ทิ้งบอมบ์ นโยบาย ขายฝัน | จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

1.

หลัง “กกต.” ประกาศรับสมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมืองน้อยใหญ่ต่างงัด “ประชานิยม” มาห้อย-โหนอวดสรรพคุณกันคึกคัก แต่ที่ทำเอามหกรรมหาเสียง พากันกระโดดเป็นกุ้งสะดุ้งมะนาว สั่นสะเทือนวงการมากที่สุด คงไม่มีใครเกิน “ต้นตำรับ” คือ “พรรคเพื่อไทย”

ที่ออกมาทิ้งบอบม์ นโยบาย “เติมเงินดิจทัลวอลเล็ตให้ผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 10,000 บาท จ่ายภายใน 6 เดือน รัศมีทำการ 4 กิโลเมตร” ถ้าพรรคการเมืองอื่น ออกมาขว้างก้อนหินถามทาง ชาวบ้านคิดว่า ลิเก หรือละครเวที แค่ “นิยาย” ขายฝัน

แต่พอพะยี่ห้อ “เพื่อไทย” ใครจะกล้าปฏิเสธ เพราะเคยฝากผลงานเชิงประจักษ์ไว้เยอะแยะมากมาย ชาวบ้านจึงพากันเกิด “ความเชื่อ” ว่าเขาทำได้

ไม่เคยเห็น แต่เชื่อ แสดงว่า โง่มากๆ แต่ “เพื่อไทย” ผลงานเคยบรรเจิด จับต้องได้ทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค-กองทุนหมู่บ้าน-หนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล

ก่อนเทศกาลสงกรานต์ มีหมายนัดพูดคุยกับ “คุณเศรษฐา ทวีสิน” หนึ่งในสามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ “พรรคเพื่อไทย” เจ้าตัวร่ายยาว ซึ่งส่วนมากชี้แจงผ่านสื่อมาแล้วหลายสำนัก

“โดยสรุป” มันเป็นเงินที่อยู่ในมือถือ ไม่เคยใช้คำว่า คริปโต ลืมเรื่องคริปโต บิตคอยน์ไปให้หมด เพื่อไทยต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ จำนวนเงิน 10,000 บาท ระยะเวลาในการใช้คือ 6 เดือน ร้านค้า เอสเอ็มอี อุตสาหกรรมทั้งหมดจะได้ซื้อของมาตุนไว้ มีการจับจ่ายใช้สอยเกิดขึ้น ทำให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ระยะทาง 4 กิโลเมตร อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความจำเป็น โดยจะใช้บล็อกเชนเขียนรัศมีใหม่ได้ อยากให้ใช้ในทุกพื้นที่ชุมชน อายุ 16 ปีขึ้นไป มีประมาณ 50 ล้านคน วงเงิน 5 แสนล้านบาท ทำครั้งเดียว การจัดเก็บภาษี VAT ได้เพิ่มขึ้น

“มันไม่ใช่คริปโต ไม่มีการเปลี่ยนมือได้ ไม่มีราคาขึ้นลง มันคือคูปองที่ไปใส่ในมือถือ มีข้อกำหนดว่าใช้อย่างไร อะไรใช้ไม่ได้บ้าง เหล้า บุหรี่ การพนัน ออนไลน์ ใช้ภายใน 6 เดือน”

2.

“คุณเศรษฐา” เสมือนเสือข้ามห้วย จากนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นำพาองค์กร “แสนสิริ” เติบโตอย่างรวดเร็ว วันนี้กระโจนข้ามฟากมาเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว ซึ่งไม่ใช่คุณลักษณะอันเป็นเนื้อแท้

“ตอนนี้ปรับตัวได้ระดับหนึ่ง แต่มีความลำบากใจ แต่สามารถยอมรับแรงเสียดทานได้พอสมควร ปกติผมไม่ค่อยยอมเท่าไหร่ ใครโต้มาชอบสอยกลับ ตอนนี้ต้องท่องไว้ในใจ เป็นเฮฟวี่เวตแล้ว ไปสวนกลับใคร โดนสอยปลายคางเอาได้ง่ายๆ”

“อย่างเมื่อวาน มีบางคนออกมาโจมตี ผมไม่ได้เล่นมุข ไม่รู้จักเขาจริงๆ เลยไม่ได้ตอบโต้ ต้องนั่งนับหนึ่งถึงร้อย”

3.

แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ขณะนี้คุณอุ๊งอิ๊ง (แพทองธาร ชินวัตร) ใกล้คลอด “คุณชัยเกษม นิติสิริ” ไม่สบายเข้าอู่ซ่อม เหลือแต่เศรษฐายืนโดดเด่นอยู่เพียงหนึ่งเดียว

“เสมอภาคกันทุกพรรค พล.อ.ประวิตร ก็ยืนหนึ่ง ทุกพรรคส่วนใหญ่ยืนกันหนึ่งเดียว เมื่อเช้าไปออกรายการคุณสรยุทธ (สุทัศนะจินดา ช่อง 3) ผมสาบานได้ว่า ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค และหรือจัดอันดับเลย รายชื่อสักคนไม่มีแม้แต่คนเดียว ว่าจะขอนาย ก. จากอันดับที่ 17 ไปอยู่อันดับต่ำกว่า 10 ไม่เคย ผู้สมัคร ส.ส. 400 คน ผมไม่เคยจัดใครไปใส่ตรงไหนเลย อันนี้ชัดเจนมาก แต่ต่อไปจะเชิญผู้สมัครเขต 1 ในหลายจังหวัดที่แพ้ชนะกันแค่หลัก 100 มาติวเข้ม ว่าเรามีนโยบายที่ดีมากมาย เช่น เกณฑ์ทหารโดยสมัครใจ คำว่ายกเลิกเกณฑ์ทหารมีหลายอย่าง ระบบเกณฑ์ทหารโดยสมัครใจ หมายความว่า จะเป็นก็ได้ ไม่เป็นก็ได้ ทางเลือกเพศสภาพก็เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งเรื่องสมรสเท่าเทียม เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เหล่านี้คือปัญหาใหญ่ เราต้องพูดคุยให้ชาวบ้านเข้าใจ

“ผู้สมัครเราบางคนดันไปเชื่อกันว่า จะเกิดแลนด์สไลด์ ทีนี้ล่ะจะเป็นปัญหา คืองานการไม่ทำ ไม่ลงพื้นที่ ไม่ศึกษานโยบายรายละเอียด พูดจาผิดๆ ถูกๆ ไม่ได้ บางเรื่องสำคัญ รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ผมเชื่อว่าพรรคเรากินขาดในจุดนี้ แต่เรื่องสิทธิเสรีภาพ อิสรภาพ เพศทางเลือก เราไม่ได้พูด”

“ตอนนี้โปรแกรมเดินสายหาเสียงแน่น”

4.

นักรบ เท้าต้องแตะสนามรบ ระยะหลังๆ เห็นเจ้าตัวที่ประกาศเจตนารมณ์เป็นคนการเมืองเต็มตัวแล้ว ได้ปรากฏกายเดินสายขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงบ่อยและถี่มาก

“คิวเอี้ยดเลย ต่างจังหวัดหมด อาทิตย์หลังสงกรานต์ทัวร์อีสานหลายจังหวัด เมื่อวาน (11 เมษายน) คุณสุริยะ (จึงรุ่งเรืองกิจ) โทร.มาบอกแกจะลงพื้นที่ด้วย ไปสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เสร็จแล้วไปนอนพักที่หัวหิน จากนั้นรุ่งขึ้นไปประจวบคีรีขันธ์ ไล่กลับมาเข้าราชบุรี คุณสุริยะไปด้วยก็ดี มีคนเยอะ อะไรเยอะขึ้น ได้พบปะประชาชน พรรคพวก ผู้นำท้องถิ่น”

ปฐมเหตุจากการเดินสาย สัญจรไพรช่วยลูกพรรคปราศรัย คิวแทบไม่ว่างเลย “คุณเศรษฐา” สรุปว่า การขึ้นเวทีดีเบตที่ได้รับเชิญจากสื่อสำนักต่างๆ อาจจะต้อง “ตัดไปเลย”

“เพราะส่วนใหญ่มันตรงกับเวลาปราศรัย จะให้โฟนอินเข้ามามันตรงกับช่วงขึ้นเวทีพอดี คือ 17.00-19.00 น. ช่วงนี้ผมต้องปราศรัยทุกวันตามคิว ผมเป็นหน้าใหม่บนเวทีการเมือง ผมไม่ใช่ชินวัตรที่มีแบรนด์เนมอยู่แล้ว ผมไม่ได้หนีดีเบต แต่จุดที่ผมต้องไปช่วยดึงคะแนนมันอยู่ต่างจังหวัด มันอยู่ในจุดยุทธศาสตร์หลายเมือง หลายเขตอำเภอ เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ผมเดินทางจากแพร่ไปเวทีน่าน ที่น่านขึ้น 2 เวที ไปต่อที่ลำปางอีก 2 เวที กลางคืนผมไปเดินไนต์มาร์เก็ตถึง 5 ทุ่ม นอนเที่ยงคืนตื่นตีห้า ออกมาเดินอีก 2 ตลาด ทุกวันเป็นอย่างนี้”

“เศรษฐา” ยอมรับว่า ขณะนี้มีพื้นที่เลือกตั้งประมาณ 50 เขต คะแนนยังสูสีกันมาก บวก-ลบ 1-2 เปอร์เซ็นต์ คะแนนเสียงใกล้เคียงกันมาก ระดับ 500-1,200 คะแนน ผมดูดาต้ามาแล้ว หลังสงกรานต์พรรคเพื่อไทยจัดเต็มที่ทุกภาค