“รากปลาไหลเผือก” สมุนไพรบันดาลแรงให้คุณลุง

หลังเลือกตั้ง บรรดาคุณลุงกองเชียร์ของทุกพรรคต่างอ่อนแรงไปตามๆ กัน ถ้าคิดจะลุ้นกันต่อก็คงต้องหายาดีมาโด๊ปให้มีเรี่ยวแรงเสียก่อน (ฮา)

ในวัฒนธรรมสุขภาพของชาวมลายูรวมทั้งปักษ์ใต้บ้านเราเขามีสมุนไพรทีเด็ดเคล็ด (ไม่) ลับชนิดหนึ่ง ซึ่งช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและที่สำคัญคือทางเพศด้วย ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อ “ตงกัทอาลี” (Tongkat Ali) แต่คนไทยให้ชื่อว่า “ปลาไหลเผือก” (ชื่อพฤกษศาสตร์ Eurycoma longifolia Jack.)

แต่ดูเหมือนชื่อมลายูจะสื่อสรรพคุณได้ชัดเจนกว่าในความหมายว่า “ไม้เท้าของท่านอาลี” (ตงกัท แปลว่า ไม้เท้า) เพราะเอกลักษณ์สำคัญของต้นปลาไหลเผือกอยู่ที่มีรากยาวมากๆ ถึงขนาดทำไม้เท้าของท่านผู้เฒ่าได้เลย จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “พญารากเดียว”

มีเรื่องเล่าของชาวมาเลย์ว่า ท่านอาลีเป็นนักรบเก่งฉกาจ มีพละกำลังมหาศาล จึงเป็นการเปรียบเปรยว่า สมุนไพรชนิดนี้มีสรรพคุณที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงทรงพลังเหมือนท่านนักรบอาลีนั่นเอง

ในทางแพทย์พื้นบ้านไทย รากปลาไหลเผือกใช้ต้มน้ำดื่มเพื่อบำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย และแก้ไข้ พวกพรานไพรเดินดอยหรือนายฮ้อยทมิฬต้อนฝูงควายฝ่าดงพญาไฟมาได้ก็โดยอาศัยรากเอียนด่อน (ชื่อปลาไหลเผือกในภาษาถิ่นอีสาน) ต้มดื่มตัดไข้ป่าที่ชุกชุม แถมยังเชื่อกันว่ารากไม้นี้เป็นยาคงกระพันชาตรีอีกด้วย

ทั้งหมอหลวงและหมอพื้นบ้านต่างใช้รากปลาไหลเผือกเป็นส่วนประกอบสำคัญในตำรับยาหลายขนาน เช่น “ยาสามราก” ประกอบด้วย รากปลาไหลเผือก (เอียนด่อน) รากพญาไฟ (ฮังฮ้อน) และรากโลดทะนงแดง ช่วยทำให้อาเจียน ล้างยาเสพติดและถอนพิษสุราเรื้อรัง หรือประกอบกับหัวแห้วหมู รากผักติ้ว เป็นยาขับปัสสาวะ ขับนิ่วไต ทั้งเป็นตัวยาตัดไข้ในตำรับยาหลวงอย่าง “ยาจันทน์ลีลา” เป็นต้น

ในการศึกษาทางเภสัชวิทยาและทางคลินิกของปลาไหลเผือก พบว่าสารออกฤทธิ์สำคัญในส่วนราก นอกจากสารในกลุ่มแอลคาลอยด์บางชนิดออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อมาลาเรียที่ขึ้นสมอง (เชื้อพลาสโมเดียม ฟาลซิปาลัม) ในหลอดทดลองแล้ว ยังมีสารออกฤทธิ์สำคัญบางชนิดในกลุ่มสารควอซินอยด์ (Quassinoid) เช่น ยูรีโคมานอล (eurycomanol) และยูรีโคมาโนน (eurycomanone) เป็นต้น อันเป็นที่มาของชื่อพฤกษศาสตร์ว่า ยูรีโคมา นั่นเอง

ซึ่งนอกจากมีฤทธิ์บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อยแล้ว ยังมีฤทธิ์เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งยืนยันชัดเจนจากการศึกษาทั้งในสัตว์ทดลองและในทางคลินิก

ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะการศึกษาวิจัยในคน เรื่องผลของการรับประทานสารสกัดน้ำรากปลาไหลเผือกต่อสมรรถภาพทางเพศของอาสาสมัครชายที่มีภาวะต่างๆ กันดังนี้

อาสาสมัครชายที่มีปัญหามีบุตรยากอายุ 30-55 ปี จำนวน 75 คน โดยให้อาสาสมัครรับประทานสารสกัดรากปลาไหลเผือกขนาด 200 ม.ก./วัน นาน 9 เดือน พบว่าในช่วงระยะเวลา 3-6 เดือนแรกของการศึกษา มีคู่สมรสของอาสาสมัครจำนวน 11 คน (ร้อยละ 14.7 )เกิดตั้งครรภ์ตามธรรมชาติได้สำเร็จ

ส่วนอาสาสมัครที่เหลือเมื่อสิ้นสุดการศึกษาพบว่า มีปริมาณน้ำอสุจิและจำนวนสเปิร์มเพิ่มขึ้น มีการเคลื่อนไหวว่องไวแข็งแรงมากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการคัดเลือกสเปิร์มเพื่อผสมในหลอดทดลองให้ได้ผลดียิ่งขึ้น

การศึกษาในคนอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน คือ การศึกษาผลของการรับประทานสารสกัดรากปลาไหลเผือกในอาสาสมัครเพศชายที่มีภาวะพร่องฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) จำนวน 76 คน อายุเฉลี่ย 51 ปี โดยรับประทานสารสกัดน้ำรากปลาไหลเผือกขนาดวันละ 200 ม.ก. นาน 1 เดือน พบว่ามีผลช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนในเลือดของอาสาสมัครให้มีระดับใกล้เคียงกับผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายปกติ คือ 350-1000 นาโนกรัม/เดซิลิตร

ฮอร์โมนเพศชายนั้นสำคัญกว่าที่คิด เพราะไม่ใช่เพียงแค่สร้างลักษณะเอกบุรุษมาดแมนและความแกร่งแห่งชายชาตรีในวัยหนุ่มแน่นเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อชายในวัยสูงอายุด้วย

โดยทั่วไป ชายช่วงหลังอายุ 40 เป็นต้นไป ฮอร์โมนเพศจะลดลง 1-2 % ครั้นอายุ 50 ก็ลดลง 10-20 % ทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงเป็นธรรมดา แต่ไม่ถึงกับเป็นโรคหย่อนหรือหมดสมรรถภาพทางเพศ

ตามหลักแพทย์แผนไทยท่านว่าชายใด “ครุยหะหด” ในวัยกลางคนแสดงว่าร่างกายไม่ปกติ ในคัมภีร์มรณญาณสูตร กล่าวเตือนว่า

“อนึ่งลึงค์บุรุษใด ไม่เกิดราคตัณหา ผู้นั้นจะมรณา กำหนดในสิบเจ็ดปี”

ซึ่งตรงกับภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย ไม่เพียงทำให้ “หำหด” และน้ำอสุจิเหือดหายเท่านั้น แต่ยังทำให้การผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงลดน้อยลงมาก มวลกล้ามเนื้อหดลีบ กระดูกพรุน อ้วนลงพุง นอนไม่หลับ เฉื่อยชา เกิดภาวะซึมเศร้า หลงลืมบ่อย บางกรณีมีเครียด หงุดหงิดง่าย และอายุสั้นก่อนวัยอันควร

ภูมิปัญญาแพทย์พื้นบ้านอันเก่าแก่ มีสมุนไพรรากปลาไหลเผือกตอบโจทย์ปัญหาคุณชายวัยทองหย่อนสมรรถภาพทางกายและทางเพศได้ ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยสมัยใหม่ยืนยันอย่างชัดเจน โดยมีขนาดรับประทานในรูปแบบยาเม็ดหรือแคปซูลที่ได้จากผงสเปรย์ดราย (Spray Dry Powder) วันละ 200-300 ม.ก.หลังอาหารเช้า ติดต่อกันไม่เกิน 3 เดือน จากนั้นควรหยุดยาอย่างน้อย 7 วันหากจะรับประทานต่อ เพราะอาจมีผลทำให้ตับอักเสบได้

ต้องขอทำความเข้าใจว่ายารากปลาไหลเผือกไม่ใช่ยาโด๊ป และมิได้ออกฤทธิ์ติดปั๊บเหมือนยาไวอากร้า แต่จะออกฤทธิ์หลังจากรับประทานไปแล้วอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ พญานาคราชจึงคืนชีพ

ได้ข่าวว่าทางมาเลเซียเขาจดสิทธิบัตรและจำหน่ายสมุนไพรตงกัทอาลีในรูปของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไปเรียบร้อยแล้ว ลุงๆ เมืองสยามเรามีภูมิปัญญาปลาไหล (เผือก) ใส่สเก๊ตมานมนาน อย่าให้น้อยหน้าเขาล่ะ •

 

 

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ | โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง

มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org