนินวัฒน์ อุดมเชาวเศรษฐ์ และพวกรวม 6 คน กว่า 140 ล้านบาทนั้น เป็นยุทธการแซะเก้าอี้ ผบ.ตร.คนต่อไป

บิ๊กสีกากีวงในตั้งข้อสังเกตจากที่ผู้รับผิดชอบปฏิบัติการอย่างเงียบเชียบก่อนปรากฏเป็นข่าวดัง มีนัยยะแอบแฝง สกัดเส้นทางสู่อำนาจใครหรือไม่?

ข่าวเล็ดลอดออกมาว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ หรือ “บิ๊กเด่น” นามเรียกขาน “พิทักษ์ 1” ควันออกหู ในฐานะผู้บัญชาระดับสูงสุดองค์กร แต่กลับได้รับรายงานคดีนี้หลังสุด

ทันที “บิ๊กเด่น” รับทราบได้ทำการกวาดบ้านตามนโยบายที่ประกาศไว้ สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน มี “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีตำรวจภูธรภาค 1, ภาค 2 ร่วม และลงนามในคำสั่งเมื่อ 17 มิถุนายน ให้ พล.ต.ต.กัมพล และตำรวจภูธรภาค 2 รวมทั้งกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) รวม 8 นาย มาช่วยราชการ ศปก.ตร. จนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในฐานะหัวหน้าคณะสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีนี้ได้รับลูกเรียกประชุมคณะทำงานทันที พร้อมเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งประมาณ 3 วันที่แล้ว ยอมรับว่าตอนแรกยังไม่เชื่อ เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ จึงแจ้งผู้ร้องเรียนไปว่าหากตรวจสอบแล้วไม่จริง ต้องรับผิดชอบ ผู้เสียหายยืนยันว่าจริง และมีหลักฐานมาให้ดู

จากนั้นผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี พื้นที่ส่งมอบเงินด้วย

 

รองโจ๊กเล่าถึงฟางเส้นสุดท้ายก๊วนเว็บพนันโดนรีด ตัดสินใจร้องเรียนตำรวจว่า เนื่องจากทนไม่ไหวกับการถูกเรียกเงินมากขึ้น จากเดิมเคยจ่ายเท่านี้ แต่ระยะหลังจ่ายมากขึ้น ชนิดที่เรียกว่าหนักหนาสาหัสจนเกินกว่าจะรับได้

ผู้เสียหายยอมรับว่าสิ่งที่ตัวเองทำก็เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ไม่ขอทนจ่ายเงินกับก๊วนผู้การชลบุรีอีกแล้ว เบื้องต้นตรวจสอบข้อมูล ทั้งหมดมีมูลความจริง

“ตำรวจมีเส้นแบ่งบางๆ หากก้าวข้ามไป จะเปลี่ยนจากตำรวจเป็นโจร เมื่อเป็นโจรก็ต้องถูกดำเนินคดี เพื่อไม่ให้ประชาชนหมดศรัทธา วันนี้ตำรวจต้องปรับตัว เอางานนำ ไม่ใช่เงินนำ” รอง ผบ.ตร.คุมงานสืบสวนระบุ

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับ จาก 8 คนเป็น 10 คน ต่างทยอยขอมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหา มาตรา 157 ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ มาตรา 149 เรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ชอบ และมาตรา 309 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืน

ส่วนผู้ต้องหาพลเรือน 3 คน นายพิสิษฐ์ หรือต้น คณิศรพาณี และนายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ ทำหน้าที่เป็นหน้าเสื่อเคลียร์ เจ้าของวลี “เนียนกริ๊บ พี่เคลียร์ให้…” และ น.ส.ลัดดาวัลย์ วงศ์ปรัชญา ภรรยาบอย โดน 2 ข้อหา คือร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน และร่วมกันในการกระทำการเอาทรัพย์ผู้อื่นไป

มีการขยายผลตำรวจ 4-5 นาย และพลเรือนอีก 4-5 คน

เป็นที่รับทราบกันว่า พ.ต.ต.พรเทพ เพ็รชนวล สารวัตรสอบสวบ สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง 1 ใน 8 ก๊วนผู้การชลบุรี สนิทสนมกับ “บอย”

นอกจากนี้ ชุดเฉพาะกิจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส.ภ.จว.ชลบุรี บิ๊กโจ๊กบอกว่า “บอย” ร่วมผู้การชลบุรี ตั้งศูนย์นี้ขึ้นมา รวมถึงเป็นคนคัดเลือกตำรวจชุดนี้ด้วยตนเอง เพราะ “บอย” สามารถสั่งการตำรวจได้ ที่บุคคลเหล่านี้มีอำนาจมากกว่าตำรวจเพราะว่ามีผลประโยชน์ ตำรวจจึงให้อำนาจ เปรียบเสมือนเป็นนอมินีจนมีอำนาจยิ่งใหญ่กว่า ผกก.ทุกสถานีตำรวจภาค 2

“เพราะตำรวจไปใช้คนเหล่านี้ ทำให้ยิ่งใหญ่กว่า ผกก.โรงพัก ถ้าไปถามตำรวจและชาวบ้านในภูธรภาค 2 เขารู้หมดว่าคนกลุ่มนี้ใหญ่กว่า ผกก. สั่ง ผกก.ได้ การที่พวกนี้มีอำนาจเพราะตำรวจไปให้อำนาจ คนเหล่านี้เปรียบเสมือนเป็นนอมินีไล่ล่าเงินด้วย แล้วเอาเงินที่ได้มาแบ่งตำรวจ”

เพราะฉะนั้น จึงเห็นภาพว่า “บอย” คือคีย์แมนที่คอยเคลียร์คดีจากผิดให้พ้นผิด โดยมีค่าใช้จ่ายสูงลิ่ว แต่รับประกันว่าจบ ด้วยคอนเน็กชั่นเข้าถึง “บิ๊กเนม”

แวดวงสีเทาภาคตะวันออก รู้จัก “บอย” ว่าเติบโตในเส้นทางจากหัวหน้าแก๊งหมวกกันน็อก แล้วค่อยๆ รู้จักคนมีสี ไต่เต้าระดับธุรกิจขึ้นเรื่อย รับหน้าเสื่อเคลียร์คดีกลุ่มมาเฟียเทาให้ตำรวจ มีความยิ่งใหญ่มาก เพราะฉะนั้น เมื่อโดนดำเนินคดีเป็นเป้าหมาย ป.ป.ง.ยึดทรัพย์ด้วย

 

ขณะที่นายธนินวัฒน์ หรือเป้ อุดมเชาวเศรษฐ์ เจ้าของเว็บพนัน ที่ “บอย” เป็นคนชี้เป้าให้ตำรวจรีด ถึงเวลา “บิ๊กโจ๊ก” เช็กบิล สาวไปถึงเว็บในต่างแดนโยง ‘สารวัตรดัง’ ด้วย

เพราะถือว่า เมื่อ “เป้” ทำผิดกฎหมาย กล้ากินดีหมีหัวใจเสือแจ้งความเอาผิดตำรวจ แสดงว่าพร้อมแลกกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีประเด็น ศปอส.คุมตัว “เป้” ไปตรวจค้นบ้านพักย่านคลองสามวา แล้วไม่ได้ส่งพนักงานสอบสวนโรงพักพื้นที่ แต่นำตัวไปที่ บก.ภ.จว.ชลบุรี เพื่อรีดทรัพย์ห้องทำงานผู้การ เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.อุ้มหาย อาจเป็นกรณีแรกที่โดนดำเนินคดีกับตำรวจ

จากนั้นคุมตัว “เป้” ไป ภ.จว.ชลบุรี ไปพบกับ พล.ต.ต.กัมพล จนเกิดวลีที่เป็นไวรัลว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่ ให้เป้เขียนมาเลย” จึงเพิ่มเป็นจำนวนเงินถึง 140 ล้านบาท และนัดจ่ายเงิน 5 สถานที่

แต่ถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเงินที่ถูกรีดไถนั้นอยู่ที่ใด และยังระบุไม่ได้ว่ามีนายตำรวจยศสูงกว่าผู้การชลบุรีที่ร่วมกระทำผิดหรือไม่ รอง ผบ.ตร.คุมสืบสวนเร่งตรวจสอบว่าใครเป็นผู้สั่งการ

 

แวดวงสีกากีให้น้ำหนักว่าคดีนี้ ‘ผู้การอ๊อด’ รีดทรัพย์เจ้าของเว็บพนันมือหนัก ในหน้าประวัติศาสตร์ไม่เคยมีมาก่อน ยังไม่รวมขอหุ้นลมอีก แต่ขณะเดียวกันเห็นบางอย่าง “แอบแฝง” ในคดีนี้ด้วย

ตัวละครบางตัวที่เข้าไปเกี่ยวโยงสังกัด ถ้ามองปราดเดียวอาจคิดได้ว่ามีความไม่ปกติอยู่หรือไม่ ตรงนี้ต้องพิสูจน์ให้เคลียร์

ไม่เช่นนั้น ถ้าตั้งโจทย์ไว้ แล้วให้ได้คำตอบตามที่ตั้งไว้ ระหว่างทางมีความไม่เที่ยงตรง เนื่องจากพิจารณาโดยไม่สุจริตเกิดความบกพร่องได้

ยิ่งคดีนี้ถือว่าเป็นคดีใหญ่มีความสำคัญ ภายใต้การจับจ้องอย่างเกาะติดของสาธารณชน มีกระบวนการยุติธรรมปลายน้ำเป็นเครื่องพิสูจน์

เพราะฉะนั้น อย่าทำให้ถูกมองว่าเป็นแค่หมากร้อนบนกระดาน ‘อำนาจ’ ของบิ๊กสีกากี